รวบ “เจ้ปุ้ย มนต์ตรา วาโย”
แก๊งหลอกเช่ารถยนต์ เชิดส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน
19 พ.ย.65 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.จิรภพ ภูเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบก.ป.,
พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์ รอง ผกก.3 บก.ป.ปฏิบัติติราชการ กก.2
บก.ป., พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร, พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก
รอง ผกก.2 บก.ปทส. ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป., พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ รอง ผกก.2 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร.ต.อ.พยอม หอมวัฒนวงศ์ รอง สว.กก.2 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ
กก.2 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายศิขรินทร์(สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปีในข้อกล่าวหา “ยักยอกทรัพย์” ตามหมายจับ
ศาลจังหวัดนครพนม ที่ จ. 170/2565 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2565
ร่วมกันจับกุม บริเวณลานจอดรถแห่งหนึ่ง ถ.รัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจาก ได้มีกลุ่มชื่อว่า “มนต์ตรา วาโย” เป็นชื่อของแก๊งหลอกเช่ารถยนต์ เพื่อนำไปส่ง
ขายต่อให้กับแก๊งโจรกรรมรถในประเทศเพื่อนบ้าน โดยพฤติกรรมของแก๊งนี้จะทำการติดต่อเช่ารถยนต์ตาม
เว็บไซต์ต่างๆ หรือเคาน์เตอร์ให้เช่ารถยนต์เพื่อการท่องเที่ยวตามสนามบินในเมืองท่องเที่ยวของประเทศไทย
โดยแก๊งนี้จะใช้วิธีการแฝงตัวในลักษณะของนักท่องเที่ยว หลอกเช่ารถโดยใช้บัตรประชาชนของสมาชิกในกลุ่ม
เพื่อทำการก่อเหตุ โดยจะเลือกเฉพาะรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ รุ่นสปอร์ตทีอาร์ดี ซึ่งเป็นที่ต้องการของ
ประเทศเพื่อนบ้าน
ต่อมา นายศิขรินทร์ฯ หรือเจ้ปุ้ย ได้เดินทางไปที่จังหวัดนครพนมพร้อมกับ
เพื่อน 3-4 คน เมื่อถึงสนามบินนายศิขรินทร์ฯ จะไปติดต่อเคาน์เตอร์ให้บริการเช่ารถยนต์เพื่อรับรถยนต์ที่ทาง
สมาชิกได้จองไว้ก่อนหน้านี้เมื่อได้รับรถยนต์มาแล้ว นายศิขรินทร์ฯ ได้ขับรถยนต์ไปส่งให้กับเพื่อน
ซึ่งรอรับรถยนต์อยู่ที่ด้านนอกสนามบิน ก่อนจะขับไปส่งยังชายแดนประเทศเพื่อนบ้านตามออร์เดอร์ที่ได้รับมา
จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่า นายศิขรินทร์ฯ หรือเจ้ปุ้ย ได้วางแผนเพื่อก่อเหตุเช่นเดิม โดย
จะนัดรับรถเช่ายี่ห้อรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ รุ่นสปอร์ตทีอาร์ดี ที่ลานจอดรถดังกล่าว จึงได้ทำการวางแผน
เข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา และสามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน
สภ.เมืองนครพนม
ผู้ต้องหาเบื้องต้น นายศิขรินทร์ฯ ให้การรับว่าเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลาย
ครั้ง โดยจะได้รับค่าจ้าง ครั้งละ 10,000 บาท
