“ตม.5 เปิดยุทธการ ฟ้าสางที่ล้านนา ปิดล้อมตรวจค้น จุดเสี่ยง บุคคลต่างด้าว ปฎิบัติการ 27 ชุด 17 ตม.จว.เพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรม ก่อนเปิดการประชุม APEC !!
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองระดมกวาดล้างอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าวทุกรูปแบบ เพื่อรองรับก่อนการประชุม APEC 2022 พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษณ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้ามาพำนักในราชอาณาจักร ไม่ให้เข้ามากระทำผิดกฎหมาย หรือแอบแฝงเข้ามาอยู่โดยไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ การนี้ พล.ต.ต.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทำการปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าวในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อตรวจสอบการพักอาศัย การอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต (Overstay) การกระทำผิดกฎหมายต่าง ๆ และตรวจสอบลักษณะหรือพฤติการณ์ต้องห้ามมิให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
บก.ตม.5 ขอสรุปผลการปิดล้อมตรวจค้น/จับกุมผู้ต้องหา ภายใต้ “ยุทธการฟ้าสาง” โดยเปิดยุทธการพร้อมกัน 17 ตม.จว.,1 ด่าน ตม.และ 1 กก.สส.ฯ เมื่อวันเสาร์ ที่ 12 พ.ย.65 ดังนี้
1.ตรวจค้น/ตรวจสอบ เป้าหมาย จำนวน 25 จุด
2.ผลการปฏิบัติ จับกุมผู้ต้องหาคนต่างด้าว จำนวน 29 ราย และเจ้าบ้านคนไทยไม่แจ้งคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยฯ ตาม ม.38 จำนวน 11 คดี ดังนี้
2.1 จับกุมผู้ต้องหาสัญชาติเมียนมา จำนวน 25 ราย ในข้อหา ดังนี้
2.2.1 นำพาคนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรฯ จำนวน 1 ราย
2.2.2 หลบหนีเข้าเมือง จำนวน 21 ราย
2.2.3 อยู่เกินกำหนด (Overstay) จำนวน 2 ราย
2.2.4 ทำงานนอกเหนือสิทธิจะทำได้ฯ จำนวน 1 ราย
2.2 จับกุมผู้ต้องหาสัญชาติจีน จำนวน 2 ราย ข้อหา “อยู่เกินกำหนด (Overstay)”
2.3 จับกุมผู้ต้องหาสัญชาติอินโดนีเซีย จำนวน 1 ราย ข้อหา “อยู่เกินกำหนด (Overstay)”
2.4 จับกุมผู้ต้องหาสัญชาติอินเดีย จำนวน 1 ราย ข้อหา“ไม่แจ้งที่พักอาศัยเมื่ออยู่เกิน 90 วัน (ม.37)”
2.5 จับกุมและดำเนินคดีเจ้าบ้านสัญชาติไทย ข้อหา “ไม่แจ้งคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยฯ (ม.38)” จำนวน 11 คดี
และผลการปฏิบัติของหน่วยในสังกัดมีดังนี้
1.ตม.จว.เชียงใหม่ และ กก.สส.บก.ตม.5 จับกุมผู้ต้องหาสัญชาติจีน ข้อหา “อยู่ในราชอาณาจักรโดยการโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Over stay)” จำนวน 2 ราย
2.ตม.จว.เชียงราย จับกุมผู้ต้องหาสัญชาติเมียนมา ข้อหา “นำพาฯ” จำนวน 1 ราย ข้อหา “หลบหนีเข้าเมือง” จำนวน 14 ราย รวม 15 ราย
3.ตม.จว.ตาก จับกุมผู้ต้องหาสัญชาติเมียนมา ข้อหา “หลบเข้าเมือง” 6 ราย และข้อหา”อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay)” จำนวน 2 ราย รวม 8 ราย
4.ด่าน ตม.เชียงแสน จับกุมผู้ต้องหาสัญชาติเมียนมา ข้อหา “หลบหนีเข้าเมือง” จำนวน 1 ราย และจับกุมเจ้าบ้านสัญชาติไทยไม่แจ้งที่พักอาศัยคนต่างด้าวฯ (ม.38) จำนวน 5 คน
5.ตม.จว.แม่ฮ่องสอน จับกุมผู้ต้องหาสัญชาติอินโดนีเซีย ข้อหา “อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay)” จำนวน 1 ราย และจับกุมเจ้าบ้านสัญชาติไทยไม่แจ้งที่พักอาศัยคนต่างด้าวฯ (ม.38) จำนวน 1 คดี
6.ตม.จว.เพชรบูรณ์ จับกุมตัวผู้ต้องหาสัญชาติอินเดีย ข้อหา “ไม่แจ้งที่พักอาศัยฯ ตาม ม.37(2)” จำนวน 1 ราย
7.ตม.จว.นครสวรรค์ จับกุมเจ้าบ้านสัญชาติไทย ไม่แจ้งที่พักอาศัยคนต่างด้าวฯ (ม.38) จำนวน 2 คดี
8.ตม.จว.พะเยา จับกุมเจ้าบ้านสัญชาติไทย ไม่แจ้งที่พักอาศัยคนต่างด้าวฯ (ม.38) จำนวน 2 คดี
9.ตม.จว.ลำพูน จับกุมเจ้าบ้านสัญชาติไทย ไม่แจ้งที่พักอาศัยคนต่างด้าวฯ (ม.38) จำนวน 1 คดี
10.ตม.จว.อุทัยธานี จับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ข้อ “ทำงานนอกเหนือที่มีสิทธิจะทำได้” จำนวน 1 ราย
ทั้งนี้ บก.ตม.5 จะได้ดำเนินการขับเคลื่อนการปฏิบัติตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาในการป้องกันและปราบปรามคนต่างด้าวที่แอบแฝงเข้ามากระทำความผิดในประเทศ อย่างต่อเนื่อง จริงจัง เป็นรูปธรรมต่อไป