ผบ.ตร. ยันตั้งแต่รับตำแหน่งไม่เคยพบบ่อน ด้าน ผบช.น.ไม่หวั่นนักพนันเปรียบบ่อนเป็นสินค้าโอท็อป หากมีหลักฐานให้ส่งมา
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีบ่อนการพนันที่มีคนในพื้นที่ออกมาให้เบาะแสว่ายังมีบ่อนการพนันอยู่ ว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งมา 1 ต.ค. ยืนยันไม่มี ต้องไปตรวจสอบให้ดี ต้องถามว่าเหตุเกิดตอนไหน ก็ต้องชัดเจน การพูดต่างๆ ก็ต้องดูว่าเหตุเกิดตอนไหน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีตำรวจไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทามีบทลงโทษหรือดำเนินการอย่างไรบ้าง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นไปตามกฏหมายซึ่งได้บอกไปแล้วว่าถ้าใครทำผิดหรือพยานหลักฐานไปถึงก็ต้องดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ทุกอย่าง เช่น ทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เรื่องเข้าไปเอาทะเบียนราษฎร เราก็ได้ดำเนินการไปแล้ว
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ต้องแยกประเด็นก่อน การที่เราตรวจพบ การที่ไปกดทะเบียนราษฎร์ 14 เกิดจากการที่เราตรวจสอบเส้นทางการเงินของบัญชีม้าที่เกี่ยวกับเรื่องสถานบันเทิงหรือแม้แต่ออนไลน์ไปแตะนายตำรวจ หรือข้าราชการหน่วยอื่นๆ เราก็ไปเช็คว่าข้อมูลตัวนี้เขาเอาไปทำอะไรได้บ้าง ก็พบว่ามีการไปกดทะเบียนราษฎรเป็น 1000 ครั้งมันผิดปกติ ทาง ผบ.ตร.ให้ผมประสานกับทางปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมการปกครอง ในการทำเรคคอร์ดว่ามีการกดข้อมูลทะเบียนราษฎร์ 14 โดยผิดปกติก็จะมีการแจ้งมาทางตำรวจ ก็จะมีการตรวจสอบเช็คกันทางลับ เพราะเมื่อก่อนไม่สามารถตรวจเช็คได้ว่าใครไปกดอะไร แต่สิ่งที่เป็นร่องรอยของการกดคือ หากผมจะเข้าไปกดเองจะต้องใช้รหัส 13 หลัก เพื่อเข้าไปในระบบ เมื่อเข้าระบบแล้วก็จะทำการบันทึกว่าใครเข้าไปเอาข้อมูล สิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องพึงระวัง หากเข้าไปเอาข้อมูลแล้วข้อมูลหลุดไปยังมิจฉาชีพ ท่านจะต้องรับผิดชอบ ฉะนั้นผู้ที่จะต้องเข้าไปเอาข้อมูลได้จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี หรือมีหน้าที่สอบสวน ซึ่งได้มีการสอบถามกับกระทรวงมหาดไทยแล้ว
เมื่อถามว่ามีการเปรียบเทียบว่าบ่อนการพนันในกรุงเทพมหานครเปรียบเหมือนสินค้าโอทอป
คือทุกโรงพักจะมีหนึ่งบ่อนการพนัน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. กล่าวว่า อันดับแรกต้องบอกว่าอันนั้นเป็นแนวคิดของนักพนัน ถ้าเป็นประชาชนทั่วไปโดยปกติคงไม่ได้มีมุมมองแบบนั้น สิ่งที่พูดถ้ามีพยานหลักฐานกล่าวอ้าง ยินดีที่จะรับมาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะทาง ผบ.ตร.มีนโยบายชัดเจนในเรื่องอบายมุข ที่เกี่ยวข้องกับบ่อนการพนันหรือสถานบริการ ที่เป็นแหล่งแพร่ระบาดของอาชญากรรม เรามีความชัดเจนในการปราบปรามอยู่แล้ว ถ้าพี่ๆสื่อหรือประชาชนมีความชัดเจนในข้อมูลส่งข้อมูลทางลับมาได้ดำเนินการทุกกรณี
เมื่อถามอีกว่าได้ให้น้ำหนักของนักพนันที่กล่าวอ้างแบบนี้หรือไม่ พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า น้ำหนักที่จะให้อยู่ที่เอกสาร หรือข้อมูลที่เขานำมา มีข้อมูลก็นำมาส่ง ยินดีรับ มีช่องทางให้นำข้อมูลส่งมาได้เพราะผมอยู่ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลทุกวัน เรามีช่องทางทุกการสื่อสารอยู่แล้ว ซึ่งการที่จะสื่อสารผ่านสื่อก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร ก็ยินดีรับมาปฏิบัติ
เมื่อถามอีกว่านักพนันมีการอ้างตัวเลขถึง 30 กว่าบ่อนในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีการตรวจสอบข้อมูลนี้หรือไม่ พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า เรามีการตรวจสอบทางลับอยู่แล้วตามที่กล่าวอ้าง แต่ถามว่าสิ่งที่พูดอยู่บนพื้นฐานอะไร แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูล ถ้าพบก็ดำเนินการจับกุมเลย
เมื่อถามต่อว่าข้อมูลที่นักพนันอ้างหากตรวจสอบแล้วไม่มีอยู่จริงจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า เป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือไม่ ผมคิดว่าข้าราชการตำรวจ เรามีส่วนที่จะดำเนินการ ที่เป็นสาระสำคัญในหลายๆ เรื่องทั้งการให้ความปลอดภัยกับประชาชน การดูแลภาคประชาชน แต่สิ่งที่เราดำเนินการแล้วไม่เกิดเป็นผลหรือส่งผลประโยชน์ต่อภาคประชาชน เราคิดว่าจะจัดความสำคัญในการดำเนินการ เราคงไปวางมาตรการอะไรที่นอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดไม่ได้ กฎหมายบอกว่าเขามีสิทธิ์ที่จะให้การหรือไม่ให้การ ได้รับการประกันหรือไม่ได้รับการประกัน มีข้อกฎหมายกำหนดในการปฏิบัติอยู่แล้ว จะไปตั้งกติกาว่าจะให้หรือไม่ให้ไม่ใช่ เพราะมีระเบียบวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนอยู่
เมื่อถามถึงสถานบันเทิงจินหลิง ย่านยานนาวา พล.ต.ท.ธิติ กล่าวว่า ฝ่ายสืบสวนดำเนินการขยายผลอยู่
///////////////