เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 2 พ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. ดูแลงานบริหาร 1 พ.ต.อ.อภิสัณห์ หว้าจีน รองผบก.อก.บช.น. พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทรผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.ฝอ.5 บก.อก.บช.น. พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ดุสิต พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.วิเชียร เอี่ยมสะอาด ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสืบสวน บก.สส.บช.น. ร่วมกันแถลงจับกุมนายนัฐวุฒิ หรือนัฐ ปัญจชัย อายุ 37 ปี ชาวจ.ลพบุรี พร้อมของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง, เครื่องพิมพ์เอกสาร (ปริ้นเตอร์) 1 เครื่อง, เอกสารที่พบร่องรอยตราประทับที่ใช้ประทับบนเอกสารแบบ ธภ.7 ปลอม 1 ชุด จับกุมได้ที่สำนักงานฝ่ายอำนวยการ 5 กองบังคับการอำนวยการ ถนนศรีอยุธยา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 29 เม.ย.เวลาประมาณ 16.15 น. ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยส่าา สืบเนื่องจาก ฝอ.5 บก.อก.บช.น. ถือว่าเป็นนายทะเบียนประจำกรุงเทพมหานคร ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ.2558 ได้ตรวจพบว่ามีใบอนุญาตรักษาความปลอดภัยรับอนุญาต (แบบ ธภ.7) ไม่ถูกต้อง โดยมิใช่เป็นใบอนุญาตที่นายทะเบียนออกให้ จึงได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขึ้น จากการสืบสวนสอบสวน ทราบว่า มีบุคคลไปหลอกลวงบริษัทผู้ประกอบการธุรกิจรักษาความปลอดภัย โดยแอบอ้างว่า สามารถดำเนินการประสานงานกับนายทะเบียนใบอนุญาตพนักงานรักษาความปลอดภัย เพื่อเดินเรื่องในการออกใบอนุญาตหรือต่อใบอนุญาตพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาต (แบบ ธภ.7) ได้ โดยคิดค่าดำเนินการ แต่ปรากฏว่า ใบอนุญาตที่ทางบริษัทผู้ประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัย ได้รับไปนั้นเป็นใบอนุญาตที่นายทะเบียนกรุงเทพมหานครไม่ได้ออกให้แต่อย่างใด ถือได้ว่าเป็นเอกสารราชการปลอม ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายสอบสวน ได้ทำการสืบสวนสอบสวนเรื่อยมา จนกระทั่งทราบว่า นายนัฐวุฒิ หรือนัฐ ปัญจชัย อายุ 37 ปี ซึ่งทำงานเป็นผู้อำนวยการบริษัทที่เป็นศูนย์ฝึกพนักงานรักษาความปลอดภัย ได้ไปหลอกลวง บริษัท รอยัลการ์ด เซอร์วิสเซส จำกัด เลขที่ 300/55 ถนนนวมินทร์ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาอ้างว่าสามารถดำเนินการเดินเรื่องออกใบอนุญาตให้พนักงานรักษาความปลอดภัยของทางบริษัทฯ ได้ ทางบริษัท หลงเชื่อจึงได้ให้ดำเนินการจำนวน 10 ราย และจากนั้นได้รับใบอนุญาตปลอมจากผู้ต้องหา และบริษัท เวนเดอร์ ซัพพลาย จำกัด ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 68/342 ซอยรามคำแหง 164 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาอ้างว่าสามารถดำเนินการเดินเรื่องออกใบอนุญาตให้พนักงานรักษาความปลอดภัยของทางบริษัทฯ ได้ ทางบริษัท หลงเชื่อจึงได้ให้ดำเนินการจำนวน 40-50 ราย และจากนั้นได้รับใบอนุญาตปลอมจากผู้ต้องหา
ด้านพล.ต.ต.นิตินันท์ กล่าวว่า พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.ในฐานะนายทะเบียนกรุงเทพมหานคร มอบหมายให้ ตนเป็นหัวหน้าคณะกรรมสืบสวนสอบสวน ให้รองผบก.อก.บช.น. ทำการสืบสวนสอบสวน และฝอ.5 บก.อก.บช.น. ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ต่อมาได้รวบรวมพยานหลักฐาน และยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขอออกหมายจับนายนัฐวุฒิ หรือนัฐ ปัญจชัย ศาลอนุมัติหมายจับ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 848/2565 ลง 29 เม.ย.65 ในความผิดฐาน “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม” ต่อมาคณะสืบสวนสอบสวน ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว ได้ดังกล่าว ทั้งนี้ กรณีบริษัทรักษาความปลอดภัยหรือบุคคลใดที่ประสงค์จะขอรับใบอนุญาตเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาต อย่าหลงเชื่อ บุคคลหรือผู้ใดที่แอบอ้าง ว่าสามารถดำเนินการได้ หากบริษัทรักษาความปลอดภัยหรือบุคคลใดที่ประสงค์จะขอรับใบอนุญาตเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาต สามารถติดต่อขอรับใบอนุญาตได้ที่ งานธุรกิจรักษาความปลอดภัย ชั้น ๑ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กรณีต่างจังหวัดสามารถติดต่อขอรับใบอนุญาตได้ที่ ตำรวจภูธรจังหวัด ที่บริษัทของท่านตั้งอยู่หรือจังหวัดที่ท่านทำงาน เท่านั้น และหากมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่งานธุรกิจรักษาความปลอดภัย บช.น. โทร 02-280-5189 (วันเวลาราชการ) หรือ Line id : guardf5 ต่างจังหวัดสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด จังหวัดนั้นๆ ทันที
ด้านพ.ต.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่ส จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้ทำปลอมเอกสารดังกล่าวของทั้ง 2 บริษัทดังกล่าวขึ้นจริง หลังทางบช.น.ตรวจสอบพบตั้งแต่เดือนมี.ค.2564 ที่ผ่าน โดยรู้ช่องทาง เพราะเคยมาติดต่องานให้บริษัทกับฝอ.5 บก.อก.บช.น. ใช้วิธีการเติมคำในแบบฟอร์ม และได้ทำตราประทับขึ้นมา และทำการประทับตราที่ใบอนุญาตปลอมดังกล่าว โดยการพิมพ์แบบฟอร์มนั้น ใช้คอมพิวเตอร์ของบริษัทที่ตนเองทำงานอยู่ และใช้ปริ้นเตอร์ของทางบริษัทด้วย และจากนั้น ได้ยินยอมให้ทำการตรวจยึด และตรวจค้น โดยทางบริษัทที่ผู้ต้องหาทำงานอยู่ ยินยอมให้ทำการตรวจยึดและตรวจค้น ผลการตรวจค้น ยังพบเอกสารที่เป็นร่องรอยหมึกตราประทับบช.น. ซึ่งต้องใช้ประทับบนแบบฟอร์ม อยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของผู้ต้องหา ส่วนแบบฟอร์มที่ใช้ทำปลอมนั้น ได้ลบจากเครื่องคอมพิวเตอร์ไปแล้ว และตราประทับที่ขึ้นได้ทิ้งขยะ และรถขยะขนขยะไปทิ้งแล้ว รายได้จากการก่อเหตุดังกล่าวหากกรณีพนักงานรักษาความปลอดภัยใหม่ 3,500 บาท การต่อใบอนุญาต 750-1,000 บาท รวมใช้อ้างกับบริษัทที่ดูแลพนักงานรักษาความปลอดภัยว่ารู้จักตำรวจสามารถดำเนินการได้ง่าย บริษัทก็ชอบ เพราะไม่ต้องจ่ายเอง ไปเก็บกับพนักงานรักษาความปลอดภัย อีกต่อหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบการกระทำผิดเกิดขึ้นที่จ.นนทบุรี และจ.สมุทรสาคร หากพบความผิดปกติทั้งนี้ ฝ่ายสืบสวนจึงได้ตรวจยึดคอมพิวเตอร์ ปริ้นเตอร์ เพื่อส่งให้ผู้เชี่ยวชาญ ทำการกู้ข้อมูล ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ดุสิต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป