ญาติผู้เสียชีวิตจากการกินอาหารเสริมร้องกองปราบฯเร่งรัดคดีตามจับผู้ต้องหาหลบหนี
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 พฤษภาคม ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พร้อมด้วย นายวุฒิกร หมอนอิง ญาติของ น.ส.พิมลวรรณ หมอนอิง ผู้เสียชีวิตจากการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารเสริมยี่ห้อลีน เมื่อปี 2561 เดินทางเข้าพบ เข้าพบ พ.ต.ท.หญิง บุญทิวา ลิ้มศิริลักษณ์ รองผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อขอให้เร่งรัดคดี เนื่องจากคดีดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 รายแล้ว เมื่อปี 2561 แต่เพิ่งมีการฟ้องศาลในปี 2564 อีกทั้งผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว 2 ราย กลับไม่ถูกดำเนินคดีและกลายมาเป็นพยาน ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 รายซึ่งเป็นเจ้าของโรงงาน ไม่มาตามนัดศาลเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา และหลบหนีไป ส่งผลให้คดีความไม่คืบหน้า
นายรัชพล กล่าวว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2561 แต่เพิ่งมีการฟ้องศาลเมื่อปี 2564 ซึ่งถือว่าล่าช้า และเมื่อครั้งจับกุมผู้ต้องหา ตำรวจได้ทำการจับกุม 3 ราย แต่กลับมีการดำเนินคดีเพียงรายเดียว ส่วนอีก 2 ราย กลายเป็นพยาน นอกจากนี้ จำเลยที่ถูกดำเนินคดี กลับไม่มาตามนัดศาลเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา และหลบหนีไป จึงทำให้คดีไม่คืบหน้า โดยคดีดังกล่าวอยู่ในท้องที่ของ สภ.เมืองกาญจนบุรี
ด้าน นายวุฒิกร กล่าวว่า เรื่องของสำนวนนั้นตนได้รับรู้เพียงแค่ช่วงแรก มาทราบอีกครั้งเมื่อผู้ต้องหากลับกลายเป็นพยาน โดยตำรวจให้เหตุผลว่าให้การเป็นประโยชน์ต่อคดี ซึ่งผู้ต้องหาอีก 2 ราย อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับสารไซบูทรามีน ที่ถูกใส่เข้าไปในผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ตนติดใจกับการทำสำนวนของตำรวจ จึงมาร้องขอความเป็นธรรมกับกองปราบปราม เพราะคดีความไม่คืบหน้า และไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากยังไม่สามารถจับกุมตัวจำเลยที่หลบหนีไปได้ โดยตนยังติดใจทั้งประเด็นที่ผู้ต้องหากลับกลายเป็นพยาน และจำเลยที่หลบหนีไป ซึ่งตนได้สอบถามทางตำรวจแล้ว ตำรวจให้เหตุผลว่าให้การที่เป็นประโยชน์ และไม่มีส่วนรู้เห็นกับการใส่สารไซบูทรามีน จึงอยู่ในฐานะพยาน ตนรู้สึกรับไม่ได้ จึงอยากให้กองปราบปรามทำการจับกุมจำเลยที่ยังหลบหนีอยู่ และหากเป็นไปได้ ก็อยากให้เข้ามาดูเรื่องของสำนวนคดีเช่นกัน เท่าที่ทราบ คดีนี้ยังมีผู้เสียหายรายอื่นอีกประมาณ 5 ราย ส่วนของตน พี่สาวได้ซื้อมาทาน ต่อมาไม่นานก็มีอาการแน่นหน้าอก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งแม่ของตนเองก็รับไม่ได้ จนตรอมใจและเสียชีวิต ส่วนทางเจ้าของบริษัท ก็ไม่เคยติดต่อมาแต่อย่างใด