5 เยาวชนวัยโจ๋ เข้ามอบตัวตำรวจหลังยกพวกใชีมีดฟันรถ จยย. ยอมชดใช้คู่กรณีถอนแจ้งความ แต่ยังยืนยันต้องย้ายบ้านหนี
จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ก.ย.65 เวลาประมาณ 23.57 น. มีกลุ่มวัยรุ่นเป็นชายอายุประมาณ 15-18 ปี จำนวน 5 คน ขี่รถจยย.มา 2 คัน ตะโกนท้าทายคนในบ้าน และใช้อาวุธมีดและอาวุธง้าว ที่พกติดตัวมาด้วยฟันไปที่ประตูรั้วก่อนจะใช้เท้าถีบประตูเหล็กหน้าบ้านจนพังเสียหายแล้วได้บุกรุกจะเข้ามาในบ้านจะเอามีดมาฟันลูกสาวอายุ 18 ปี กับเพื่อนรุ่นน้องอายุ 14 ปีที่อยู่ในบ้านก่อนจะใช้อาวุธมีดฟันรถจยย.ที่จอดอยู่เสียหายจำนวน 3 คัน คือ 1.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า PCX ทะเบียน 6 กภ-7233 กทม. 2.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ออนต้าคลิก ทะเบียน สงก-203 กทม.3.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนต้า เวฟ ทะเบียน 2ขย-8142 กทม.หลังจากนั้นได้หลบหนีไป ที่เกิดเหตุภายในหมู่บ้านเต็มรัก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี แจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 24 ก.ย.65 เวลา 13.30 น. ทางผู้ปกครองของเยาวชนทั้ง 5 คน ได้พาลูกหลานวัยโจ๋ที่ก่อเหตุเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง
โดยนายเทน หัวโจ๋กของกลุ่ม เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวเจ้าของบ้านโทรมาหาตน บอกว่าได้ไปขับรถไล่รุ่นน้องไหม ตนเลยบอกว่าเป็นคนไปไล่เองตนพูดเล่น เขาเลยถามว่าไล่รุ่นน้องเขาทำไม แล้วรุ่นน้องมันก็ด่าผ่านโทรศัพท์มา เก่งกับเด็กเหรอไอ้เหี้ย ตนเลยโมโหทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันเลยมาด่าแบบนี้ พอรุ่นน้องด่าเสร็จคนชื่อโมมาด่าตนต่ออีก แล้วโทรศัพท์มาหาไม่หยุด ตนต้องทำงาน ตนเลยโมโห เขานัดไปบางใหญ่ ตนวิ่งไปก็ไม่เจอ นัดตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง มันนัดเล่นเล่น ตนบอกแล้วตนไม่ได้เล่นงานผู้หญิงในแชทมี ตนจะเล่นงานผู้ชายมาด่าตน เลยท้าให้ออกมานอกบ้าน ในแชทตนบอกโมไม่ต้องออกมา แต่ผู้ชายคนที่ด่าตนมันไม่ออกมา ตนเลยโกรธมากกว่าเดิม ทางแม่บอกว่าตนไปฟันลูกสาวเขาตนยอมรับว่าตนฟันรถจยย.จริง ยอมรับว่าพังบ้าน แต่ตนไม่ได้ไล่ฟันลูกสาว เขา
เวลาต่อมานางวาสนา เจ้าของบ้าน เดินทางมาที่สภ.บางบัวทอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดให้มีการเจรจาพูดคุยปรับความเข้าใจกัน ซึ่งนางวาสนาเอง เผยว่าหลังมีการพูดคุยกันแล้วทางคู่กรณียินยอมขอโทษและชดใช้ค่าเสียหายพร้อมค่าทำขวัญอีก 5,000 บาท รวมทั้งทั้งจะไปซ่อมประตูรั้วที่เสียหายและรถจักรยานยนต์อีก 3 คัน พร้อมทั้งดูแลเปลี่ยนอะไหล่แท้ให้ทั้ง 3 คันที่ได้รับความเสียหาย เรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากการท้าทายกันไม่ได้มาจากสาเหตุอื่นใด ตำรวจเองก็ไม่อยากให้ทั้งสองฝ่ายเจอก็หน้ากัน อีกอย่างเด็กทั้งหมดก็ยังเรียนหนังสือกันอยู่ ตนเองไม่อยากให้เสียอนาคต เรื่องคดีแม่ก็จะถอนแจ้งความให้เด็กๆจะได้ใช้ชีวิตปกติ ส่วนที่ว่าจะย้ายบ้านหรือไม่แม่ก็ยืนยันว่าย้ายแน่นอนก็ไม่อยากให้เกิดการปะทะเจอหน้ากันอีกถ้าย้ายไปจะได้ไม่ต้องเจอกันจะได้ไม่ปะทะกัน จะดูปลอดภัยกว่า ขอบคุณตำรวจและสื่อมวลชนที่เข้ามาช่วยเหลือจนจบด้วยดี