พี่สาวร้อง ป.รื้อคดีแพทย์หญิงยิงตัวตายมีเงื่อนงำหวั่นน้องถูกฆาตกรรม
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พาพญ.เอกอุรา ตันวรเศรษฐี เข้าพบ ร.ต.อ.ณัฐนันท์ จะสูงเนิน รอง.สว.กก.2.บก.ป.เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.ให้รื้อคดีการเสียชีวิตของ พญ.อุรารัตน์ เบญจารัตนมณี น้องสาว เนื่องจากครอบครัวไม่เชื่อว่าเป็นการยิงตัวเองเสียชีวิตแต่น่าจะเป็นการฆาตกรรม เนื่องจากคดีมีเงื่อนงำหลายอย่างและผู้ตายไม่มีมูลเหตุจูงใจให้ก่อเหตุยิงตัวเอง ประกอบกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีไม่ทำคดีชันสูตรนับจากวันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบันและไม่เอาสำนวนไว้ที่ สภ.บางปะอินแต่เพิ่งได้รับกลับคืนมาวันที่16 ก.ย.65 ซึ่งเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้กระทำผิด
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 พบ พญ.อุรารัตน์ เบญจารัตนมณี เสียชีวิตในห้องนอนโดยมีผ้าห่มคลุมอยู่และมีอาวุธปืนตกอยู่ทางด้านซ้าย หลังเกิดเหตุตำรวจได้เก็บอาวุธปืนของกลางและโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องไปตรวจพิสูจน์และแพทย์มาชันสูตรการเสียชีวิต ผลการชันสูตร ที่ รพ.ธรรมศาสตร์(รังสิต)พบมีสารยานอนหลับในร่างกาย และผู้ตายถูกเอาหมอนกดทับที่หน้าอกแล้วยิง โดยแพทย์นิติเวชยืนยันว่าผู้ตายอาจจะยิงตัวตายหรืออาจจะมีคนทำให้ตายก็ได้ แต่ไม่ฟันธงว่ายิงตัวเองตายหรือถูกทำให้ตาย หลังจากที่มีการผ่าพิสูจน์ศพแล้วพบว่ามีข้อพิรุธ โดยเฉพาะผู้ตายถูกยิงทะลุผ่านหมอนและผ่านหน้าอกทะลุลงไปยังพื้นในที่นอน
แต่สภาพศพผู้เสียชีวิตคุณหมอระบุว่ามีการนอนตะแคงและเป็นคนถนัดขวาแต่อาวุธปืนตกทางซ้าย ประกอบกับผู้ตายยิงปืนไม่เป็นแต่ลักษณะการยิงดูคล้ายกับมือปืนมืออาชีพ อีกทั้งในวันที่เกิดเหตุผู้ตายได้นัดแม่ฟอกไตช่วงตี 5 ทำให้ไม่มีมูลเหตุในการกินยานอนหลับ นอกจากนี้ในวันเกิดเหตุทราบมาว่ามีโทรศัพท์มือถือหายไปจำนวน 1 เครื่อง และทราบว่าพนักงานสอบสวนมีการนำอาวุธปืนที่ได้จากที่เกิดเหตุเอาไปขายและแจ้งว่าทำหายไปแล้ว
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า สำหรับมูลเหตุจูงใจในการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากคนใกล้ชิดของผู้ตายและพวกอย่างน้อย 2 ราย ร่วมกันก่อเหตุ จึงมาร้องกองปราบปรามให้รื้อคดีขึ้นมาใหม่และแม้จะผ่านมาเกือบ 2 ปี แต่หากจะรื้อคดีนี้ก็สามารถทำได้ ไม่ได้เป็นอุปสรรคเพราะมีทั้งพยานหลักฐานและผลนิติเวช ซึ่งหลักฐานทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์เหลือแต่ที่กองปราบที่จะช่วยคลี่คลายคดีนี้
ด้านพญ.เอกอุรา ตันวรเศรษฐี พี่สาวของผู้ตาย เชื่อว่าน้องสาวถูกฆาตกรรม โดยเฉพาะผู้ต้องสงสัยเชื่อว่าเป็นคนสนิทของผู้ตายเอง เนื่องจากมีปัญหากันมาตลอดหลายปี ประกอบน้องสาวไม่มีเหตุจูงใจให้ต้องฆ่าตัวตาย เพราะได้มีการวางแพลนชีวิตและการทำงานไว้ โดยเตรียมจะย้ายลงไปทํางานที่อ.เบตง จว.ยะลา เพราะไม่อยากมีปัญหากับคนสนิท แต่ดันมาเกิดเหตุเสียก่อน
ภายหลัง ร.ต.อ.ณัฐนันท์.รับเรื่องได้ทำการสอบปากคำ เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาสั่งการต่อไป
////////////