นนทบุรี แตกตื่น สารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งรั่วไหล ชาวบ้านสูดดม หามส่งรพ. 2 ราย เจ้าหน้าที่ระดมกำลังช่วยเหลือ
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 10 ธ.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางศรีเมือง ได้รับแจ้งเหตุสารแอมโมเนียรั่วไหลจากโรงน้ำแข็งแห่งหนึ่ง ภายในซอยเพิ่มแฉล้มอุทิศ (ซอยวัดพุฒิปรางค์ปราโมทย์) ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมด้วยทีมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รีบรุดเข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบสาเหตุของการรั่วไหลอย่างเร่งด่วน
ที่เกิดเหตุเป็นโรงน้ำแข็งขนาดใหญ่ภายในซอยดังกล่าว พบสารแอมโมเนียลอยฟุ้งกระจายเป็นวงกว้าง รัศมีประมาณ 5-6 กิโลเมตร ส่งผลทำให้มีกลิ่นฉุนอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่เร่งปิดกั้นพื้นที่โดยรอบ พร้อมฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อระบายกลิ่นสารแอมโมเนีย โดยมีการประชาสัมพันธ์จากเทศบาลเมืองบางศรีเมือง ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัศมีใกล้เคียง สวมใส่แมสก์ งดออกจากบ้าน และปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังพบว่ามีประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว จำนวน 2 ราย ผู้ใหญ่ (หญิง) 1 ราย และเด็ก (หญิง) 1 ราย มีอาการวิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอก อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ทำการช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
จากการสอบถาม น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี ชาวบ้านใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า ตนพักอาศัยอยู่ตรงข้ามโรงน้ำแข็ง แต่ไม่ทราบว่ามีสารแอมโมเนียรั่วไหล เพราะปกติที่โรงน้ำแข็งเสียงดังอยู่แล้ว มีคนโทรศัพท์มาบอก ตนจึงรีบอพยพคนในบ้านออกไปอยู่บ้านอีกหลังที่ดอนเมือง ซึ่งภายในบ้านของตนมีผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก วัยเพียง 4 เดือน ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งตนมองว่ามันอันตรายต่อคนในชุมชน ตนไม่ได้อยากให้โรงน้ำแข็งย้ายไปที่อื่นเพราะเข้าใจว่าลงทุนก่อสร้างไปเยอะ แต่หากมีอะไรเสียหายก็อยากให้เปลี่ยนไม่ใช่แค่ซ่อม ตนรู้สึกกังวลว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ตอนนี้ก็ไม่กล้าไปไหนเพราะกลัวจะเกิดการระเบิดและบ้านไฟไหม้ จึงต้องรอดูให้สถานการณ์โดยรอบคลี่คลายก่อนจะกล้ากลับเข้าบ้าน
น.ส.รัตนาภรณ์ นาวา อายุ 36 ปี คนงานโรงงานน้ำแข็ง กล่าวว่า ตนเป็นคนงานที่โรงน้ำแข็ง ตอนนี้รู้สึกแสบตา แน่นหน้าอก และอยากอาเจียน จึงเดินมาขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย ซึ่งตอนนี้ตนอยากขอนอนพักในรถพยาบาลก่อนเนื่องจากเป็นห่วงลูกสาว วัย 6 ขวบ ที่ฝากไว้กับญาติ
ดร.ปริญญา ศักดิ์นาวี (นายกแป๊ะ) นายกเทศมนตรีเมืองบางศรีเมือง กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.46 น. ตนได้รับแจ้งว่ามีสารแอมโมเนียรั่วไหล จึงได้รีบดำเนินการแจ้งต่อไปยังทีมป้องกันและสาธารณภัยบางศรีเมือง เพื่อเข้าประเมินสถานการณ์และตรวจสอบว่ามีสิ่งใดเสียหาย ดูทิศทางลมและกลิ่นว่าลอยฟุ้งไปทางไหน นอกจากนี้ตนยังได้ประสานไปยังวัดเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อเตรียมสถานที่ในการอพยพประชาชนหากได้รับความเดือดร้อน
ในฐานะที่เทศบาลเมืองบางศรีเมืองเป็นเจ้าภาพ มีทีมงานหลายๆฝ่ายเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงนนทบุรี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มูลนิธิร่วมกตัญญู เจ้าหน้าที่กู้ภัย จากหลายๆพื้นที่ เวลานี้เราได้เผชิญเหตุที่ควบคุมยาก ไม่สามารถใช้น้ำดับได้ ทำให้มีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ จำเป็นจะต้องมีการวางแผนเผชิญเหตุ เมื่อทีมงานมาถึง ณ จุดเกิดเหตุ แต่ในสถานการณ์ตอนนั้นกลิ่นสารแอมโมเนียค่อนข้างหนาแน่น จึงต้องใช้ทีมงานที่มีชุดป้องกันและอุปกรณ์ช่วยหายใจในการเข้าตรวจสอบ
พบว่ามีวาล์วหลายตัวในโรงงาน ทีมงานชุดแรกได้เข้าไปไล่ปิด ใช้เวลาประมาณ 10 กว่านาที ต้องออกมาวางแผนใหม่ โดยเมื่อทีมงานชุดที่ 2 ได้มาช่วยเหลือ ตนก็ได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบด้วย เพื่อทำการปิดวาล์วที่เหลือ และเรียกช่างอาคารมาสอบถามข้อมูลว่ามีจุดรั่วตรงไหนบ้าง มีวิธีการป้องกันยังไง หลังจากนั้นจึงแบ่งทีมงานเป็นชุดๆ เพื่อควบคุม แม้จะปิดวาล์วได้ครบทุกตัว แต่ยังต้องหาวิธีเพื่อลดกลิ่น นอกจากใช้พัดลมระบายอากาศแล้วยังต้องใช้น้ำ เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว
นอกจากนี้เรายังมีการเตรียมความพร้อมรถกู้ชีพ หากมีประชาชาร้องเรียนว่ามีการหายใจขัดข้อง จะสามารถจัดการได้ทันที เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ผู้ใหญ่ (หญิง) 1 ราย และเด็ก (หญิง) 1 ราย มีอาการวิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอก อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ทำการช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง หากไม่มีอะไรผิดพลาดจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ภายในเที่ยงคืนนี้ ทุกคนจะปลอดภัย ตนถือว่าการปฎิบัติหน้าที่โดยความร่วมมือจากทั้งจังหวัด เป็นระบบที่พวกเราพยายามจัดการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่
นายนิพนธ์ ทองประดิษฐ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพแผนกบรรเทาสาธารณะภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กล่าวว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังวางแผนทยอยเข้าไปทั้งทางด้านหลังของวัด และด้านข้างของโรงงาน เพื่อตรวจสอบว่ามีประชาชนต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ โดยมีอาสาสมัครแบ่งออกเป็น 2 ชุด เบื้องต้นประชาชนส่วนใหญ่มีความประสงค์จะพักอาศัยอยู่ภายในบ้านของตนเอง เพราะสถานการณ์โดยรอบดีขึ้นค่อนข้างเยอะ กลิ่นเบาบางลง อีกสักพักจะมีการตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งทางหลังวัดและซอยข้างโรงงาน หากไม่มีอะไรเพิ่มเติมก็จะปิดสถานการณ์ให้เป็นปกติได้ ตอนนี้เห็นใจทั้งทางเจ้าของโรงน้ำแข็ง และเจ้าหน้าที่ การช่วยเหลือค่อนข้างลำบากเพราะเป็นสถานที่ส่วนบุคคล เราจึงต้องเน้นดูแลประชาชนที่อยู่ในรัศมีโดยรอบว่ามีผลกระทบอย่างไรและเร่งให้การช่วยเหลือ
เบื้องต้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่กู้ภ้ย พร้อมด้วยทีมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สามารถควบคุมสถานการณ์และปิดระบบวาล์วได้สำเร็จ ทำให้ปริมาณสารแอมโมเนียที่รั่วไหลลดลง แต่ยังคงมีกลิ่นตกค้างอยู่ในพื้นที่









