ปคบ.ร่วมกรมวิชาการเกษตรลุยจับวัตถุอันตราย พื้นที่ จ.กาญจนบุรี ยึดของกลางเพียบมูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท
7 ก.ย.65 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง., พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ พ.ต.อ.สมเกียรติ ตันติกนกพร รอง ผบก.ปคบ.,
พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.2 บก.ปคบ. พ.ต.ท.กานต์กนิษฐ์ จงประเสริฐ , พ.ต.ท.ธีรภพ พันธุชาติ รอง ผกก.2 บก.ปคบ.
ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปคบ.นำโดย พ.ต.ต.พงษ์พนา กรีฑา สว.กก.2 เจ้าพนักงานตำรวจ บก.ปคบ.ได้รับแจ้งจากสายลับว่าในพื้นจังหวัดกาญจนบุรีมีการลักลอบจำหน่ายวัตถุอันตรายเคมีการเกษตร (ยาฆ่าหญ้า ฆ่าวัชพืช) โดยเป็นที่รู้กันในหมู่ ผู้ซื้อ ผู้ขาย โดยเรียกชื่อว่า ยากรัมม็อกโซน ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ( พาราควอต (Paraquat) )
ซึ่งเป็นสารเคมีทางการเกษตร ที่ได้ประกาศห้ามผลิต นำเข้า ส่งออก ครอบครอง
จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรร่วมกันวางแผนเข้าตรวจสอบร้านค้าและเข้าทำการตรวจค้น เป้าหมายจำนวน 2 จุด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร นำโดย นายสงัด ดวงแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรกาญจนบุรี พร้อมพวก ได้เข้าทำการตรวจสอบ
จุดที่ 1 ร้านสินเกษตร เลขที่ 420 หมู่ที่ 1 ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี พบสินค้า พาราควอต วัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งเป็นสินค้าห้ามผลิต นำเข้า ส่งออก ครอบครอง สินค้า กลูโฟซิเนต-แอมโมเนียม สวมเลขทะเบียน และวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียนไว้ รวมของกลางจำนวน 4 รายการ จำนวน 480 ชิ้น
โดยเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดดังกล่าวได้ขยายผล และนำหมายค้นของศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 558/2565 ลงวันที่ 6 กันยายน 2565 ไปทำการตรวจค้น
เป้าหมายที่ 2 อาคารสีเขียว ไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 1 ตำบล ด่านมะขามเตี้ย อำเภอ ด่านมะขามเตี้ย จังหวัด กาญจนบุรี ผลการตรวจค้นพบ ผลิตภัณฑ์พาราควอต (Paraquat) ผลิตภัณฑ์ คลอร์ไพริฟอส (chlorpyrifos) ชื่อสามัญ คลอร์ไพริฟอส (chlorpyrifos) วัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งเป็นสินค้าห้ามผลิต นำเข้า ส่งออก ครอบครอง และวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียนไว้อีกรวม 16 จำนวนของกลาง 713 ชิ้น เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึด/อายัด โดยเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรได้จัดเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์ต่อไป มูลค่าความเสียหายประมาณ 2,500,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางนำส่ง พงส.กก.2 บก.ปคบ.
เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 มาตรา 43 ห้ามผู้ใดผลิต นำเข้า หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากหน่วยงานผู้รับผิดชอบเฉพาะกรณีเพื่อใช้เป็นสารมาตรฐานในการ วิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ การขออนุญาต และการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและ เงื่อนไขที่รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกำหนดโดยความเห็นของคณะกรรมการโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ประกาศระบุวัตถุใดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้มีไว้ในครอบครองปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ และให้นำมาตรา 41 มาใช้บังคับโดยอนุโลม มาตรา 78 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 43 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำโดยประมาทของผู้นำเข้า ผู้ส่งออก หรือผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายดังกล่าว ผู้กระทำต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 8 แสนบาท
บก.ปคบ.เตือนภัย การซื้อสินค้าหรือบริการผู้บริโภคควรตรวจสอบการขึ้นทะเบียนของผู้ประกอบการว่าได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ สินค้าหรือบริการได้รับการรับรองมาตรฐานหรือไม่ หรือมีเลขทะเบียนถูกต้องหรือไม่ อย่าเห็นแก่สินค้าราคาถูก ซึ่งมีการลักลอบจำหน่ายโดยผู้ประกอบการที่เห็นแก่ตัวบางรายทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนได้