คาดเชือก : เฉาะลับ ฉะลึก แบบไม่มีนวม
วันพุธ: 3 ธันวาคม 2025
  • ประเด็นข่าว
    • ในประเทศ
    • ภูมิภาค
    • อาชญากรรม
    • สังคม
    • ศาสนา-วัฒนธรรม
    • เศรษฐกิจ
  • เกษตรยุคใหม่
  • คอลัมน์
    • พระเครื่อง
    • อาหาร
    • ท่องเที่ยว
    • ช้อป-ชิม-ชิล
    • บันเทิง
    • พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
    • แฟชั่น
    • อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
    • หุ้น-กองทุนรวม
    • อสังหาริมทรัพย์
    • วิเคราะห์ บทความ ต่างประเทศ
    • ประกัน
  • พระราชสำนัก
  • คาดเชือกเอกซ์คลูซีฟ
  • ไลฟ์สไตล์
No Result
View All Result
  • ประเด็นข่าว
    • ในประเทศ
    • ภูมิภาค
    • อาชญากรรม
    • สังคม
    • ศาสนา-วัฒนธรรม
    • เศรษฐกิจ
  • เกษตรยุคใหม่
  • คอลัมน์
    • พระเครื่อง
    • อาหาร
    • ท่องเที่ยว
    • ช้อป-ชิม-ชิล
    • บันเทิง
    • พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
    • แฟชั่น
    • อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
    • หุ้น-กองทุนรวม
    • อสังหาริมทรัพย์
    • วิเคราะห์ บทความ ต่างประเทศ
    • ประกัน
  • พระราชสำนัก
  • คาดเชือกเอกซ์คลูซีฟ
  • ไลฟ์สไตล์
No Result
View All Result
คาดเชือก : เฉาะลับ ฉะลึก แบบไม่มีนวม
No Result
View All Result
Home ในประเทศ

นายกอนุทินร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) แถลงข่าว เปิดยุทธการ “ถอนรากสแกมเมอร์

by admin
3 ธันวาคม 2025
in ในประเทศ
0
นายกอนุทินร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) แถลงข่าว เปิดยุทธการ “ถอนรากสแกมเมอร์

นายกอนุทินร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) แถลงข่าว เปิดยุทธการ “ถอนรากสแกมเมอร์

ข้ามชาติ ยึดกว่า 10,000 ล้านบาท สะเทือนทั้งวงการ”

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการ คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองประธานกรรมการ

โดยมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม

เป็นคณะกรรมของคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ปพ., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ. ร่วมกับ

นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป.,พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ, พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง,พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร, พ.ต.ท.ศิษฏ์ พูลวงศ์ ,พ.ต.ท.พัฒษพงศ์ เสณีแสนเสนา รอง ผกก.3 บก.ป.,พ.ต.ต.พงศธร รัชตวัชรางกูร สว.กก.3 บก.ป.

พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.

 

ออกหมายจับ ผู้ต้องหา จำนวน 42 ราย จับกุมได้ จำนวน 29 ราย

ซึ่งต้องหาว่าประทำความผิดฐาน อั้งยี่ ซ่องโจร, ฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน

 

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมา ได้มีข้อมูลเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นกระแสและได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก ภายหลังการอภิปรายในการแถลงนโยบายรัฐบาลว่าด้วยการจัดการปัญหาสแกมเมอร์

และความมั่นคง โดยมีการกล่าวถึงแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทย

และเชื่อมโยงถึงบุคคลสำคัญในประเทศไทยที่อาจเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว

 

โดยเฉพาะกรณีนายยิม เลียกหรือ และยิม ประธาน BIC Group เครือข่ายทุนการเงินรายใหญ่ของกัมพูชา เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในโครงสร้างเศรษฐกิจและธุรกิจของกัมพูชาซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีพฤติการณ์นำเงินจากการกระทำความผิดมาฟอกเงิน หรือใช้ประกอบธุรกิจในประเทศไทย

 

 

รัฐบาลได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. รับผิดชอบกำกับดูแลการปฏิบัติ

พร้อมมอบหมายให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ทำหน้าที่ ผอ.ศปอส.ตร.

และมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. ปฏิบัติหน้าที่ รอง ผอ.ศปอส.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบ

ในการสืบสวนกรณีดังกล่าว

 

 

จากการสืบสวนทราบว่า ขบวนการสแกมเมอร์ในกัมพูชามีลักษณะเป็นเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ มีพฤติการณ์นำเงินที่ได้จากการหลอกลวงทางออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ

แล้วทำการยักย้ายถ่ายเท เพื่อปิดบังอำพราง ให้ยากต่อการตรวจสอบและจับกุม แล้วนำเงินดังกล่าวมาฟอก ผ่านทางธุรกิจในรูปแบบต่างๆ จนก่อให้เกิดปัญหาซับซ้อนทั้งในด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และความเสียหายต่อประชาชนจำนวนมาก

 

จึงจำเป็นต้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเส้นทางการเงินผู้เกี่ยวข้อง และธุรกิจที่อาจถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงินในประเทศไทยอย่างเป็นระบบ

จากการสืบสวนเส้นทางการเงินของผู้เสียหายเบื้องต้นกว่า 700 ราย ในคดีหลอกลวง

ในรูปแบบต่างๆ มีการโอนเงินให้กับบัญชีกว่า 40 บัญชี ซึ่งเจ้าของบัญชีดังกล่าว มีประวัติเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์ และคดีร่วมกันกระทำความผิดฐานฟอกเงิน โดยมีการโอนเงินต่อกันเป็นทอดๆ ไปยังบัญชีของนาย ยิม เลียก ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดี มีการเปิดบัญชีธนาคาร

ในประเทศไทย ในคดีหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ เป็นหลักฐานชัดว่าเงินก่อนโอนเข้าบัญชีของนายยิม เลียก เป็นเงินที่มาจากผู้เสียหายในคดีอาชญากรรมออนไลน์โดยตรง

 

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ นายยิม เลียก บางเส้นเงินในรอบ 1 วัน ยอดเงินคงเหลือเพิ่มจาก 1.2 ล้านบาท → 21.5 ล้านบาท ลักษณะคล้ายการระดมเงินจากกลุ่มบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดและฟอกเงิน ที่รับโอนเงินมาจากบัญชีกลุ่มผู้เสียหาย เชื่อว่าห้วงวันดังกล่าว นายยิม เลียก (Yim Leak) มีความจำเป็นต้องใช้เงิน เพื่อไปฟอกในธุรกิจอย่างใดอย่างอย่างหนึ่ง

 

ในขณะเดียวกัน การสืบสวนยังพบความเชื่อมโยงทางธุรกิจระหว่างยิม เลียก

และ“เบน สมิธ” นักธุรกิจต่างชาติที่ถูกสหรัฐฯ จัดอยู่ในกลุ่มบุคคลเสี่ยงเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ระดับนานาชาติ ทั้งคู่มีบริษัทในไทยที่ตั้งอยู่ที่เดียวกัน และมีการถือหุ้นไขว้ระหว่างภรรยาของทั้งสองฝ่าย

 

โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจการบินส่วนตัว ซึ่งเป็นรูปแบบธุรกิจที่ถูกใช้ในการอำพรางเส้นทางเงินผิดกฎหมายบ่อยครั้ง

 

การตรวจสอบความสัมพันธ์และธุรกรรมพบว่า ยิม เลียก เป็นศูนย์กลางรับและกระจายเงินของเครือข่ายสแกมเมอร์ ขณะที่เบน สมิธ ทำหน้าที่สนับสนุนในเชิงโครงสร้างธุรกิจและเส้นทางการเงิน ทั้งสองฝ่ายมีพื้นฐานความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้มีอำนาจในกัมพูชา ทำให้มีความสามารถในการหลีกเลี่ยงตรวจสอบ

 

จากหลักฐานทั้งหมด ทำให้เชื่อได้ว่าโครงสร้างนี้เป็น “เครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติ”

ที่ประกอบด้วยบัญชีผู้กระทำความผิด แก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา นักธุรกิจต่างชาติ และกลุ่มทุนที่มีอิทธิพลในกัมพูชา โดยมียิม เลียก และเบน สมิธ เป็นแกนกลางที่เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ

และเส้นทางการเงินเข้าด้วยกัน

 

โดยเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ได้มีการเปิดยุทธการ “ถอนรากสแกมเมอร์ข้ามชาติ สะเทือนทั้งวงการ” โดยมีการออกหมายจับ ผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 42 คน ในข้อหา “เป็นหัวหน้าอั้งยี่, ซ่องโจร, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”

 

โดยผลการดำเนินการมีดังนี้ เข้าตรวจค้น 50 จุด จำนวน 22 จังหวัด

1. จับกุมผู้ต้องหาหมายจับ จำนวน 29 ราย อยู่ระหว่างติดตามตัว 13 ราย (มีผู้ต้องหา หลบหนีอยู่ต่างประเทศ 3 ราย)

2. ตรวจยึดทรัยพ์สินซึ่งน่าเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิด จำนวนกว่า 75 รายการ อาทิเช่น

2.1 ทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจยึด/อายัด จำนวนทั้งสิ้น 10 รายการ

รวมมูลค่า 878 ล้านบาท ดังนี้

– รถยนต์ TOYOTA ALPHARD จำนวน 4 คัน มูลค่า 16 ล้านบาท

– รถยนต์ ZEEKER จำนวน 1 คัน มูลค่า 2 ล้านบาท

– รถยนต์ PORSCHE CAYENNE จำนวน 1 คัน มูลค่า 6 ล้านบาท

– รถยนต์ FERRARI 488 GTB จำนวน 1 คัน มูลค่า 24 ล้านบาท

– รถยนต์ FERRARI 296 GTS จำนวน 1 คัน มูลค่า 30 ล้านบาท

– เรือ ATLAS จำนวน 1 ลำ มูลค่า 800 ล้านบาท

– สมุดบัญชี จำนวน 4 เล่ม

2.2 ทรัพย์สินที่ ปปง. โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งยึดและอายัด ทั้งสิ้น 66 รายการ ราคาประเมินมูลค่า 9,279,322,501 ล้านบาท ดังนี้

– เงินสดในบัญชี จำนวน 37 บัญชี เป็นเงินจำนวน 1,169,815,162.38 บาท

– ที่ดินจำนวน 23 แปลง

– บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ จำนวน 6 บัญชี

 

*หมายเหตุ ที่ดินและบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ประเมินรวม 8,109,507,339 บาท

ซึ่งปฏิบัติการในครั้งนี้ ถือเป็นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน

 

โดยเฉพาะอาชญากรรมเทคโนโลยีและเครือข่ายการฟอกเงิน ที่ส่งผลกระทบต่อ

พี่น้องประชาชน จำนวนมาก เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งถือว่าปัญหาอาชญากรรมฉ้อโกงทางออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ

ตั้งแต่มีการจัดตั้งศูนย์ Anti Cyber Scam Center ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา พบว่าสถิติ ในการแจ้งความมีจำนวนลดลง รวมถึงมูลค่าความเสียหายลดลง โดยในเดือนตุลาคม 2568 มีการแจ้งความ รวม 35,050 คดี มูลค่าความเสียหาย 2,379,917,936.-บาท ในเดือน พฤศจิกายน 2568 มีมูลการแจ้งความ 31,019 คดี มูลค่าความเสียหาย

2,183,647,992.-บาท

ซึ่งเป็นความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน

Previous Post

ราชทัณฑ์ จัดกิจกรรม”เทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา” 

Next Post

ตำรวจไซเบอร์ลงพื้นที่มอบธารน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ พร้อมให้กำลังใจและเตือนภัยมิจฉาชีพที่อาจซ้ำเติมพี่น้องประชาชน

Related Posts

ปราจีนบุรี-ระวังภัย! ไฟโหมไหม้บ่อขยะลูกรังที่มีการลักลอบทิ้งเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ของภาคเอกชนที่อยู่ระหว่างถูกอายัด 
ในประเทศ

ปราจีนบุรี-ระวังภัย! ไฟโหมไหม้บ่อขยะลูกรังที่มีการลักลอบทิ้งเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ของภาคเอกชนที่อยู่ระหว่างถูกอายัด 

3 ธันวาคม 2025
อนุทิน” ขึงขัง!! ขู่เชือด นักการเมือง-ขรก.ชั่ว ยอมรับเป็นคนเพื่อนน้อย ไม่ต้องตอบแทนบุญคุณใคร?
ในประเทศ

อนุทิน” ขึงขัง!! ขู่เชือด นักการเมือง-ขรก.ชั่ว ยอมรับเป็นคนเพื่อนน้อย ไม่ต้องตอบแทนบุญคุณใคร?

3 ธันวาคม 2025
DSI ทลายเหมืองบิตคอยน์ “แก๊งจีนเทา” สมุทรสาคร-อุทัยธานี ทำรัฐเสียหายกว่า 3 พันล้าน
ในประเทศ

DSI ทลายเหมืองบิตคอยน์ “แก๊งจีนเทา” สมุทรสาคร-อุทัยธานี ทำรัฐเสียหายกว่า 3 พันล้าน

3 ธันวาคม 2025
ปทุมธานี เซียร์รังสิตจับมือพันธมิตร เยี่ยมชมศูนย์ความรู้นวัตกรรมการรวบรวมวัสดุรีไซเคิลและจัดการขยะในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์   
ในประเทศ

ปทุมธานี เซียร์รังสิตจับมือพันธมิตร เยี่ยมชมศูนย์ความรู้นวัตกรรมการรวบรวมวัสดุรีไซเคิลและจัดการขยะในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์  

3 ธันวาคม 2025
สกลนคร ผู้ว่าฯรับมอบสิ่งของเตรียมส่งไปซับน้ำตาพี่น้องชาวใต้
ในประเทศ

สกลนคร ผู้ว่าฯรับมอบสิ่งของเตรียมส่งไปซับน้ำตาพี่น้องชาวใต้

3 ธันวาคม 2025
นครปฐม-ผู้การนครปฐม ! แจกหมวกกันน็อกฟรี เพื่อรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยตามโครงการ ” สานต่อความห่วงใย ขับขี่ปลอดภัยทุกเส้นทาง “
ในประเทศ

นครปฐม-ผู้การนครปฐม ! แจกหมวกกันน็อกฟรี เพื่อรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยตามโครงการ ” สานต่อความห่วงใย ขับขี่ปลอดภัยทุกเส้นทาง “

3 ธันวาคม 2025
Next Post
ตำรวจไซเบอร์ลงพื้นที่มอบธารน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ พร้อมให้กำลังใจและเตือนภัยมิจฉาชีพที่อาจซ้ำเติมพี่น้องประชาชน

ตำรวจไซเบอร์ลงพื้นที่มอบธารน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ พร้อมให้กำลังใจและเตือนภัยมิจฉาชีพที่อาจซ้ำเติมพี่น้องประชาชน

นนทบุรี ระทึก รถฟอร์จูนเนอร์ชนชาวอังกฤษวัย 75 ปีดับกลางถนนขณะออกมาซื้อผลไม้

นนทบุรี ระทึก รถฟอร์จูนเนอร์ชนชาวอังกฤษวัย 75 ปีดับกลางถนนขณะออกมาซื้อผลไม้

ผู้สนับสนุน

อัพเดท ไวรัสโคโรน่า 19

Total in Thailand
Last update on:
Cases

Deaths

Recovered

Active

Cases Today

Deaths Today

Critical

Cases Per Million

คาดเชือก

Kardchuek News เว็บไซต์ข่าวสาร

"เฉาะลับ ฉะลึก แบบไม่มีนวม"

  • https://kardchuek.net/
กลับหน้าแรก

Browse by Category

  • การศึกษา (4)
  • การเมือง (15)
  • ข่าวทั่วไป (33)
  • ข่าวประชาสัมพันธ์ (27)
  • ข่าวอุบัติเหตุ (11)
  • คอลัมน์ (4)
  • คาดเชือก (31)
  • คาดเชือกเอกซ์คลูซีฟ (25)
  • ช้อป ชิม ชิว (1)
  • ช้อป-ชิม-ชิล (5)
  • ท่องเที่ยว (15)
  • บันเทิง (5)
  • ประกัน (2)
  • ประเด็นข่าว (3,571)
  • พระราชสำนัก (7)
  • พระเครื่อง (18)
  • พลังงาน (7)
  • พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์ (2)
  • ภูมิภาค (1,867)
  • วิเคราะห์ บทความ ต่างประเทศ (2)
  • ศาสนา-วัฒนธรรม (60)
  • สังคม (665)
  • หุ้น-กองทุนรวม (1)
  • อาชญากรรม (1,502)
  • อาหาร (9)
  • อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี (2)
  • เกษตรยุคใหม่ (13)
  • เศรษฐกิจ (17)
  • แฟชั่น (3)
  • ในประเทศ (15,001)
  • ไลฟ์สไตล์ (5)

Copyright © 2022, KARDCHUEK.NET, All rights reserved.

  • ประเด็นข่าว
  • ในประเทศ
  • ภูมิภาค
  • อาชญากรรม
  • สังคม

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In

Add New Playlist

No Result
View All Result
  • ประเด็นข่าว
  • เศรษฐกิจ
  • ท่องเที่ยว
  • ช้อป-ชิม-ชิล
  • บันเทิง
  • พระราชสำนัก
  • คาดเชือกเอกซ์คลูซีฟ

Copyright © 2022, KARDCHUEK.NET, All rights reserved.