ปราจีนบุรี–2ผู้เฒ่า ตา-ยายวิ่งป่าราบหนีตายช้างป่าทับลานตาตกใจหลังเจอช้างป่าไอ้งาเดียวหนีพรวดปีนไปติดอยู่บนกอไผ่ ล่าสุดผลักดันช้างกลับคืนผืนป่าแล้ว
ระวังภัย!2ผู้เฒ่า ตา-ยายวิ่งป่าราบหนีตายช้างป่าทับลานตาตกใจหลังเจอช้างป่าไอ้งาเดียวหนีพรวดปีนไปติดอยู่บนกอไผ่ไล่น้องสาวหนีเอาตัวรอดขณะทางอุทยานฯตั้งข้อสังเกตช้างป่าดังกล่าว ได้เดินไปมาในชุมชนอย่างคุ้นชิน จึงสันนิษฐานว่าเป็นช้างที่เดินหากินมาจากที่อื่นซึ่งเคยมีประวัติว่าช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน โดยสถานการณ์ช้างป่าทับลานออกนอกผืนป่าในขณะนี้ อยู่ทางฝั่งแถบพื้นที่รอยต่อ อ.วังน้ำเขียว และ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา จำนวนมากกว่า 150 ตัว (+)เบื้องต้นเป็นช่วงฤดูกาลหีบอ้อยของเกษตรกร ซึ่งทางอุทยานฯ ร่วมเครือข่ายชุมชน ร่วมเฝ้าระวังและผลักดันต่อเนื่องทุกๆวัน …ล่าสุดผลักดันช้างกลับคืนผืนป่าแล้ว
เมื่อวันที่ 25 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบเห็นช้างป่าไอ้งาเดียวช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก(ในพื้นที่ 2 จังหวัด จ.ปราจีนบุรี และ จ.นครราชสีมา) กำลัง เดินลุยน้ำในคลองส่งน้ำห้วยโสมงหมู่ที่ 11 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มีชุดจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่าและผู้นำหมู่บ้านออกตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ
และได้รับแจ้งต่อว่าช้างตัวดังกล่าวเดินลัดเลาะคันครองส่งน้ำกว่า6กม.เจ้าหน้าที่ระดมกำลังออกติดตามเพื่อผลักดันไม่ให้ช้างป่าตัวดังกล่าวเข้าแหล่งชุมชนเนื่องจากเกรงเกิดอันตรายต่อประชาชน
ต่อมาพบช้างอยู่ริมคลองห้วยโสมงหลังวัดแก่งดินสอ และได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้าน2พี่น้องสูงอายุ ได้พบช้างป่าแล้วพากันวิ่งหนีช้างนั่งหอบตัวโยนอยู่ข้างบ้าน และยังบอกว่าพี่ชายได้หนีขึ้นติดอยู่บนกอไผ่ด้วยความกลัวขณะที่ช้างอยู่ข้างกอไผ่ โดยพี่ชายร้องตะโกนบอกให้น้องสานรีบหนีไป
พบนางหล่อ แสงแก้ว (น้องสาว) อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ที่ 6 กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าออกจากบ้านเพื่อที่จะไปตัดไม้ไผ่มาเผาข้าวหลาม ซึ่งห่างจากบ้าน 50 เมตร ขณะนั้นได้ยินเสียงพี่ชายร้องตะโกนบอกว่าช้างมาๆให้รีบหนีเอาตัวรอดกลับบ้านไปก่อน
นางหล่อกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าออกไปตัดไม้เพื่อที่จะนำไม้ไผ่มาเผาข้าวหลามกับพี่ชาย ขณะที่เดินตามหลังพี่ชายไปอยู่บนเนินกำลังมองหาทางเข้าไปตัดไม้ไผ่ พี่ชายถึงกอไผ่ก่อนเห็นช้างป่าได้รีบปีนขึ้นไปบนกอไผ่ได้ 3ก้าว ได้ยินเสียงพี่ชายตะโกนบอกว่าช้างมารีบหนีหนีเอาตัวรอดไปก่อนไม่ต้องห่วงเพราะปีนขึ้นบนกอไผ่ได้แล้ว เมื่อได้ยินพี่ชายบอกตนจึงรีบวิ่งล้มลุกคลุกคลานหนีเอาตัวรอดออกมา แล้วมานั่งหอบตัวโยนอยู่ที่ข้างบ้านได้รับบาดเจ็บที่บริเวณฝ่ามือขวาเล็กน้อย นางหล่อกล่าว
ขณะทางเจ้าหน้าที่ทราบว่ามีชาวบ้านหนีช้างอยู่บนกอไผ่จึงนำกำลังเดินเท้าเข้าไปยังกอไผ่ ซึ่งมีช้างตัวใหญ่อยู่ใต้กอไผ่ เจ้าหน้าที่จึงจุดประทัดไล่ช้างหนีออกจากกอไผ่ ซึ่งทางชาวบ้านที่ติดอยู่บนกอไผ่ร้องบอกว่าช้างยังอยู่ใต้กอไผ่ให้ระวัง จากนั้นช้างลงไปในคลองและหนีเข้าป่าทึบไป
นายพร กินบริสุทธิ์ อายุ 73 ปี ชาวบ้านแก่งดินสอ (ชายสูงอายุคนหนีขึ้นไปบนกอไผ่) กล่าวว่า เมื่อเช้าออกมาตัดไม้ไผ่เพื่อที่จะไปเผาข้าวหลาม ทันใดนั้นเห็นอะไรบางอย่างตัวใหญ่ๆสีดำๆอยู่ข้างกอไผ่ เมื่อมองดูจึงรู้ว่าเป็นช้างป่าตัวใหญ่ จึงรีบบอกให้น้องสาววิ่งหนีเอาตัวรอดกลับไปที่บ้านเพื่อความปลอดภัย อึดใจต่อมามีเจ้าหน้าที่ฯตามช้างมา
จึงได้เข้ามาช่วยเหลือนำตัวลงจากกอไผ่กับบ้านด้วยความปลอดภัย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เห็นช้างทับลานตัวดังกล่าวมีงาเดียวตัวใหญ่มากและวิ่งหนีทางเจ้าหน้าที่ลัดเลาะเข้าไปในป่า ซึ่งขณะนี้คาดว่าน่าจะหลบเจ้าหน้าที่ฯ เพื่อหาทางย้อนกลับเข้าเขตอุทยานในระยะ 3 กิโลเมตร กว่าจะถึงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังแกะรอยผลักดันช้างป่าตัวดังกล่าวกลับเข้าเขตอุทยานฯต่อไป
ต่อมาเวลา 16.10 น. นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก(ในพื้นที่ 2 จังหวัด จ.ปราจีนบุรี และ จ.นครราชสีมา) เปิดเผยว่า วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เวลา 05.30 น. ได้รับแจ้งจากชุดเคลื่อนที่เร็วและผลักดันช้างป่า ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จาก.ปราจีนบุรี ว่าตั้งแต่ 24/11/68 เวลา:19:00.น. พิกัด x=819560y=1563348
ชุดเคลื่อนที่เร็วและเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ฯ ห้วยคำภูได้เฝ้าระวังช้างโขลงบริเวณหน้าฐาน07และได้ลาดตระเวนพื้นที่โดยรอบเวลา 20.30 น.รั้วแตรที่ติดตั้งไว้ได้ดังขึ้น จึงเข้าทำการตรวจสอบพบรอยเท้าช้างจำนวน 1 ตัว43cm.จึงได้ติดตามแกะรอยเพื่อผลักดัน ช้างป่าตัวดังกล่าวได้มุ่งหน้ามาหมู่2 และข้ามไปหมู่ 11 หมู่10 และออกหมู่ 6 ต.แก่งดินสอ จึงได้เร่งแจ้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ให้ประชาสัมพันธ์แก่ชาวบ้านเพื่อระวังช้างตัวดังกล่าวชุดเคลื่อนที่เร็วได้ติดตามช้างตัวดังกล่าวจนมาถึงหมู่ 9 แก่งดินสอและข้ามคลองธรรมชาติไปหลบนอนบริเวณป่ายูคาหมู่ 4 ตำบลทุ่งโพธิ์ ประเภทพืช ปาล์ม มันสำปะหลัง ต้นหมากความเสียหายปาล์ม5ต้น มันสำปะหลัง10ต้น ต้นหมาก 1 ต้น ผลของการผลักดัน ไม่สำเร็จเนื่องจากช้างตัวดังกล่าวไม่ยอมหัวหัวเข้าสู่ป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน
ข้อสังเกตคือช้างได้เดินไปมาในชุมชนอย่างคุ้นชิน จึงสันนิษฐานว่าเป็นช้างที่เดินหากินมาจากที่อื่นซึ่งเคยมีประวัติว่าช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนได้เคยเดินมาถึงท้องที่ตำบลแก่งดินสอ อ.นาดี เมื่อช่วงฤดูกาลนี้ใน พ.ศ. 2566 โดยผ่านมาทางจังหวัดสระแก้ว
ในขั้นต้นขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง อยู่ในระยะที่ปลอดภัย และหาจังหวะโอกาสที่จะผลักดันช้างป่าดังกล่าวให้เข้าสู่ป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เน้นย้ำให้ราษฎรในพื้นที่รับรู้และให้ระมัดระวังตัว ทั้งนี้จะได้ประสานหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ส่งชุดติดตามช้างป่ามาร่วมพิจารณาแนวทางดำเนินการผลักดันช้างป่ากล่าวต่อไป นายประวัติศาสตร์ กล่าว
และกล่าวต่อไปว่า สถานการณ์ช้างป่าออกนอกผืนป่าในขณะนี้ อยู่ทางฝั่งแถบพื้นที่รอยต่อ อ.วังน้ำเขียว และ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา จำนวนมากกว่า 150 ตัว (+)เบื้องต้นเป็นช่วงฤดูกาลหีบอ้อยของเกษตรกร ซึ่งทางอุทยานฯ ร่วมเครือข่ายชุมชน ร่วมเฝ้าระวังและผลักดันต่อเนื่องทุกๆวัน
ต่อมา นายสามารถ แซ่ลิ้ม อาสาเฝ้าระวังช้างป่าแก่งดินสอกล่าวว่า ช่วงเมื่อคืนได้เฝ้าระวังฝูงช้างป่าบริเวณบ้านบุเจริญ กระทั่งรุ่งเช้าได้รับแจ้งว่าพบเห็นช้างป่าอยู่ในคลองระบายน้ำห้วยโสมงหมู่ที่ 11 จึงได้ออกตรวจสอบพบช้างป่าเดินอยู่ในคลองส่งน้ำห้วยโสมง จากนั้นได้ติดตามแกะรอยช้างกระทั่งพบตัวนอนอาบแดดอยู่ในป่าข้างหมู่บ้านและวางแผนร่วมกับเจ้าหน้าที่ฯรอเวลาผลักดันช้างกลับเข้าเขตอุทยานฯเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุด เจ้าหน้าที่พบว่าช้างตัวดังกล่าวลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะหาทิศทางกลับเข้าเขตอุทยานฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่ทับลานและจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่าแก่งดินสอและพื้นที่ใกล้เคียงร่วม10นายร่วมผลักดันทางออกจากบ้านคลองตาหมื่น ช้างมุ่งหน้าข้ามฝั่งมายังบ้านคลองเตยซึ่งอยู่คนละฝั่งถนนเยื้องกันระยะทาง 3 กม.เศษ ซึ่งบริเวณเหนือหมู่บ้านคลองเตยเป็นเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน โดยคาดว่าช้างที่พบเห็นน่าจะออกหากินนอกเส้นทาง ถูกเจ้าหน้าที่ผลักดันกลับเข้าเขตอุทยานได้เป็นผลสำเร็จ
### มานิตย์ สนับบุญ-ข่าว/ทองสุข สิงห์พิมพ์-ภาพ/ ปราจีนบุรี ###









