นนทบุรี ต่อข่าว ดราม่าหนี้นอกระบบ สามีเข้าใจผิดไม่มีหนี้ แต่แฟนสาวโกหกใช้หนี้หมด สุดท้ายซ่อนหลายเจ้า เจ้าหนี้บุกทวงรายวัน
จากกรณีสามี–ภรรยาชาวปากเกร็ดร้องความเป็นธรรม หลังกู้เงินนอกระบบ 600,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 20 และชำระคืนครบทั้งต้น–ดอกรวมกว่า 1 ล้านบาทตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่กลับถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 10–15 คน ซึ่งเป็นลูกน้องนายทุนเงินกู้ บุกมารังควานถึงร้านหมูกระทะ ปล่อยลมยาง ข่มขู่ทำร้าย และตามติดทุกวัน แม้ไม่มีหนี้ค้าง จนทั้งคู่เกิดความเครียดและหวาดกลัว ต้องไปร้อง “จ่าคิงส์ แตงทิม” ให้ช่วยพาเข้าพบตำรวจกองปราบเพื่อหาทางคุ้มครอง ขณะผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีระบุพฤติกรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าข่ายผิดกฎหมายหลายข้อหา ทั้งทวงหนี้ซ้ำซ้อน เรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมาย ข่มขู่เอาชีวิต และทำลายทรัพย์สิน ส่วนทางตำรวจ สภ.ปากเกร็ดยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 68 พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รองผกก.สส. และ พ.ต.ท.ยศธเดช สุขเทียบ สว.สส. ได้นำกำลังเข้าควบคุมตัว นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ผู้ปล่อยเงินกู้รายหนึ่งตามที่ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ในข้อหาบุกทวงหนี้ ข่มขู่ ปล่อยลมยาง และเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยเหตุเกิดในร้าน “หม่ำ หม่ำ หมูกระทะ” เมืองทองธานี ซึ่งมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 68 เวลา 12.28 น. ชัดเจนจนสามารถใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีได้
จากการสอบสวนพบว่า ผู้แจ้งคดีในครั้งแรกไม่ทราบว่า บุคคลที่บุกเข้ามาคือเจ้าหนี้เงินกู้ของแฟนสาว เพราะฝ่ายหญิงโกหกว่า “เคลียร์หนี้หมดแล้ว” ทำให้ฝ่ายชายเข้าใจผิดว่าไม่ควรมีใครมาทวงหนี้อีก จึงรีบเข้ามาแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ติดตามและนำผู้ก่อเหตุมาให้ปากคำ จึงพบข้อเท็จจริงว่าแฟนสาวยังมีหนี้นอกระบบอีกหลายรายที่ยังไม่ได้ชำระ และเป็นเหตุให้ลูกหนี้–เจ้าหนี้เกิดความเข้าใจผิดกัน กระทั่งนำไปสู่เหตุบุกคุกคามและการข่มขู่ดังกล่าว สุดท้ายทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันโดยมีตำรวจเป็นคนกลาง จนแฟนสาวยอมรับความจริงและนำเงินไปชำระให้เจ้าหนี้ทั้งหมดตามยอดค้าง
ด้าน น.ส.บี ผู้เสียหายหญิง เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนต้องขอโทษเจ้าหน้าที่ต่อเหตุการณ์ทั้งหมด เนื่องจากปิดบังเรื่องหนี้ที่ยังไม่ได้ชำระ และวันนี้ได้นำเงินมาคืนให้ครบแล้ว พร้อมยอมรับว่ายังมีหนี้นอกระบบอีกหลายเจ้าที่ติดค้าง ซึ่งได้ให้ข้อมูลแก่ตำรวจเพื่อช่วยตรวจสอบและจัดการอย่างถูกต้อง
ด้านผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นายเอ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ โดยยืนยันจะให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น
เบื้องต้นตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายเอ รวม 4 ข้อหา ได้แก่ 1. บุกรุก 2.ทำให้เสียทรัพย์ 3.ข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว 4.เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะเร่งขยายผลถึงเครือข่ายเงินกู้นอกระบบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้เสียหาย รวมถึงประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ สภ.ปากเกร็ดฝากเตือนประชาชนและผู้ร้องเรียนว่า ก่อนนำเรื่องมาร้องทุกข์ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้านก่อนเสมอ และต้องแจ้งทางตำรวจให้ครบถ้วนทุกรายละเอียด โดยยืนยันว่าหากมีเหตุเดือดร้อนพร้อมรับเรื่องและดำเนินการให้เต็มที่ในทุกกรณี









