นนทบุรี แม่พ่อนักฟุตบอลวัย 15 ปี ร้องมูลนิธิดัง ลูกไปแข่งบอลพลัดตกฝ้ายกั้นน้ำดับ หลังน้ำในห้องนำ้ไม่ไหลเลยเดินไปล้างตัว
เมื่อเวลา 10.00 น วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ที่สำนักงานมูลนิธิทนายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี น.ส.เกวลิน เมฆประดับ อายุ 34 ปี นายธีรวัฒน์ เกตุปั้น อายุ 36 ปี พนักงานโรงงาน แม่และพ่อของนายภูริวัฒน์ หรือน้องอิคิว เกตุปั้น อายุ 15 ปี นักเรียนมัธยมปีที่ 3 และเป็นนักฟุตบอลทีมบางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ที่เสียชีวิตจากการเดินทางไปแข่งฟุตบอล 7 คน กับโค้ชและเพื่อนร่วมทีมที่สนามฟุตบอลโรงเรียนบ้านลานเอื้อง จ.สุโขทัย หลังแข่งเสร็จได้เดินไปล้างตัวที่ฝ้ายกั้นน้ำกับเพื่อนร่วมทีมเพราะห้องนำ้ในโรงเรียนน้ำไม่ไหล ก่อนจะพลัดตกลงไปจมน้ำเสียชีวิต ซึ่งทางผู้จัดการแข่งขันและโรงเรียนกับยังคงให้มีการแข่งขันกันต่อจนจบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังเกิดเหตุผอ.โรงเรียนเสนอเงินเยียวยาให้ 7000 บาทแลกกับการยอมความไม่เอาเรื่องกับโรงเรียน พอปฏิเสธไม่รับก็บอกให้ไปฟ้องเอา จึงเดินทางนำเอกสารหลักฐานมาร้องเรียนกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ประธานมูลนิธิ ว่าที่ร.ต.รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธาน นางชฎาภรณ์ พงศ์ทอง นายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิ เพื่อขอให้ช่วยเหลือในเรื่องคดี
น.ส.เกวลิน กล่าวทั้งนำ้ตาว่า ตนกับสามีทำงานโรงงานอยู่ที่จ.สมุทรปราการ ส่วนน้องอิคิวตนฝากให้ทวดช่วยเลี้ยงดูอยู่ที่จ.พิษณุโลก ตั่งแต่เด็กๆน้องมีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลบอลทีมชาติ เขาจะมุ่งมั่นทุ่มเทฝึกซ้อมด้วยตนเองเป็นประจำทุกวัน กระทั่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาน้องได้ไปรู้จักกับโค้ชฟุตบอลชื่อป๋าหนึ่งที่สอนเต่ะฟุตบอล น้องอิคิวก็ไปฝึกฟุตบอลมาตลอด กระทั่งเมื่อวันที่ 26 น้องอิคิวได้โทรศัพท์มาขอเงิน 300 บาทบอกว่าใช้เป็นค่าเดินทางและสมัครเต่ะฟุตบอลกับเพื่อนในทีมร่วมกัน 15 คน โดยมีโค้ชป๋าหนึ่งเป็นคนพาไปแข่งตนจึงโอนเงินให้ลูกไปเพื่อไปทำตามความฝันของเขา แต่ตนไม่คิดว่าการไปครั้งนี้ลูกกับต้องจากไปตลอดชีวิต
กระทั่งวันที่ 28 พ.ย.68 ขณะที่ตนทำงานอยู่ก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่ของเพื่อนลูกชายในทีมโทรมาบอกว่าน้องอิคิวพลัดตกฝ้ายกั้นน้ำที่อยู่ใกล้กันกับสนามฟุตบอลตอนนี้ยังหาตัวไม่เจอ ส่วนสาเหตุที่น้องอิคิวเดินไปที่ฝ้ายกันน้ำนั้นเนื่องจากสนามฟุตบอลที่ใช้แข่งขันมีสภาพไม่พร้อมมีฝนตกลงมาจนสนามกลายเป็นขี้โคลน หลังแข่งเสร็จน้องกับเพื่อนร่วมทีมเดินไปล้างตัวที่ห้องน้ำของโรงเรียนแต่นำ้ไม่ไหล จึงพากันเดินไปที่ฝ้ายกั้นนำ้เพื่อล้างตัวก่อนจะพลัดตกลงไปจนเสียชีวิต พอทราบเรื่องตนได้โทรศัพท์ไปหาป๋าหนึ่งโค้ชฟุตบอลของลูกชายว่าเกิดอะไรขึ้น เขาตอบมาว่ายังไม่รู้เรื่องเลยว่าลูกชายตนตกน้ำ ด้วยความเป็นห่วงลูกตนจึงให้เขาส่งพิกัดที่จัดการแข่งขันมาให้ และรีบขับรถมากับสามีจากสมุทรปราการ ซึ่งตลอดทางก็โทรสอบถามกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่เข้าไปช่วยงมหาลูกชาย จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงเจ้าหน้าที่โทรมาบอกว่าพบศพน้องอิคิวจมนำ้เสียชีวิตแล้ว กำลังส่งศพไปชันสูตรที่รพ.มหาวิทยาลัยนเรควร
หลังรับศพน้องอิคิวกลับมาตั่งสวดอภิธรรมศพ ก็มีผอ.โรงเรียนที่จัดการแข่งขันนำเงินมามอบให้ 3,000 บาท โค้ชและคนจัดงานแข่งขันมางานวันที่ 2 ช่วยอีก 3000 บาท หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.คีรีมาศได้ติดต่อมาให้ตนเข้าพูดคุยกับทางผอ.โรงเรียน โค้ชฟุตบอลและคนจัดงานแข่งขัน โดยทางผอ.โรงเรียนได้เสนอเงินช่วยเหลือให้ 7000 แลกกับการไม่เอาเรื่องโรงเรียน แต่ตนปฏิเสธ เพราะลูกชายตนมันตีค่าเป็นเงินไม่ได้ เขาจึงพูดว่างั่นไปฟ้องเอาก่อนจะกลับไป จึงตัดสินใจเดินทางมาขอให้ทางมูลนิธิช่วยเหลือในเรื่องคดี
ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะพาพ่อแม่ของน้องที่เสียชีวิตไปแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทั้งคนจัดงานผอ.โรงเรียนที่อนุญาตให้จัดแข่งขัน โค้ชที่พาน้องไปแข่ง เพราะถ้าคุณรู้ว่าสนามบอลมันไม่พร้อม ความปลอดภัยไม่มี ก็ไม่ควรจัดแข่งจนทำให้เด็กที่มีอนาคตตนหนึ่งต้องมาเสียชีวิต









