สืบนครบาลรวบ “สันธนะ” อดีตตำรวจคนดัง พร้อมพวก รวม 3 คน ตามหมายจับคดีอุ้มรีดนักธุรกิจชาวไต้หวัน หลังไม่ยอมไปพบตร. อ้างถูกกลั่นแกล้ง
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 13 พ.ย.พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบสวนนครบาล เข้าจับกุมตัว 1.นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อายุ 66 ปี อดีตตำรวจสันติบาล 2.นายทรงกลด ยุบลพันธ์ อายุ 49 ปี และ 3.นายสมจินต์ รัตนโชติพานิช อายุ 59 ปี โดยทั้งสามเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 1122-1126-1128/2568 (ตามลำดับ) ลงวันที่ 10 พ.ย.2568 ในข้อหาร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร, ร่วมกันเรียกค่าไถ่, ข่มขืนใจผู้อื่นฯ ในคดีอุ้มรีดนักธุรกิจชาวไต้หวัน โดยจับกุมได้ที่โรงแรมแกรนด์เซ็นเตอร์พอยท์ เพลินจิต ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดมาส่งพนักงานสอบสวนที่สน. ทองหล่อ โดยคดีนี้ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 8 ราย
ทันทีที่ตำรวจควบคุมตัวมาถึง สน.ทองหล่อ นายสันธนะได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าว ด้วยเสียงแข็งว่า ตนเองถูกหักหลังจากฝ่ายการเมืองและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากคดีดังกล่าวผ่านไปแล้ว 4 ปี และตนเองไม่ได้หลบหนีและเข้าให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม
สำหรับกรณีคือเหตุการณ์ที่ตนเองถูกตั้งข้อกล่าวหาคดีอุ้มเรียกค่าไถ่ชาวไต้หวัน ซึ่งคดีนี้สำนวนที่อัยการสั่งฟ้องและให้ตนไปมอบตัวเพื่อต่อสู้คดี ซึ่งตนเองอยู่ระหว่างการทำหนังสือขอความเป็นธรรมจากอัยการ แต่พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ไปขอศาลออกหมายจับโดยยืนยันว่าตนเองไม่เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน มีแต่ชี้เป้าว่าใครเกี่ยวข้องกับเว็บพนันบ้าง รวมถึงคนจากฝ่ายการเมือง หรือแม้กระทั่งเรื่องของ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร. และ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ตนเองก็ไม่อยากเข้าไปยุ่ง เพราะตอนนี้เรื่องยุ่งไปหมด และเหมือนจะมีการกลั่นแกล้งตนหรือตัดตอนเรื่องอะไร ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเก่า ตนใช้สิทธิ์ประกันตัวได้ ไม่กังวลอะไร แต่จะมีความยุ่งยากทางการเมืองต่อไปเพราะเรื่องนี้ตนจะไม่ยอมฝ่ายการเมือง พร้อมกับถามว่าใครเป็นผู้สั่งการในเรื่องนี้ ซึ่งทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่เป็นสุข เปิดศึกกับ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์คนเดียวก็พอแล้ว อย่าเปิดศึกกับตนเองเลยเดี๋ยวจะทำให้สังคมวุ่นวาย
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเปิดศึกกับตนเองใช่หรือไม่ นายสันธนะถามกลับว่าใช่หรือไม่ เพราะตนเองไม่คิดหนีไปไหน ซึ่งหมายจับออกมาตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หากโทรศัพท์แจ้งตนเองก็พร้อมเข้ามามอบตัว ทำไมต้องนำกำลังตำรวจมาเยอะขนาดนี้เหมือนไปถ่ายทำละคร พร้อมย้ำว่าคดีนี้เป็นคดีเก่า ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่มีปัญหากัน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาก่อนนำตัวไปส่งฟ้องที่ศาลอาญากรุงเทพฯใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2564 ตำรวจกองปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเจเรมี่ แมนเชสเตอร์ และ นายลูอิส ซิสกิน สองผู้ต้องหาสัญชาติอเมริกัน และผู้ต้องหาชาวไทยอีกหลายคน ในข้อหาร่วมกันเรียกค่าไถ่, พยายามฆ่า, อั้งยี่, ซ่องโจร, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการใดโดยใช้กำลังประทุษร้ายและมีอาวุธฯ หลัง นายเวน ยู ชุง ชาวไต้หวันซึ่งเป็นตัวแทนนักธุรกิจจำหน่ายถุงมือยางทางการแพทย์เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่า ถูกอุ้มไปรีดค่าไถ่ เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา ชนวนเหตุเกิดจากการที่ นายลูอิส หนึ่งในผู้ต้องหาทำธุรกิจซื้อขายถุงมือ กับบริษัทของ นายเวน ยู ชุง แล้วเกิดความเสียหายจำนวนเงินถึง 93 ล้านบาท
มีรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคดีนี้ ก่อนหน้านี้ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อรอส่งสำนวนฟ้องต่อศาล และจะต้องนำตัวนายสันธนะ ผู้ต้องหาส่งพร้อมสำนวน แต่เนื่องจากนายสันธนะ ได้มีการบ่ายเบี่ยงไม่มาพบพนักงานสอบสวน โดยอ้างว่าจะทำหนังสือขอความเป็นธรรม กระทั่งเมื่อพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนไปให้อัยการ อัยการจึงมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อ ขอหมายจับ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อจะได้นำตัวนายสันธนะมาส่งยื่นฟ้องต่อศาล จึงมีการเข้าจับกุมดังกล่าว

///








