นนทบุรี สองผัวเมียเจ้าของอู่ร้องทนายดัง ถูกนายตำรวจระดับสารวัตร ขับรถข้ามจังหวัดมายึดรถ แม็คโครในสภาพเมา (มีคลิป)
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน 68 ที่สำนักงานมูลนิธิทนายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายเต้ย-นางเอ๋ สองสามีภรรยา ได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เดินทางมาจาก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เพื่อเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม กับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิ หลังตนเองซ่อมรถแม็คโครให้กับลูกค้ารายหนึ่ง หมดค่าซ่อมไป 260,000 บาท แต่ลูกค้าคนดังกล่าวหายไปไม่มาติดต่อจ่ายค่าซ่อม แต่แล้วจู่ๆกับมีชายอ้างเป็นเจ้าของรถพร้อมนายตำรวจระดับสารวัตรมาหาและจะขอทำการเอารถแม็คโครคืน ตนเองไม่ยินยอมให้เอารถไป หากจะเอาไปก็ต้องจ่ายค่าซ่อมมาก่อน แต่กลับถูกนายตำรวจสารวัตรคนนี้ ซึ่งอยู่ในสภาพเมากลิ่นเหล้าคุ้ง พูดจาข่มขู่หากไม่ให้รถมาจะจับตนกับสามีทันที
นางเอ๋ เล่าทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้ได้มีนาย สมชัย บุนนาค หรือเอก เอารถแม็คโครมาให้ตนเองกับสามีซ่อม หมดค่าซ่อมไป 260,000 บาท โดยตนกับสามีไม่รู้จักนายเอก แต่เป็นลูกค้าของสามีที่เคยซ่อมรถประจำแนะนำมาอีกที
หลังรถแม็คโครซ่อมเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายเอก ก็ติดต่อไม่ได้หายหน้าไป ไม่มาจ่ายค่าซ่อมหรือนำรถแม๊คโืคร ออกไป แต่แล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 68 ได้มีนายตำรวจยศพันตำรวจตรี จาก สภ.บ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกับนายอนุรักษ์ นามแจ่ม แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของรถแม๊คโครคันนี้ และจะนำรถออกไป ตนเองไม่อนุญาต ถ้าจะนำรถไปต้องจ่ายค่าซ่อมมาก่อน กลับถูกนายตำรวจคนนี้ซึ่งอยู่ในสภาพมึนเมากลิ่นเหล้าคุ้ง ไม่ได้ใส่เครื่องแบบ พูดจาเป็นเชิงข่มขู่ บอกกับตนว่าหากไม่ปล่อยรถคืนมาให้กับ นายอนุรักษ์ จะแจ้งข้อหาและจับตนเองทันที ก่อนที่จะกลับไป
จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน 68 ที่ผ่านมา นายตำรวจคนนี้ได้ใส่เครื่องแบบเต็มยศขับรถมาจากสภ.บ่อพลอย มาหาตนกับสามีที่กำแพงแสนจังหวัดนครปฐม พร้อมทั้งพูดจาให้ตนคืนรถมาให้กับนายอนุรักษ์ ตนก็โต้แย้งเหมือนเดิมว่าหากจะนำรถไปก็ต้องจ่ายค่าซ่อมมาก่อน แต่เขาก็ไม่ยินยอมพร้อมทั้งแสดงหลักฐานว่านายอนุรักษ์ ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ก่อนจะนำตัวตนกับสามีไป ลงบันทึกประจำวันที่สภ.กำแพงแสน แต่ตนไม่ยินยอมและไม่เซ็น ชื่อลงไปในคำให้การ
ด้วยความที่กลัวว่าตนกับสามีจะถูกยัดข้อหา จากนายตำรวจระดับสารวัตรคนนี้ที่ขับรถ ข้ามจังหวัดจากกาญจนบุรีมานครปฐม เพื่อมาเอารถคืนให้กับนายอนุรักษ์ จึงต้องจำใจยินยอมให้รถแม็คโครกับเขาไป ” เขามีแค่หลักฐานการโอนลอยซื้อขายให้กับนายอนุรักษ์ไป แต่ยังไม่มีการโอน แล้วจู่ๆ กลับมาอ้างว่าเป็นเจ้าของรถแม็คโครคันนี้ โดยมีสารวัตรคนดังกล่าวออกหน้าตามมายึดรถแม็คโครจากตนและสามีไป ตนมองว่าการกระทำดังกล่าว ไม่ถูกต้อง จึงมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับทางทนายรณณรงค์ให้ช่วยเหลือด้วย
ขณะที่ทนายรณรงค์เอง กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ตนมองว่า ตามกฎหมายแล้วเจ้าของอู่รถมีสิทธิ์ตามมาตรา 241 ที่จะยึดหน่วงทรัพย์ ไม่ปล่อยทรัพย์สินดังกล่าว ให้กับใครจนกว่าจะได้รับการชำระหนี้ การกระทำของนายตำรวจคนดังกล่าว เข้าข่ายผิดวินัยหรือไม่ คงต้องฝากให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณา ซึ่งตอนนี้ตนก็จะให้ผู้เสียหายไปดูว่ารถแม็คโครคันนี้ยังจอดอยู่ที่ สภ.บ่อพลอยหรือไม่หรือว่ามีการคืนให้กับนายอนุรักษ์ไปแล้ว หากพบว่าไม่ชอบมาพากล ก็จะพาผู้เสียหายไปร้องผู้การจังหวัดหรือไม่ก็ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แต่เบื้องต้นจะให้ผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีอาญากับนายเอกรวมทั้งลูกค้าของเจ้าของอู่รถที่แนะนำนายเอกคนที่นำรถมาให้ซ่อม โดยจะให้แจ้งความดำเนินคดีทั้งสองคนเลย ส่วนค่าซ่อมรถแม็คโครตนมองว่ายังไงๆสองิสามีภรรยาก็ต้องได้เงินค่าซ่อมรถคืนอยู่แล้ว









