กองปราบเปิดปฏิบัติการ ‘มายาคอล’ ทลายขบวนการโทรหลอกเหยื่อทั่วประเทศ ใช้ทรูมันนี่หมุนเงินซับซ้อน หลอกโอนหลักพัน–หลักหมื่นมานานกว่า 2 ปี
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก, พ.ต.ท.อภิเดช อธิคมปัญญา, พ.ต.ท.ศรัณย์ ศรีพักตร์ รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ รอง ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ธีระพงษ์ คงเขียว, พ.ต.ท.ภานุพงศ์ จันตะกุล, พ.ต.ท.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล, พ.ต.ท.ธนิสร หุ้ยเวชศาสตร์, พ.ต.ต.สฤษดิ์ ชำนิไกร, พ.ต.ต.ปิยะวัตร ปราบเสร็จ สว.กก.5 บก.ป., พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม
1. น.ส.จุฑารัตน์ฯ อายุ 34 ปี
2. น.ส.วิยะวรรณฯ อายุ 34 ปี
3. น.ส.กมลวรรณฯ อายุ 19 ปี
4. น.ส.สุทธิดาฯ อายุ 20 ปี
5. นายสุรพงษ์ฯ อายุ 26 ปี
6. นายชุมพลฯ อายุ 48 ปี
7. นายวิษณุฯ อายุ 24 ปี
ตามหมายจับศาลอาญา 14 หมาย ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันฟอกเงิน” และหมายจับศาลจังหวัดศรีสะเกษ 1 หมาย ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของผู้อื่นฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นฯ”
พร้อมตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง บัญชีธนาคาร 3 เล่ม TrueMoney wallet 6 บัญชี
สถานที่จับกุม ต.หนองหงส์ อ.ทุ่งสง ต่อเนื่อง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช
ด้วยทางศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ (ANTI SCAM CENTER) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจพบข้อมูลคนร้ายโทรหลอกลวงผู้เสียหาย โดยมีการโทรศัพท์ไปหาผู้เสียหายสร้างเรื่องราวต่างๆ และหลอกให้โอนเงินผ่านเข้าไปเติมเงินในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ TrueMoney wallet ปรากฏข้อมูลพื้นที่
การใช้งานใน จ.นครศรีธรรมราช
จากการสืบสวนพบว่า น.ส.จุฑารัตน์ฯ เป็นผู้โทรศัพท์หลอกเหยื่อทั่วประเทศด้วยตนเอง โดยค้นหาข้อมูลเหยื่อผ่านเฟซบุ๊ก แล้วโทรไปแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี บริษัทรับเหมา หรือหน่วยงานราชการ เพื่อหลอกให้เหยื่อโอนเงินผ่านแอป TrueMoney Wallet ภายใต้ข้ออ้างหลอกลวงว่าเป็น “ขั้นตอนชำระเงินค่าจ้าง” หรือ “กดรับเงินค้างชำระค่าบริการ”
จากการสอบสวนขยายผลพบว่ากลุ่มของ น.ส.จุฑารัตน์ฯ มีการวางระบบแบ่งหน้าที่ชัดเจน ได้แก่ ผู้โทรหลอกเหยื่อ ทำหน้าที่พูดจาหลอกให้โอนเงินจากบัญชีธนาคารไปเข้า E-Wallet ผู้สร้างลิงก์หรือซองของขวัญ TrueMoney wallet เพื่อโอนเงินออก ผู้กดรับเงินและผู้โอนต่อ ผ่าน Wallet หลายชั้นเข้าสู่บัญชีหมุนเวียน ผู้ถอนเงินสดปลายทางที่ตู้ ATM ในพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
โดยพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาจะหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน ยอดหลักพันถึงหลักหมื่นบาทต่อราย และเมื่อผู้เสียหายรายใดเข้าแจ้งความดำเนินคดี ก็จะติดต่อขอเจรจาชดใช้เพื่อยุติเรื่อง แต่หากรายใดไม่แจ้งความ
ก็ถือเป็น “รายได้กินเปล่า” โดยมีพฤติการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำหลายครั้ง มีผู้เสียหายหลายรายทั่วประเทศ จากการตรวจสอบทางการเงินพบการหมุนเวียนเงินผ่าน TrueMoney Wallet 11 หมายเลข เชื่อมโยงเข้าสู่บัญชีธนาคาร ยอดรวมเงินหมุนเวียนกว่า 300,000 บาท
กองบังคับการปราบปราม โดยกองกำกับการ 5 จึงได้เปิดปฏิบัติการ “มายาคอล (MAYA CALL)” ได้ขอหมายค้นเข้าจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้ 7 ราย จำนวน 15 หมายจับ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น น.ส.จุฑารัตน์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหารายอื่นยังให้การภาคเสธ
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย ประชาชนโปรดระมัดระวังมิจฉาชีพที่ใช้กลอุบาย “ให้กดรับเงินผ่านแอปธนาคารหรือวอลเล็ท” เพราะเป็นวิธีหลอกให้โอนเงินออกจากบัญชีตนเองโดยไม่รู้ตัว หากได้รับโทรศัพท์ในลักษณะดังกล่าว ห้ามทำตามคำแนะนำเด็ดขาด










