นนทบุรี สองผัวเมียงง! เงินโอนผิดเข้าบัญชี 1 หมื่น คิดว่าเงินลูก โอนกลับไปกลับมา สุดท้ายถูกอายัด 4 บัญชี ตำรวจปัตตานีโทรแจ้งข้อหาฉ้อโกง
วันนี้ (5 พ.ย.68) เวลา 21.00 น. นายสันต์ (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป และนางสาวช่อ อายุ 58 ปี ภรรยา เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับผู้สื่อข่าว หลังถูกอายัดบัญชีธนาคารรวม 4 บัญชี โดยไม่ทราบสาเหตุ หลังจากมีเงินจำนวน 10,000 บาทถูกโอนเข้ามาในบัญชีโดยไม่รู้ตัว เมื่อปลายเดือนกันยายน 2568 และเริ่มถูกอายัดบัญชีในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จากนั้นก็ถูกตำรวจจากจังหวัดปัตตานีโทรมาแจ้งว่าจะถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง
นายสันต์ เปิดเผยว่า เหตุเกิดช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา วันนั้นมีเงินจำนวน 10,000 บาทโอนเข้ามาในบัญชีกสิกรของตนโดยไม่รู้ที่มา คิดว่าเป็นเงินเดือนของลูกที่เข้ามาผิดบัญชีเพราะลูกก็ใช้ธนาคารเดียวกัน จึงได้โอนเงินดังกล่าวเข้าบัญชีของภรรยาให้นำไปกดออกมา แต่ขณะนั้นภรรยาขับรถอยู่ไม่สะดวกจึงโอนกลับไปให้ลูกเพื่อให้ลูกไปกดแทน โดยลูกได้ถอนออกมา 9,000 บาท เหลือไว้ในบัญชี 1,000 บาท จากนั้นต้นเดือนตุลาคม ภรรยาโดนอายัดบัญชีโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย และหลังจากนั้นประมาณหนึ่งเดือนบัญชีของตนก็ถูกอายัดตามมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครจากธนาคารโทรมาแจ้ง ไม่มีเจ้าหน้าที่มาสอบถาม ทั้งที่ในระบบก็มีหมายเลขโทรศัพท์ของตนอยู่ครบ
นายสันต์ กล่าวต่อว่า พอรู้ว่าบัญชีโดนอายัดตนก็งงมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จนต้องไปสอบถามกับธนาคาร แต่ก็ไม่มีใครบอกได้ชัดเจน รู้แค่ว่ามีคำสั่งอายัดมาจากตำรวจ ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าคดีอยู่ที่ไหนด้วยซ้ำ จนภรรยาโทรสอบถามกับ Call Center ถึงรู้ว่าให้ไปติดต่อกับธนาคาร และธนาคารให้เบอร์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นผู้แจ้งอายัดบัญชีมา พอโทรไปคุยถึงรู้ว่าเป็นคดีฉ้อโกง ทั้งที่เราไม่รู้เรื่องเลย ผมยืนยันว่าไม่ได้โกงใคร ไม่รู้จักคนโอน และไม่รู้ว่าเงินนั้นมาจากไหนด้วยซ้ำ
ด้านนางสาวช่อ ภรรยา เล่าว่า ตอนที่รู้ว่าบัญชีโดนอายัด ดิฉันกำลังจะโอนเงินออกแต่ทำไม่ได้ พอโทรหา Call Center เขาก็บอกให้ไปติดต่อธนาคาร แล้วธนาคารก็ให้เบอร์ตำรวจที่แจ้งอายัดบัญชีมา ซึ่งอยู่ที่จังหวัดปัตตานี ดิฉันก็โทรไปถามว่าทำไมโดนอายัด เขาก็บอกว่าเป็นคดีฉ้อโกง มีเจ้าทุกข์แจ้งไว้ และเจ้าทุกข์ขอค่าเสียเวลา 2,000–3,000 บาท ตนก็บอกว่ายังไม่มีเงิน ขอผ่อนได้ไหมเพราะหาเช้ากินค่ำ ทางตำรวจบอกว่า ถ้ามีเงินเมื่อไหร่ค่อยติดต่อกลับมา
นางสาวช่อ กล่าวต่อว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้ส่งจดหมายแจ้งข้อกล่าวหาไปที่บ้านเกิดที่จังหวัดบุรีรัมย์แล้ว และถ้ามีหมายเรียกครบ 2 ครั้งแต่ไม่ไป จะออกหมายจับ ตอนนั้นตกใจมากเพราะไม่เคยมีประวัติอะไรแบบนี้เลย ทั้งหมดมันเกิดขึ้นจากเงิน 10,000 บาทที่โอนเข้ามาโดยไม่รู้ตัว ตนกับสามีไม่เคยคิดจะโกงใคร ไม่รู้จักคนโอน และไม่รู้แม้แต่ชื่อหรือเลขบัญชีของคนที่โอนมาให้ ตอนนี้เงินในบัญชีถูกอายัดหมด ของตน 2 บัญชี ของสามี 1 บัญชี และของลูกอีก 1 บัญชี จะโอนเงินหรือใช้จ่ายอะไรก็ไม่ได้
ตนอยากจะคืนเงินให้เจ้าของแต่ไม่รู้จะคืนให้ใคร เพราะไม่มีข้อมูลเลย ตอนนี้ก็รอให้ธนาคารปลดล็อกบัญชีเพื่อจะได้คืนเงิน 10,000 บาท ให้เจ้าของ เนื่องจากเงินอยู่ในบัญชีหมด อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดูแลหรือให้ความรู้กับประชาชน ว่าเวลามีเงินโอนผิดเข้ามาควรทำอย่างไร เพราะพวกตนเป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่รู้ขั้นตอน ไม่รู้กฎหมาย พอทำอะไรผิดขั้นตอนก็มาถูกดำเนินคดีแบบนี้
นายสันต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนยินดีคืนเงินทันทีที่ปลดล็อกบัญชี เพราะตนไม่เคยตั้งใจจะเอาเงินคนอื่น ตนยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับคนทั่วไป ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่าเพิ่งแตะเงิน ให้รีบติดต่อธนาคารหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อน เพราะไม่อย่างนั้นอาจกลายเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัวเหมือนตน

***เบลอหน้า***










