ปคม.เปิดปฏิบัติการหยุดบัญชีม้า ทำสูญเงินกว่า 71 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์
รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุลรอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ปิยะสมบูรณ์
รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.3 บก.ปคม., พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ รอง ผกก.3 บก.ปคม.,
พ.ต.ท.ทรงวุฒิ ใจดีจริง รอง ผกก.3 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ธีรโชติ นุ่นสพ สว.กก.3 บก.ปคม., ร.ต.อ.นนทพัทธ์ กาวชู,
ร.ต.อ.หญิง จันทิมา คุณโรจน์อังกูร, ร.ต.อ.ทักษิณ แก้วกอง, ร.ต.อ.พงศกร สะแหละ รอง สว.กก.3 บก.ปคม. พร้อมพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.ศปก.กก.3 บก.ปคม.
ร่วมกันจับกุม น.ส.ศศิมาศฯ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเลย ที่ จ.80/2568
ลง 19 ก.พ.2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งของมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯและเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่ตนเองเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้หมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใดฯ”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าแฟลตแห่งหนึ่ง แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากผู้เสียหายถูกหลอกลวงจากการติดต่อขอซื้อเหรียญเติมเกมออนไลน์
ผ่านแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กและโอนเงินให้บัญชีธนาคารของ น.ส.ศศิมาศฯ ผู้ต้องหา ทั้งหมด 3 ครั้ง
รวมเป็นเงิน 1,910 บาท พนักงานสอบสวน สภ.วังสะพุง จ.เลย ได้รับคำร้องทุกข์ดังกล่าว
และสอบสวนพบว่า น.ส.ศศิมาศฯ ได้เปิดบัญชีธนาคารให้บุคคลอื่นนำไปใช้ จึงตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับความผิดฐานข้างต้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ได้พบเห็นประกาศสืบจับดังกล่าว จึงได้สืบสวนติดตามผู้ต้องหาทราบภายหลังว่า น.ส.ศศิมาศฯ ผู้ต้องหา พักอาศัยอยู่กับคนรักที่แฟลตแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร จึงลงพื้นที่
ทำการตรวจสอบ นำไปสู่การเข้าจับกุม น.ส.ศศิมาศฯ ผู้ต้องหา จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังสะพุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภายหลังการจับกุม ได้ทำการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบว่า น.ส.ศศิมาศฯ เคยถูกออกหมายจับมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน จากการแอบอ้างตนเป็นบุคคลอื่นที่มีความน่าเชื่อถือด้านการลงทุนเทรดหุ้น หลอกลวงผู้เสียหายหลายราย ให้เชื่อว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการร่วมลงทุน ซื้อ-ขายหุ้น
ผ่านแอปพลิเคชันหนึ่ง อ้างกำไรที่สูงเกินจริงจากการมีข้อมูลลับสำหรับการลงทุน ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ
โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา สูญเงินกว่า 62 ล้านบาท และบัญชีธนาคารของผู้ต้องหายังถูกใช้ในการหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กและแอปพลิเคชันไลน์ ให้ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ
โดยให้ผลตอบแทน
ที่สูงเกิน ล่อลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ลงทุนไป เกือบ 9 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับผลตอบแทนคืนตามคำกล่าวอ้างแต่อย่างใด รวม 3 คดี มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 71 ล้านบาท
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา











