‘กัน จอมพลัง’พาแม่เด็กสาววัย12’เร่งรัด ตร.ถูกตาข้างบ้านบุกข่มขืน คดีล่าช้า
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 2 ก.ย.ที่ สน.ดอนเมือง
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พานางสาวอรณิชา (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี มารดาของ ด.ญ.เอ(นามสมมุติ) อายุ12 ปี เข้าพบ พ.ต.ท.โอสถ ผ่าโผน รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ดอนเมือง เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีลูกสาววัย 12 ปี ถูกตาข้างบ้านบุกเข้ามาข่มขืนและกระทำอนาจาร ที่บ้านพักย่านซอยวัดเวฬุวนาราม เขตดอนเมือง หลังเข้าแจ้งความไปแล้วเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 ส.ค.แต่กลัวคดีจะไม่คืบหน้า
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า น้องได้ส่งเรื่องไปที่คุณหนุ่มกรรชัย ก่อนที่ทางคุณหนุ่มส่งเคสนี้มาให้ตนติดตามหาแม่และเด็ก ซึ่งเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่อายุ7ขวบเรียนชั้น ป.1 โดยผู้ก่อเหตุคือตาข้างบ้าน รูปลักษณ์ภายนอกดูเป็นคนใจดี แต่จริงๆไม่ใช่จากเท่าที่ตนเห็นแชทแล้วรู้สึกว่าเลวทราม อุบาทก์ ซึ่งเด็กมีภาวะอ่อนแต่ดันใช้เล่ห์เหลี่ยมมาหลอก หลังจากที่เพศสัมพันธ์กับเด็กแล้วใช้ข้อความเชิงชู้สาวแต่เด็กก็ไม่ได้มีการตอบกลับหรือเล่นด้วยแต่อย่างใด
นายกัน กล่าวอีกว่า จากที่ได้คุยกับทางรองผู้กำกับก็จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่และชื่นชมเพราะยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับตัวเด็กและครอบครัวอย่างเต็มที่และมีการรับปากว่าจะไม่ทำคดีล่าช้า เชื่อว่าเร็วๆนี้คงได้เห็นอะไรดีๆ ซึ่งได้มีการออกใบ10 ที่ให้เด็กนำไปใช้เบิกกับทางยุติธรรม ตนรู้สึกดีมากเร็วๆนี้คงมีข่าวดี
ด้าน พ.ต.ท.โอสถ กล่าวว่า หลังจากที่ทางแม่และเด็กเข้ามาแจ้งความ ก็ประสานฝ่ายสืบสวนให้ติดตามคนร้ายทันที ส่วนสาเหตุที่ล่าช้านั้น ได้ประสานสหวิชาชีพมาร่วมสอบคำปากคำเด็กผู้เสียหายไปจำนนวน 2 ปากเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ซึ่งระหว่างนั้นต้องรอผลชันสูตรจากแพทย์ โดยผลเพิ่งจะส่งมาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ หากมีเหตุการณ์ไม่สบายใจสามารถประสานมายังพนักงานสอบสวนหรือฝ่ายสืบสวนได้ตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างสอบปากคำเพื่อรวมรวมพยานหลักฐานและให้ความเป็นธรรมในการดำเนินคดีผู้ต้องหาอย่างเต็มที่และรวดเร็วที่สุด
ขณะที่นางสาวอรณิชา(แม่เด็ก) กล่าวว่า ตั้งแต่แรกตามเรื่องเองมาตลอดจนถึงผลนิติเวชออกมาก็โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ ตนกลัวว่าคนร้ายจะหลบหนีเนื่องจากเจอหน้าทุกวันและเห็นว่าใช้ชีวิตปกติ ตนไม่อยากให้คนร้ายรู้ตัวจึงทำเป็นพูดคุยด้วยปกติ “หากคนร้ายไม่ถูกจับกลัวว่าตนจะถูกจับก่อนเพราะรับไม่ได้กลัวจะลงมือฆ่าคนร้าย”
นางสาวอรณิชา กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเด็กตอนนี้ก็รู้สึกกลัว ไม่อยากไปโรงเรียนแต่ตนคอยปลอบลูกตลอดว่าอย่ากลัว ส่วนการก่อเหตุนั้นเด็กได้เล่าให้แม่ฟังว่าถูกกระทำ 3 ครั้ง ครั้งแรกให้ช่วยทำให้สำเร็วความใคร่ ครั้งที่2ก็ล่วงละเมิดทางเพศสอดใส่แต่ไม่เสร็จ ครั้งล่าสุดทำจนสำเร็จความใคร่ แต่ปล่อยออกข้างนอก ซึ่งตนได้ทำทีแชทไปหลอกถามผู้ก่อเหตุว่าเรียนเพศศึกษาอยู่แล้วหนูจะท้องไหม หนูเป็นประจำเดือนแล้ว ก่อนจะตอบมาว่าไม่ท้องหรอกตาปล่อยนอกตาป้องกันอยู่แล้ว นอกนี้ยังมีการส่งข้อความมาหาเด็กทำนองว่า รักนะ คิดถึงนะ ซึ่งตนรับไม่ได้อยากให้จับกุมให้ได้เร็วที่สุด รู้สึกพอใจและขอบคุณสื่อมวลชนและกันจอมพลังที่ช่วยติดตามคดีนี้ให้ นางสาวอรณิชา กล่าว.