ปราจีนบุรี – สมาคมดาราศาสตร์ไทยระบุปรากฏการณ์ดวงไฟขนาดใหญ่พุ่งวาบแล้วระเบิดเป็นสะเก็ดดาวหางโบราณจากฝนดาวตกเทาริด ปรากฏการณ์นี้ “ไม่อันตราย” แต่ถือเป็นหนึ่งใน “Fireball Event” ที่สวยและหายากมากเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี พ.ศ.2507, 2548 และ 2558 ข้อมูลคำนวณวงโคจรบ่งชี้ว่าอาจเกิดขึ้นอีกครั้งในปีนี้ (พ.ศ.2568)
เมื่อวันที่ 26 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี เวลาประมาณ 00.30 น. ของคืนที่ผ่านมา ชาวบ้านหลายพื้นที่ภาคตะวันออก -ภาคกลาง เช่น พัทยา ชลบุรี ระยอง และกรุงเทพฯ บางส่วน รายงานเห็น “แสงไฟสว่างวาบ” เคลื่อนที่รวดเร็วบนท้องฟ้า ก่อนเกิดเสียงดังคล้ายระเบิด “ตู้ม” ตามด้วยแรงสะเทือน
หลายคนบันทึกคลิปไว้ได้ พบเป็น “ลูกไฟขนาดใหญ่” สีเหลืองส้ม ลากแสงยาวขณะพุ่งตก ก่อนหายไปในท้องฟ้า
จนสร้างความแตกตื่นว่าอาจเป็น “อุกกาบาตตก” หรือ “ขยะอวกาศ”
ล่าสุด สมาคมดาราศาสตร์ไทย ยืนยันว่า “ลูกไฟดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับดาวหางเลมมอน (C/2025 A6 Lemmon)” เพราะดาวหางอยู่ห่างจากโลกกว่า 90 ล้านกิโลเมตร บางคนคาดว่า อาจเป็น “อุกกาบาตขนาดใหญ่ที่เผาไหม้ในชั้นบรรยากาศ” เนื่องจากมีเสียงดังและแรงสั่นสะเทือนในหลายจังหวัด
ข้อมูล ล่าสุด เวลา 6.45 น. จากเพจสมาคมนักดาราศาสตร์ไทย โดยยืนยัน “ไม่ใช่ดาวหางเลมมอน” แต่ มีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นสะเก็ดดาวหางโบราณจากฝนดาวตกเทาริด ปรากฏการณ์นี้ “ไม่อันตราย” แต่ถือเป็นหนึ่งใน “Fireball Event” ที่สวยและหายากมาก
สำหรับฝนดาวตกเทาริด (Taurid Meteor Shower) มีต้นกำเนิดจากดาวหาง 2P/Encke ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นซากขนาดใหญ่ของดาวหางโบราณขนาดใหญ่ 40 กิโลเมตรที่แตกสลายไปเมื่อราว 10,000 ปีก่อน
ฝนดาวตกเทาริดจะกลับมาให้ชมอีกครั้งในช่วงปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายนปีนี้ และอาจมีจำนวนดาวตกสว่าง (fireballs) เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่าปรากฏการณ์นี้เกิดจาก กลุ่มเศษฝุ่นจากดาวหาง 2P/Encke ที่ถูกแรงโน้มถ่วงของดาวพฤหัสบดีดึงให้รวมตัวกันหนาแน่นในอวกาศ
เมื่อโลกเคลื่อนผ่านบริเวณนี้ เราอาจเห็นจำนวนดาวตกมากขึ้น โดยเฉพาะดาวตกประเภทที่เคลื่อนช้าและมีความสว่างสูง เหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี พ.ศ.2507, 2548 และ 2558 ข้อมูลคำนวณวงโคจรบ่งชี้ว่าอาจเกิดขึ้นอีกครั้งในปีนี้ (พ.ศ.2568)
**ขอบคุณวิดีโอจาก
Pongsa Pakaedom**
###มานิตย์ สนับบุญ /ปราจีนบุรี ###








