ตำรวจ ปอท.เปิดปฏิบัติการ STOP POLLUTION THE SERIES 4
ปิดซอยเขย่าเชียงกงบางบอน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)
โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก, พล.ต.ต.เอนก เตาสุภาพ ผบก.ปทส, พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.สมบัติ มาลัย รรท. ผกก.1 บก.ปทส, พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ, พ.ต.ท.เอกพล ปัญจมานนท์ รอง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ท.จักรวฬามิ์ อยู่เย็นศิริ รอง ผกก.3ฯ
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ธานุพันธ์ สุระสะ สว.กก.1 บก.ปทส.,พ.ต.ท.สรัล ยศพลพิเนต , พ.ต.ต.วัชระ บุดดีคำ สว.กก.1 บก.ปทส., พ.ต.ท.ไพรวรรณ ตั้นหลก สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปทส. ,ร.ต.อ.พิเชษฐ แสงหาชัย รอง สว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส.
ร่วมกันจับกุม
1. นายมณฑลฯ อายุ 40 ปี
2. นายวิชชัยฯ อายุ 44 ปี
3. นายประยงค์ฯ อายุ 52 ปี
4. นายสถาพรฯ อายุ 49 ปี
5. นายศักดาฯ อายุ 54 ปี
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิดฐาน“ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพระราชบัญญัติสาธารณะสุข พ.ศ.2535 มาตรา 33 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 71 ซึ่งเป็นการประกอบกิจการที่ต้องมีการควบคุมข้อที่ 7 กิจการที่เกี่ยวกับยานยนต์ เครื่องจักร หรือ เครื่องกล (9) การสะสม การซ่อมเครื่องกล เครื่องจักรเก่าหรืออุปกรณ์ที่เป็นส่วนประกอบของยานยนต์ เครื่องจักร หรือเครื่องกลเก่า
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปทส. ได้รับร้องเรียนจากประชาชน พื้นที่เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจาก ในซอยเชียงกง ถนนเอกชัย มีการนำเครื่องยนต์เก่ามาแยกอุปกรณ์ และรับซื้อขายอุปกรณ์ยานยนต์เก่า น้ำมันเครื่องที่เหลือทิ้งจากการประกอบการดังกล่าวส่งกลิ่นเหม็น อันเป็นการรบกวนความเป็นอยู่ประชาชนบริเวณใกล้เคียง และปล่อยน้ำที่มีการปนเปื้อนของน้ำมันเครื่องลงในคลองบางบอน
ซึ่งทำให้มีการปนเปื้อนของแหล่งน้ำ เพราะน้ำมันจะลอยปิดผิวน้ำ ทำลายระบบนิเวศทางน้ำ เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ และเป็นอันตรายกับสุขภาพกับประชาชน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. เข้าทำการตรวจสอบภายในซอยเชียงกง ถนนเอกชัย แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กทม. พบว่าภายในซอยมีร้านเชียงกงอยู่หลายร้าน ซึ่งสถานที่ดังกล่าวประกอบการรับซื้อและแยกอุปกรณ์ยานยนต์เก่า เพื่อส่งขาย
โดยภายในร้านมีน้ำมันเครื่องนองอยู่ที่พื้น ส่งกลิ่นเหม็น บางส่วนไหลออกสู่ภายนอก และไหลลงสู่คลองบางบอน ทำให้มีคราบน้ำมันเครื่องปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำ จากการสอบถามเจ้าของร้านภายในซอยให้การว่า ช่วงฤดูฝนภายในซอยน้ำจะท่วมสูงไหลเข้ามาภายในร้าน ทำให้น้ำมันเครื่องที่นองอยู่บนพื้นภายในร้าน ไหลออกสู่ภายใน ลงท่อระบายน้ำและลงไปในคลองบางบอน ทำให้น้ำมีการปนเปื้อนน้ำมันเครื่อง
จากการตรวจสอบ ร้านรับซื้อ ขาย อะไหล่เครื่องยนต์เก่า จำนวน 5 ร้าน พบว่าไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นการประกอบกิจการที่ต้องมีการควบคุม ที่เกี่ยวกับยานยนต์ เครื่องจักร หรือ เครื่องกล และ การสะสม การซ่อมเครื่องกล เครื่องจักรเก่าหรืออุปกรณ์ที่เป็นส่วนประกอบของยานยนต์ เครื่องจักร หรือเครื่องกลเก่าโดยสภาพ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ทั้ง 5 ราย นำส่ง พงส.กก.1 บก.ปทส. ดำเนินคดี
ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบว่ามีชาย 2 คนกำลังทำงานอยู่ภายในร้านพากันวิ่งหลบหนีปีนกำแพงไปหลบซ่อนในบ่อน้ำหลังร้าน ภายหลังสามารถ ติดตามจับกุม ได้สอบถามชื่อ Mr.Chitฯ อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา และ Mr.Paingฯ อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา ยอมรับว่าทำงานในร้านค้าเครื่องยนต์-อะไหล่ยนต์ ภายในซอยโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขณะตรวจสอบยังไม่พบเจ้าของร้าน จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่ง พงส.สน.บางบอน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนกรณีเจ้าของร้านที่รับบุคคลต่างด้าวไว้ทำงานโดยบุคคลต่างด้าวนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อ พงส.กก.1 บก.ปทส. ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องและอะไหล่ยนต์เก่าที่เป็นนายจ้างของชาวเมียนมา ในข้อหา“รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้” และ ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต
เตือนภัย การประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนดำเนินการตาม พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และ การทิ้งของเสียจากการประกอบกิจการ เช่น น้ำมันเครื่อง หรือของเสียอื่นๆ ลงสู่พื้นดินหรือแหล่งน้ำสาธารณะถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม