ช็อก! แม่เล้าสาวหน้าเลือด เร่ค้ากามเด็กมาราธอน 8 ครั้ง/วัน นานกว่า 3 ปี หักค่าหัวคิวสุดโหด กว่า 70% เหยื่อสุดช้ำ ได้รับส่วนแบ่ง ครั้งละ 500 ผู้ซื้อฯ อส.-วิศวะ-เจ้าของเต็นท์รถ ไม่รอด
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร.,
พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต. โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ปิยะสมบูรณ์,
พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส, พ.ต.อ.รัชภูมิกุสุมาลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.พงศกร โนรี ประจำ(สบ 5) บก.ปคม., พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.3 บก.ปคม., พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ, พ.ต.ท.ทรงวุฒิ ใจดีจริง รอง ผกก.3 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ประเวศน์ แสงพรหม, พ.ต.ท.เกียรติบดินทร์ วงค์งาม, พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์
นิลมิตร, พ.ต.ท.ธีรโชติ นุ่นสพ สว.กก.3 บก.ปคม. พร้อมพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม.
ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 7 ราย ได้แก่
1. น.ส.ณัฐฐาวีรนุชฯ หรือเดียร์ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5678/2568 ลง 26 ก.ย.68 ความผิดฐาน “ค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยว กักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก เพื่อการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี และ
ได้กระทำแก่เด็กอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี, เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอม และไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบ
เป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร และเป็นการกระทำแก่เด็กอายุเกินสิบห้าปี
แต่ไม่เกินสิบแปดปี, ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กประพฤติตนเสี่ยงต่อการกระทำผิด และกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก, เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง
แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และได้กระทำแก่เด็กอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี, ช่วยเหลือ ให้ความสะดวกหรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น, รับผลประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่น หรือจาก ผู้ซึ่งค้าประเวณี และจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการ, โดยทุจริต
รับไว้ จำหน่าย เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปซึ่งเด็กอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร”
2. นายวิชัยฯ อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5722/2568 ลง 29 ก.ย.68 ความผิดฐาน “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กประพฤติตนเสี่ยงต่อการกระทำผิดฯ”
3. นายปรีชาฯ บอล อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5679/2568 ลง 26 ก.ย.68 ความผิดฐาน “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กประพฤติตนเสี่ยงต่อการกระทำผิดฯ”
4. นายไชยาฯ หรือเสือ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5682/2568 ลง 26 ก.ย.68 ความผิดฐาน “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กประพฤติตนเสี่ยงต่อการกระทำผิดฯ”
5. นายธนิตฯ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5680/2568 ลง 26 ก.ย.68 ความผิดฐาน “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กประพฤติตนเสี่ยงต่อการกระทำผิดฯ”
6. นายวสันต์ฯ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5723/2568 ลง 29 ก.ย.68 ความผิดฐาน “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กประพฤติตนเสี่ยงต่อการกระทำผิดฯ”
7. นายวิโรจน์ฯ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5683/2568 ลง 26 ก.ย.68 ความผิดฐาน “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กประพฤติตนเสี่ยงต่อการกระทำผิดฯ”
สถานที่จับกุม
1. จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่บริเวณหน้าบ้านแห่งหนึ่ง ถนนธนะผล อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์
2. จับกุมผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่บริเวณบ้านเลขที่แห่งหนึ่ง ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
3. จับกุมผู้ต้องหาที่ 3 ได้ที่บริเวณที่บ้านเลขที่แห่งหนึ่ง ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา
4. จับกุมผู้ต้องหาที่ 4 ได้ที่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
5. จับกุมผู้ต้องหาที่ 5 ได้ที่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.เหนือ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์
6. จับกุมผู้ต้องหาที่ 6 ได้ที่บริเวณลานจอดรถสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
7. จับกุมผู้ต้องหาที่ 7 ได้ที่บริเวณหน้าบ้านแห่งหนึ่งใน อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ
สำหรับพฤติการณ์ กก.3 บก.ปคม. ได้รับเบาะแสจากสายลับว่ามีบัญชีผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม X (Twitter)
ได้เผยแพร่ภาพเด็กสาวอายุเพียง 17 ปี จำนวน 2 ราย พร้อมข้อความเชิญชวนให้ซื้อบริการทางเพศ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. จึงดำเนินการสืบสวนพบว่า น.ส.ณัฐฐาวีรนุชฯ หรือเดียร์ ทำหน้าที่เป็นแม่เล้า โดย น.ส.ณัฐฐาวีรนุชฯ ได้ตระเวนจัดส่งเด็กสาวไปขายบริการทั่ว จ.กาฬสินธุ์ ให้เหยื่อรับงานมาราธอน วันละ 6-8 งาน มานานกว่า 3 ปี ซ้ำร้าย เหยื่อสุดช้ำ ได้รับค่าตอบแทนครั้งละ 300-500 บาท ในขณะที่
น.ส.ณัฐฐาวีรนุชฯ ได้รับส่วนแบ่งกว่า 70% หรือไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อครั้ง รวมรายได้แม่เล้ากว่าแสนบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นการแสวงหาประโยชน์จากเหยื่ออย่างร้ายแรง
หลังเข้าช่วยเหลือเหยื่อใน จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนขยายผล พบกลุ่มผู้ซื้อบริการฯ เด็ก 6 ราย
มีภูมิหลังหลากหลายอาชีพ ตั้งแต่ วิศวกร, เจ้าของเต็นท์รถ ไปจนถึง อาสาสมัครรักษาดินแดน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติต่อศาลอาญา ออกหมายจับ และปูพรมตรวจค้นจับกุมผู้กระทำความผิด 7 ราย เพื่อหยุดยั้งวงจรอาชญากรรมทางเพศต่อเด็กอย่างทันท่วงที
สอบถามคำให้การเบื้องต้น ชั้นจับกุม ผู้ต้องหาที่ 1 – 7 ให้การ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย วงจรการขายบริการทางเพศเด็ก เป็นโศกนาฏกรรมที่เหยื่ออาจถูกล่อลวงด้วยผลตอบแทนจากการขายร่างกายของตน โดยรู้เท่าไม่ถึงการ และไม่สามารถหลุดออกจากวงจรนรกเองได้ ผู้ปกครองควรเฝ้าระวังการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของบุตรหลาน เนื่องจากในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพใช้ความง่ายดายของแพลตฟอร์มออนไลน์ในการเข้าถึงและล่อลวงเหยื่อ การกระทำความผิดเช่นนี้ไม่เพียงแต่ทำลายอนาคตของเด็ก แต่ยังเป็นการทำลายความเชื่อมั่นในสังคม รวมถึงรสนิยมใคร่เด็ก หลงผิดไปซื้อบริการทางเพศเด็กเป็นความผิดร้ายแรง โทษหนักทั้งจำทั้งปรับ
-
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด