“ฮั้ว สว.” เริ่มแผ่ว!! DSI จ่อถกอัยการเร่งคดี “อั้งยี่-ฟอกเงิน”
อธิบดีดีเอสไอ แจงคดี “ฮั้ว สว.” ทยอยสอบปากคำพยาน 1,200 ราย จ่อประชุมเร่งคดีร่วมอัยการ ส่วนคดี “เขากระโดง” อยู่ระหว่างสืบสวน แต่ยังไม่รับเป็นคดีพิเศษ
วันนี้ (17 ต.ค.) อาคารกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 24/2568 คดีฮั้ว สว. “อั้งยี่-ฟอกเงิน” ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการในฐานความผิดทางอาญา ดังนั้น จึงต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งยังคงไล่ตรวจสอบเส้นทางการเงินและจะมีการประชุมร่วมกับพนักงานอัยการในเร็วๆ นี้ ถ้ามีหลักฐานว่าการโอนเงินนั้น เป็นการโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ก็จะมีการดำเนินคดี แต่ว่ายังไม่ได้มีการประชุมร่วมกับอัยการจึงอยู่ระหว่างนัดหมาย
เมื่อสอบถามว่าพยานจำนวน 1,200 ราย ที่ดีเอสไอดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับขบวนการฮั้ว สว. มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า มีการสอบพยานไปบางส่วน แต่ว่าเมื่อมาพิจารณาคำให้การของพยานแล้วก็ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากนัก ก็จะต้องนำไปประชุมร่วมกับพนักงานอัยการ ส่วนจะต้องพิจารณาดำเนินคดีขัดหมายเรียกพยานกลุ่ม จ.บุรีรัมย์ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ให้ความร่วมมือเข้าให้ปากคำหรือไม่นั้น ก็ต้องประชุมร่วมกับพนักงานอัยการ
เมื่อถามถึงเรื่องสืบสวนที่ 97/2568 กรณีบุรุกที่ดินเขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ จ.บุรีรัมย์ ที่ดีเอสไอยังคงไม่มีการรับเป็นคดีพิเศษ เนื่องด้วยติดอุปสรรคอะไรหรือไม่นั้น อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า เรื่องคดีเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ยังคงเป็นเรื่องสืบสวน ยังไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษ แต่ก็มีการแสวงหาพยานหลักฐาน มีการสอบถามข้อมูลไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องนี้มีการร้องในเรื่องบุกรุก และเอกสารสิทธิ์ ซึ่งการออกเอกสารสิทธิ์ก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ เพราะดูเบื้องต้นพบว่ามีการออกมานานหลายสิบปีแล้ว ก็จะไปพิจารณาดูว่าเป็นการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่หรือไม่ ซึ่งถ้าเกิน 20 ปีก็จะขาดอายุความ แต่จะเป็นความผิดหรือไม่ ต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานอีกส่วนหนึ่ง