ตำรวจ ปทส.เปิดปฏิบัติการกลางขุนเขา จับแรงงานต่างด้าวทำสวนส้มเถื่อน พร้อมรวบอีก 5 รายพกปืนบุกพื้นที่ต้องห้าม
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท. ณัฐศักดิ์
เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.เอนก เตาสุภาพ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส., พ.ต.ท.เกียรติพันธ์ เจริญชนิกานต์ รอง ผกก.4 บก.ปทส., และ พ.ต.ต.จิรายุ อิ่นแก้ว สว.กก.4 บก.ปทส.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.ต.ภิรัช เหรียญทอง รอง สว.(ป) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส.
ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา
1.นายสามห้าฯ สัญชาติเมียนมา อายุ 52 ปี ไม่มีหนังสือเดินทางหรือใบอนุญาตทำงาน
2.นายณัฐชัยฯ อายุ 31 ปี พบปืนยาวขนาด .22 พร้อมกระสุน 5 นัด
3.นายวีรชัยฯ อายุ 39 ปี พบปืนลูกซองยาวพร้อมกระสุน 22 นัด
4.นายอภิชัยฯ อายุ 21 ปี พบปืนแก๊ปยาวซุกในกระสอบ
5.นายธงชัยฯ อายุ 38 ปี พบปืนลูกซองยาวพร้อมกระสุน 17 นัด
โดยกล่าวหาว่า
-บุกรุกและทำลายป่าสงวนแห่งชาติ
-ประกอบกิจการน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต
-ครอบครองและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1
-คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
-มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1.พื้นที่ป่ากว่า 21 ไร่
2.อาวุธปืน 4 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน
สถานที่จับกุม พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย บ้านกองลอย หมู่ 4 ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดเชียงใหม่ บูรณาการร่วมกับกรมป่าไม้ และฝ่ายปกครอง อ.ฮอด ลุยตรวจป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ลาย หลังได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มบุคคลลอบแผ้วถางและยึดพื้นที่ป่าสงวนปลูก “สวนส้มเถื่อน” ขนาดใหญ่กลางภูเขา
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่พบพื้นที่ป่ากว่า 21 ไร่ ถูกแผ้วถางหมดสิ้น ปลูกส้มเขียวหวานเป็นแถวเป็นแนว พร้อมระบบน้ำสปริงเกอร์และบ่อบาดาลขนาดใหญ่ภายในกระท่อมกลางสวนพบชายชาวเมียนมา นายสามห้าฯ อายุ 52 ปี ไม่มีหนังสือเดินทางหรือใบอนุญาตทำงาน ตรวจค้นพบ ยาบ้า 6 เม็ด และอุปกรณ์เสพ ผลตรวจปัสสาวะเป็นบวก สารภาพว่าทำงานเฝ้าสวนให้ “นายจ้าง” โดยได้รับค่าจ้างเดือนละ 5,000 บาท
เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเบื้องหลังเป็นเครือข่าย “นายทุนบุกรุกป่า” เนื่องจากพบร่องรอยการลงทุนสูง ทั้งระบบชลประทาน บ่อบาดาล และการปลูกพืชเชิงพาณิชย์อย่างเป็นระบบ โดยพบนามต้องสงสัยว่า นางกั้งฯ และบุตรชาย ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้ว่าจ้างและเจ้าของสวน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลเพื่อตรวจสอบเส้นทางเงินและผู้มีส่วนร่วมทั้งหมด
ขณะเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการตรวจสอบในพื้นที่อยู่นั้น ได้มีชายหลายรายขับรถจักรยานยนต์เข้ามาในบริเวณสวนส้ม โดยมีท่าทีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้น พบอาวุธปืนหลายกระบอกพร้อมกระสุนจำนวนกว่า4 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าอาวุธเป็นของตนเอง และไม่มีใบอนุญาตครอบครองแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อหลวง
จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันได้รายงานต่อ บก.ปทส. เพื่อขยายผลตรวจสอบเชิงลึกหาตัวผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังการบุกรุกป่าครั้งนี้
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”
