ตามนโยบายของรัฐบาล โดย ฯพณฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดย พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้สั่งการให้หน่วยงานในสั่งกัดเร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การหลอกลวงขายสินค้าออนไลน์ นั้น
โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.4 หรือ ตำรวจไซเบอร์ จับกุม น.ส. นิรภัฎ สงวนนามสกุล อายุ 22 ปี ชาว อ.สระใคร จ.หนองคาย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา มีนบุรี ที่ จ.378/2565 ลงวันที่ 22 เม.ย. 65 ในความผิดตามหมายจับฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” โดยจับกุมได้ที่บ้านพักใน อ.สระใคร จ.หนองคาย
สืบเนื่องจาก น.ส.อรณิช อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย ชาวจ.นครสวรรค์ ถูกหลอกขายกระเป๋ายี่ห้อ (HERMES) โดยโอนเงินให้คนร้ายจำนวน 700,000 บาทแล้ว ไม่ได้รับสินค้า และ คนร้ายได้บล๊อกช่องทางการติดต่อทั้งหมด ต่อมาวันที่ 21 ก.พ. 65 ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้าย ต่อมา วันที่ 2 มี.ค. 65 ผู้เสียหาย และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ประสานมายัง บก.สอท.4 เพื่อให้ช่วยสนับสนุนการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด
ตำรวจ กก.1 บก.สอท.4 จึงได้เริ่มทำการสืบสวน โดยได้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน จนพบว่าคนร้ายโอนเงินไปยังบัญชีม้าต่างๆ ถึง 5 แถว โดยในการโอนแต่ละครั้งใช้ แอพ VPN เพื่อหลอกโลเคชั่นการโอนเงินให้ติดตามไม่ได้ แต่ด้วยความพยายามของตำรวจไซเบอร์ กก.1 บก.สอท.4 สืบสวนติดตามจนทราบว่า ใช้จ่ายผ่านบัญชีผู้ต้องสงสัย และมีการกดเงินออกจากตู้ ATM และอีกส่วนหนึ่งสืบสวนจากข้อมูลการใช้งานบัญชีเฟซบุ๊ก ที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหาย ได้รับข้อมูลจากเฟซบุ๊ก นำมาวิเคราะห์ พบว่าคนร้ายมีการใช้งาน VPN เพื่อปกปิดอำพรางตำแหน่งที่อยู่ที่แท้จริงอยู่เสมอ จึงได้พยายามตรวจสอบในรายละเอียดถึง ไอพีแอดเดรส ทุก ไอพี ที่ปรากฎในประวัติการเข้าใช้งาน จากข้อมูลการเข้าใช้งานหลายร้อยไอพีพบว่า มี 3 ครั้ง ที่คนร้ายพลาด ไม่ได้เปิดใช้งาน VPN จึงสามารถสืบสวนถึง ตำแหน่งการใช้งานได้ ซึ่งจากข้อมูลไอพี สอดคล้อง กับ ข้อมูลเส้นทางการเงิน และ ข้อมูลกล้องวงจรปิด และน่าเชื่อได้ว่า คนร้ายคือ น.ส.นิรภัฎ ปัจจุบันเป็นนักศึกษา ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี
ต่อมา พนักงานสอบสวน ขอหมายจับ และตามจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ พร้อมกับตรวจยึดสิ่งของที่ใช้ในการกระทำผิดและ ได้มาจากการกระทำผิด หลายรายการ เช่น ซิมการ์ด เครือข่าย AIS จำนวนกว่า 100 ซิม โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ไอแพด กระเป๋าแบรนด์เนม หมวก นาฬิกาข้อมือ บัญชีธนาคาร ซึ่งมีรายการเดินบัญชี จากผู้เสียหายอีกมากกว่า 10 ราย มูลค่าความเสียหาย มากกว่า 3 ล้านบาท และอื่นๆ รวม 42 รายการ
สอบสวน น.ส.นิรภัฎ รับสารภาพว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง โดยตนทำหน้าที่เป็นผู้สร้างบัญชีเฟซบุ๊ก ไอจี ปลอม แล้วโพสต์ภาพสร้างตัวตนให้น่าเชื่อถือ ตัดต่อภาพเอกสารใบเสร็จต่างๆ เพื่อหลอกผู้เสียหายจริงและอ้างว่า ได้รับคำสั่งมาจากชาวจีน ชื่อ นายกล้วย ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง สัญญาติจีน เมื่อทำงานสำเร็จจะต้องโอนเงินที่โกงได้บางส่วนไปยังบัญชีม้าที่ผู้สั่งการแจ้งส่วนที่เหลือก็เป็นส่วนต่างที่ผู้ต้องหา ตำรวจจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
/////////////////////