นนทบุรี ต่อข่าว คดีพลิก! มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ถอนแจ้งความชายไล่ตีสุนัขหน้าร้านสะดวกซื้อ หลังดูกล้องวงจรปิดสุนัขกระโจนกัดเด็กวัย 2 ขวบก่อน
จากกรณีที่เพจ “มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation – WDT “ โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความไว้ว่า “#WDTแจ้งความดำเนินคดีคนเตะหมาหน้าเซเว่น สภ.ปากเกร็ด นนทบุรี WDT รับแจ้งเรื่องราวคนเตะหมาหน้าเซเว่นถึงสองครั้งสองครา ครั้งแรกไล่ตีด้วยท่อนเหล็ก เมื่อคืนวันที่ 9 ตุลาคม 2568 จนน้องหมาต้องหนีเข้าไปในเซเว่น ก็ยังตามไปไล่ตี แล้วกลับมาตีอีกครั้งด้วยไม้ และไล่เตะ ตอนตีสองของวันที่ 10 ตุลาคม 2568 WDT รุดเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด นนทบุรี เตรียมขอดูกล้องวงจรปิดที่เซเว่น สาขาชลประทาน มีคนรู้ว่าคนเตะหมาอาศัยอยู่ภายในกรมชลประทาน WDT จะติดตามจับกุมตัวมาให้ได้ครับ”
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 10 ต.ค. 68 ที่สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ต.ดิลก ลาดศิลา สว.สส.สภ.ปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้เชิญตัวผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือนายชัญญา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี และแฟนสาว พร้อมกับลูกสาว วัย 2 ขวบ เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ปรากฏว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณเที่ยงคืน แฟนสาวและลูกสาวของผู้ก่อเหตุ ได้ไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ จังหวะจ่ายเงินเสร็จ ลูกสาววิ่งตามออกมาทางหน้าประตูร้านสะดวกซื้อ สุนัขได้กระโจนงับไปที่ต้นขา 2 ครั้ง ทำให้ลูกสาวล้มลง หลังจากนั้นนายชัญญาฯ ได้ถือไม้มาจากข้างทางและไล่ตีสุนัข แต่ไม่โดนทำให้สุนัขหนีไปได้ และมีป้ามาแสดงตัวว่าให้อาหารสุนัขเป็นประจำ มาขอจ่ายค่าเสียหาย จำนวน 1,000 บาท
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้เชิญนางสาวรัตติยา เตียวตระกูล อายุ 38 ปี ประธานมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ให้เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และดูกล้องวงจรปิดจากทางร้านสะดวกซื้อ พบว่าสุนัขกระโจนไปกัดลูกสาวของผู้ก่อเหตุจริง จึงถอนแจ้งความและไม่เอาเรื่องผู้ก่อเหตุ และทางด้าน CP ALL ของร้านสะดวกซื้อ ได้มอบเงินให้กับทางครอบครัวนายชัญญาฯ ผู้ก่อเหตุ จำนวน 2,800 บาท เพื่อเป็นค่ารักษาลูกสาวที่ถูกสุนัขกัด
จากการสอบถาม น.ส.เอ (นามสมมุติ) แฟนสาวของนายชัญญาฯ ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เมื่อวานนี้ตนพาลูกสาวไปเซเว่น ซึ่งปกติก็ไปทุกคืนอยู่แล้ว และจะเห็นสุนัขตัวนี้นอนอยู่ที่หน้าเซเว่นเป็นประจำ หลังจากที่กำลังจะจ่ายเงิน ตนยืนอยู่หน้าประตูเซเว่นและเรียกแฟนเพื่อขอเงินสดมาจ่ายค่าของ แต่ลูกสาววิ่งตามตนออกมา ซึ่งมีสุนัขนอนอยู่ พอลูกสาววิ่งมาหาตนสุนัขกระโจนใส่ และกัดลูกตนไป 2 ครั้ง ลูกตนจึงล้ม พนักงานเซเว่นจึงเข้ามาช่วยดึงสุนัขออกไป หลังจากนั้นตนจึงพาลูกไปหาหมอที่โรงพยาบาล กลับมาตอนเช้าตนได้ไปที่เซเว่นอีกครั้งเพื่อไปถามหาเจ้าของสุนัข ปรากฏว่ามีป้ามาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบอกว่าให้อาหารทุกวัน และให้เงินค่าล้างแผลลูกตนมา 1,000 บาท ซึ่งตนก็ไม่ได้เรียกร้องเขาเสนอเงินมาเองเป็นการรับผิดชอบเบื้องต้น และเขาบอกว่าถ้ามีไปหาหมออีกให้ติดต่อหาเขา เขาจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง เพราะลูกสาวตนยังเหลือฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าอีก 4 เข็ม และจะจ่ายทั้งค่าเสียหาย ค่าเสียเวลา เรื่องนี้ก็ผ่านไป
แต่ที่มีเรื่องเป็นกระแสในโซเชียล เรื่องมีอยู่ว่าหลังจากที่กลับมาจากโรงพยาบาลเมื่อคืนนี้ แฟนตนได้ตามหาสุนัขหน้าเซเว่น และหยิบไม้เพื่อจะไปตีแต่ก็ตีไม่โดนสุนัขหนีไปก่อน จึงกลับบ้านมาปกติและตอนเช้าแฟนตนไปหาสุนัขอีกรอบ แต่ไม่เจอ จึงบันดาลโทสะพูดไปว่าจะฆ่าให้ตายเพราะมากัดลูกสาวของตน จึงมีเรื่องทำให้คนไปร้องเรียนที่มูลนิธิวอชด็อกฯ ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเพราะทางโซเชียลเข้าข้างสุนัขมากกว่าลูกสาวของตน ทั้งที่สุนัขมากัดลูกสาวของตนได้รับบาดเจ็บก่อน และลูกสาวของตนก็ไม่ได้เข้าไปเล่นกับสุนัขอีกด้วย ซึ่งตนมองว่าเซเว่นไม่ใช่ที่สำหรับสุนัข และตนไม่พอใจที่เพจของมูลนิธิวอชด็อกฯ ไม่มาถามเหตุผลก่อนว่าเพราะอะไร แต่มีคนมาโจมตีครอบครัวของตนทั้งที่ไม่ได้ผิด ฟังความข้างเดียว ซึ่งตนตกใจมากที่บอกว่า พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ มากกว่าคน ตนคิดว่าเรื่องนี้ลูกสาวตนเจ็บตัวฟรี อยากให้สังคมเข้าใจครอบครัวตนบ้าง เพราะตนไม่ได้เป็นคนที่เกลียดสุนัข ไม่มีเหตุผลที่จะไปทำร้าย แฟนตนแค่ปกป้องลูกสาวก็ผิด