สืบ.น ร่วม สืบ4รวบชาวจีนตัวคุม-บช.ม้าไทยขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ตุ๋นเหยื่อ 95 คดี เสียหายกว่า 10 ล้านบาทพบฟอกเงินยึดทองคำ
เมื่อวันที่ 10 ต.ค.พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผบก.น.4, พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม รอง ผบก.น.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น.และ กก.สส.บก.น.4 จับกุมผู้ต้องหาดังนี้ 1.Mr.Xiong Zhirong อายุ 44 ปี สัญชาติจีน ผู้ควบคุมขบวนการบัญชีม้า โดยจับกุมได้ที่ร้านกาแฟ ทิม ฮอร์ตัน สาขาซีคอนสแควร์ ชั้น 2 ของห้างซีคอนฯ 2.นายสมบัติ อายุ 53 ปี ทำหน้าที่บัญชีม้ารับเงิน 3.นางสาวชัญญานุช อายุ 44 ปี คนควบคุมม้าซื้อทอง (พูดภาษาจีนได้) และ และ 4.นางสาววรรณณิภา อายุ 45 ปี คนควบคุมม้าซื้อทองภายในร้าน โดยจับกุมได้ที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ห้างซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. พร้อมตรวจยึดของกลางทองคําแท่ง จำนวน 47.5 บาท มูลค่า 2.7 ล้านบาท, รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และรถยนต์ฮุนได รุ่น H-1 จำนวน 2 คัน และของกลางรายการอื่น ๆ อีกหลายรายการ
สืบเนื่องจากชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากจากวอลรูม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ามีการโอนเงินสั่งซื้อทองคําโดยผิดปกติ และจะเดินทางมารับทองคําที่ห้างหองแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง จตช., พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น.จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ ผบก.สส.บช.น.พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวนนครบาล 4 ร่วมกันวางแผนลงพื้นที่สืบสวนติดตามกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งพบว่ามีชายชาวจีน คอยสั่งการ จึงเฝ้าสังเกตพฤติกรรมและพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง กระทั่งขณะผู้ต้องหาเข้าไปทำธุรกรรมภายในร้านทอง จึงนำกำลังไปตรวจสอบ ก่อนจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวไทยได้ทั้ง 3 ราย มีนายสมบัติ อายุ 53 ปี บัญชีม้ารับเงิน 2. นางสาวชัญญานุชฯ อายุ 44 ปี คนควบคุมม้าซื้อทอง สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ 3.นางสาววรณิภาฯ อามุ 45 ปีคนควบคุมม้าซื้อทองอยู่ภายในร้าน
จากการสอบสวน นายสมบัติ ฯ บัญชีม้ารับเงิน ให้การว่า ได้รับการชักชวนจากเพื่อนให้มาทำธุรกรรมซื้อทอง โดยจะได้ค่าตอบแทนเป็นเงินในการซื้อทองคำ จำนวน 3,000 บาท
ส่วนนางสาวชัญญานุชฯ และ นางสาววรรณิภาฯ ให้การรับว่า ตนมีหน้าที่หาบัญชีม้ารับเงิน และเป็นผู้ควบคุมบัญชีม้ามาทําธุระกรรมถอนเงิน หรือ นําเงินที่ได้จากการหลอกลวงไปแปรสภาพด้วยการซื้อทองคำ และนําเงินหรือทองไปส่งให้กับกลุ่ม คนร้ายต่อไป
โดยนางสาววรรณิภา ฯ ยังให้การว่า ตนมีหน้าที่ในการเป็นธุระ จัดหา รวบรวมบัญชีม้าพร้อมตัวบุคคลเจ้าของบัญชีในฝั่งประเทศไทย จากนั้นจะส่งตัวเจ้าของบัญชี หรือบัญชีม้าข้ามแดนไปยังฝังประเทศกัมพูชา ผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยทาง หัวหน้าจะเป็นผู้ควบคุม จัดสรรบุคลากร ในการพาบัญชีม้าข้ามแดนต่อไป
ในส่วนของ นางสาวชัญญานุช ให้การรับว่า ตน มีหน้าที่หลัก คือการดูแลบุคลาการในฝั่งประเทศกัมพูชา โดยตน เป็นลูกน้องของ นางสาววรรณิภา ฯ ได้รับส่วนแบ่งผลตอบแทนจาก นางสาววรรณิภา ฯ และในปัจจุบันตนได้เดินทางมายัง ประเทศไทยเพื่ร่วมขบวนการกับนางสาววรรณิภา ฯ ในการจัดหาบัญชีม้า
จากนั้นนางสาวชัญญานุช ฯ และนางสาววรรณิภา ฯ ได้พาเจ้าหน้าที่ไปจับกุม MR. XIONG ZHIRONG สัญชาติจีน ผู้ควบคุม ขณะนั่งรอรับทองอยู่ที่ ร้านกาแฟ ชั้น 2 ของห้างฯดังกล่าว โดย MR. XIONG ZHIRONG ทําหน้าที่เป็นคนคอยเฝ้าสังเกตการณ์เพื่อป้องกันไม่ให้ ทั้ง 3 คนนําเงิน หรือทองที่ได้จากการกระทําผิดหลบหนีไป
เบื้องต้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ พร้อมแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”
จากการตรวจสอบในระบบรับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตํารวจแห่งชาติ ยังพบเรื่องรับแจ้งในระบบ (Case ID) ซึ่งเกี่ยวข้องกับคนร้ายกลุ่มดังกล่าว จำนวน 95 เรื่อง มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท และพบเหตุที่เกิดขึ้น เฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร จํานวน 19 เรื่อง มูลค่าความเสียหายกว่าล้านบาท และยังคงอยู่ระหว่างการขยายผลซึ่งเชื่อว่า จะพบเรื่องรับแจ้งในระบบเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก
////