นนทบุรี วงจรปิดจับภาพชัด แก๊งโจ๋ถือปืนขู่ก่อนชิงมือถือ 2 วัยรุ่น ก่อนอุ้มไปรุมกระทืบโยนทิ้งทุ่งนา
เมื่อวันที่ 9 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่กรณี “แก๊งโจ๋โหด” ใช้ผ้าคลุมหัววัยรุ่นชายอายุ 15 ปี จำนวน 2 คน ใช้อาวุธปืนขู่พาตัวไปรุมทำร้ายร่างกายภายในบ้าน ก่อนจะนำตัวไปโยนทิ้งในทุ่งนา บริเวณใกล้เคียงวัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ภายในหมู่บ้านบัวทอง 4 ม.5 ตำบลบางคูลัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ขณะกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนโชว์ข่มขู่ 2 วัยรุ่นชาย ก่อนค้นตัวและ ชิงโทรศัพท์มือถือไป จากนั้นได้บังคับพาตัวผู้เสียหายไปทำร้ายร่างกายภายในบ้าน
จากภาพปรากฏให้เห็นว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาประกบผู้เสียหาย พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่และขู่เข็ญ ก่อนจะบังคับให้ขึ้นรถจักรยานยนต์ของคนร้ายเพื่อพาไปยังจุดทำร้ายร่างกาย เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.22 น. (เวลาในกล้องช้ากว่า 1 ชม.14 นาที)
ด.ช.กล้า หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตามภาพในกล้องวงจรปิด ตนและเพื่อนชื่อ “ซาบิส” ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาซื้อน้ำที่ร้านชำ โดยตนเป็นคนซ้อนท้าย สวมเสื้อสีขาว ส่วนเพื่อนเป็นคนขับ ระหว่างจอดรถเพียงไม่ถึง 1 นาที มีชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์มาประกบ ทั้งคู่สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ
จากนั้นชายที่ซ้อนท้ายเปิดเสื้อโชว์อาวุธปืนที่เหน็บอยู่ที่เอว พร้อมข่มขู่ให้ตนเปิดโทรศัพท์มือถือดู แต่ตนพยายามบ่ายเบี่ยง จึงถูกค้นตัวจนเจอโทรศัพท์ เมื่อคนร้ายเปิดดูภาพภายในเครื่อง พบรูปคู่อริของตนที่เคยถ่ายด้วย ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าตนเป็นพวกเดียวกัน จึงข่มขู่ให้พาไปบ้านคู่อริ แต่ตนปฏิเสธ ก่อนถูกพาตัวไปเอาผ้าคลุมหัวที่ทางเข้าหมู่บ้ารที่ถูกทำร้ายร่างกายตามที่เป็นข่าว
ด.ช.กล้า กล่าวต่อว่า ตอนนี้รู้สึกหวาดกลัวและระแวง ไม่กล้าออกไปไหนคนเดียว เกรงจะถูกตามมาทำร้ายอีก อาการบาดเจ็บขณะนี้มีรอยฟกช้ำทั่วตัวและบวมที่ใบหน้า จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัยของตนและครอบครัว
นายเพียร อายุ 58 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถ ซึ่งอยู่ตรงข้ามจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนกำลังซ่อมรถอยู่ เห็นวัยรุ่นสองคนขี่รถมาจอดหน้าร้านชำ จากนั้นมีรถอีกคันขี่ตามมาแล้วพูดคุยกัน ตนเห็นท่าทีไม่รุนแรง ไม่มีการทะเลาะหรือโวยวาย คิดว่าเป็นเพื่อนกัน จึงไม่ได้เข้าไปยุ่ง และในช่วงนั้นก็มีชาวบ้านอยู่กันหลายคน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้ พอทราบข่าวภายหลังรู้สึกเสียใจและผิดหวังที่ไม่ได้เข้าไปห้าม
ด้ารน.ส.อัจฉรา มารดาของ “ซาบิส” เปิดเผยว่า ขณะนี้ด้านคดีตำรวจแจ้งว่าทราบตัวคนร้ายแล้วอย่างน้อยหนึ่งราย และตำรวจอยู่ระหว่างไล่กล้องวงจรปิดเพื่อไปติดตามจับกุมตัวยังบ้านของผู้ก่อเหตุ ตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่รับคำขอโทษและไม่ยอมความใด ๆ ทั้งสิ้น
น.ส.อัจฉรา กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตอนนี้สภาพจิตใจของลูกชายย่ำแย่มาก หวาดผวาและพูดจาวกวนเหมือนยังช็อกจากเหตุการณ์ ทุกครั้งที่เห็นกลุ่มวัยรุ่นขี่รถผ่านก็จะกลัวว่าจะมาทำร้ายอีก ฝากตำรวจเร่งจับตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษโดยเร็ว พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมต้องทำร้ายกันแบบนี้ ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน