นนทบุรี วงจรปิด เหยื่อปี 1 ทยอยแฉรับน้องโหด แห่ให้ปากคำยันถูกซ้อมจริง ขณะรุ่นพี่ปัดไม่เกี่ยว ผู้ปกครองยันเอาผิดถึงที่สุด
จากกรณี น.ส.นิด (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์นนทบุรี พร้อมด้วยมารดา ได้เข้าร้องเรียนกับ “ดร.แก้ว” หรือ ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ ผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” ว่าถูกกลุ่มรุ่นพี่คณะวิศวกรรมโยธาและคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จัดกิจกรรม รับน้องโหด ภายนอกมหาวิทยาลัย มีทั้งการบังคับดื่มเหล้า การท่องกลอน หากท่องผิดจะถูกทำโทษด้วยการลุกนั่ง ต่อย และเตะ บางครั้งถึงขั้นใช้ผ้าปิดตาและลงมือทำร้ายร่างกาย โดยยังมีการถ่ายบัตรประชาชนไว้ข่มขู่ว่า หากถอนตัวออกจากระบบรุ่นจะถูกตามไปทำร้ายถึงบ้าน เหตุนี้ทำให้น.ส.นิดเกิดความหวาดกลัวและต้องนำเรื่องมาร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ต.ค.68 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี น.ส.พัด (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี มารดาของ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี อดีตนักศึกษาปีที่ 1 คณะวิศวกรรมโยธา มทร.สุวรรณภูมิ พร้อมด้วย นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี นักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และ น.ส.ฟ้า (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำเป็นพยาน หลังจากถูกรุ่นพี่ปี 2–3 ทั้งสองคณะ รวมถึงศิษย์เก่า น.ส.เตย ทำร้ายร่างกายด้วยการต่อยอกและเตะหลัง เนื่องจากท่องกลอนไม่ได้ ทั้งหมดยืนยันว่าบ้านเช่าในซอยเรวดี 34 เคยถูกใช้เป็นสถานที่รับน้องและทำร้ายร่างกายจริง ไม่ใช่เพียงที่พักอาศัยธรรมดาตามที่รุ่นพี่บางรายออกมาให้ข่าว
ทีมข่าวยังได้รับคลิปจากกล้องวงจรปิดหอพักย่านสะพานพระนั่งเกล้า บันทึกเมื่อวันที่ 18 ก.ค.68 เวลา 17.58 น. ปรากฏภาพ น.ส.นิด และ น.ส.เตย รวมถึงรุ่นพี่ปี 2–3 เรียกนักศึกษาปี 1 มารวมตัว ลักษณะคล้ายสอบปากคำและถ่ายบัตรประจำตัวไว้ ก่อนต่อยอดไปสู่การทำร้ายร่างกายที่บ้านเช่าเรวดี
นายเอ เปิดเผยว่า ตนเพิ่งเข้ามาเรียนใหม่ ไม่รู้จักใครมาก่อน จนรู้จักผู้เสียหายคือ น.ส.นิด ผู้หญิงเป็นคนแรก โดย น.ส.นิด ได้ชักชวนเข้ากลุ่มรับน้อง ครั้งแรกถูกเรียกไปที่หอพักย่านพระนั่งเกล้า มีรุ่นพี่ประมาณ 7-8 คน ได้มีการพูดคุยลักษณะสอบปากคำ พร้อมตรวจโทรศัพท์และถ่ายบัตรประชาชนเก็บไว้ จากนั้นก็ปล่อยกลับบ้าน ต่อมาอาทิตย์ถัดมา ตนถูกเรียกไปที่บ้านเช่าเรวดี ถูกสั่งให้ถอดเสื้อและนั่งร่วมกลุ่มเอาผ้าปิดตา ก่อนให้ท่องกลอนวนไปมา หากท่องผิดจะถูกทำร้ายร่างกายโดยการเตะหลัง ตนยอมรับว่าไม่พอใจกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งตนได้เข้าไปรับน้องทั้งหมด 5 ครั้งที่บ้านเช่าหลังดังกล่าว ก่อนจะตัดสินใจออกจากกลุ่มเอง เนื่องจากเกรงว่าไม่มีความปลอดภัยในชีวิต
นายบี ให้การว่า ตนถูกทำร้ายจริง หลังได้เข้าไปรับน้องโหดที่บ้านเช่าหลังดังกล่าวได้ 2 ครั้ง โดยมีรุ่นพี่ชาย–หญิงประมาณ 10 คน ใช้ผ้าปิดตาและมีการต่อยอกและเตะหลังหลายครั้ง เมื่อตนพยายามขอถอนตัวกลับถูกข่มขู่ว่าอย่าให้เห็นหน้าอีก หากออกจากระบบก็ลาออกไปเลย เหตุการณ์นี้ทำตนกังวนและไปบอกกับแม่และครอบครัว หลังจากแม่ทราบเรื่องจึงเป็นห่วงความปลอดภัย และตัดสินใจให้ตนลาออกจากมหาวิทยาลัย
น.ส.ฟ้า ยืนยันว่า ตนถูกทำร้ายในลักษณะเดียวกัน ถูกปิดตาและเตะหลัง โดยจำเสียงได้ว่าเป็นรุ่นพี่ชื่อเตย รวมถึงรุ่นพี่อีกคนที่เตะซ้ำ โดยตนได้เข้ารับน้อง 3–4 ครั้ง และพบรุ่นพี่ชื่อเตย 2 ครั้ง ซึ่งทั้งสองครั้งถูกทำร้ายร่างกาย และเคยถูกเรียกไปพูดคุยเป็นการส่วนตัวด้วย และกลุ่มรุ่นพี่เคยขู่ว่าหากจะออกจากระบบรับรุ่นก็ต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยด้วย ตอนนี้ตนได้ออกจากการรับน้องหรือรับระบบแล้ว แต่ยังกังวลต่อการเรียน เพราะตอนนี้ตนก็ยังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย และวอนมหาวิทยาลัยช่วยคุ้มครองนักศึกษาที่ตกเป็นเหยื่อ เพราะตนอยากตั้งใจเรียนให้จบ
ด้าน น.ส.ภันทร มารดาของนายบี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายมีพฤติกรรมผิดสังเกต เงียบ ไม่ค่อยกลับบ้าน กระทั่งวันหนึ่งเดินมาบอกว่าถูกทำร้ายในการรับน้อง มีการชกอกและเตะหลัง ตนยืนยันว่าลูกไม่ได้สมัครใจเข้าร่วม และเมื่อรู้ว่าถูกข่มขู่จึงรีบให้ลาออกจากมหาวิทยาลัยเพราะห่วงความปลอดภัย พร้อมฝากไปถึงรุ่นพี่ว่า วันนี้บ้านเมืองเจริญไปมากแล้ว ระบบโซตัสรุนแรงแบบนี้ไม่ควรมีในสังคมมหาวิทยาลัย เด็กมาเรียนเพื่อหาความรู้ ไม่ใช่มาโดนกระทืบ และฝากถึงตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด สาเหตุที่ตนให้ลูกชายมาเป็นพยานในวันนี้เนื่องจากดูข่าวและรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน.ส.นิด ซึ่งเป็นผู้หญิง ได้ถูกกระทำเช่นเดียวกับลูกชายมีรอยฟกช้ำเต็มตัว
เบื้องต้น คดีดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำพยานและผู้ถูกกล่าวหาบางส่วนจากทั้งหมดจำนวนกว่า 20 ราย ซึ่งในส่วนที่ให้ปากคำ บางรายยังคงปฏิเสธ ขณะที่บางรายยอมรับว่ามีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นจริง ทั้งนี้พนักงานสอบสวนยังคงรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาในหลายประเด็น ในความผิดฐานทำร้ายร่างกาย, ร่วมกันทำร้ายร่างกาย, ข่มขู่ และอั้งยี้ซ่องโจร รวมถึงรอผลตรวจร่างกายจากแพทย์ของ น.ส.นิด เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
**** หมายเหตุ*** เบลอหน้าปี 1 ผู้ให้ข้อมูลข้อมูลและขอดัดเสียง ส่วนผู้ปกครองเ
ปิดหน้าได้ ****