ปราจีนบุรี-คืบหน้าพิษพายุโซนร้อนบัวลอยถล่มน้ำท่วมปราจีนฯใน 2 อำเภอเริ่มทรงตัว -ลดระดับแล้วหากไม่มีฝนตกซ้ำลงมาอีกคาดจะกลับสู่ภาวะปกติ
เมื่อเวลา 18.10 น.วันที่ 29 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ รวม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.นาดี และ อ.ประจันตคาม ตามที่ได้นำเสนอรายละเอียดไปแล้วก่อนหน้านี้ นั้น นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี มอบหมายให้นายชนาธิป โคกมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุอุทกภัย ในเขตตำบลแก่งดินสอ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 2 จุดดังนี้ จุดที่ 1 หมู่ที่ 1 บ้านทับไทร ตำบลแก่งดินสอ จุดที่ 2 หมู่ที่ 8 บ้านหินเทิน ตำบลแก่งดินสอ พร้อมด้วยนายวิเชียร เหลืองอ่อน ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานฤบดินทรจินดา สำนักงานชลประทานที่ 9 นายสมใจ พุทธเสนา นายอำเภอนาดี นางมาละนี จินดารัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี องค์การบริหารส่วนตำบลแก่งดินสอ และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง
นายชนาธิป โคกมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนัก มีปริมาณน้ำสะสมทั่วพื้นที่ ทำให้เกิดเหตุอุทกภัย น้ำไหลหลากจากคูคลองสายต่างๆ เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน บริเวณริมฝั่งคลอง ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ซึ่งจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ตรวจสอบและรายงานยอดจำนวนบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบอย่างครบถ้วนและถูกต้อง
รวมถึงพูดคุยให้กำลังใจกับประชาชนและรับฟังปัญหาอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเน้นย้ำให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)ในพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องและให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อลดผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้พบว่าระดับน้ำที่ท่วมเริ่มทรงตัว และลดระดับแล้ว หากไม่มีฝนตกลงมาคาดจะกลับสู่ภาวะปกติ นายชนาธิปกล่าว
และกล่าวต่อไปว่า พบพื้นที่เสียหาย ตำบลแก่งดินสอ ม.1 ถนนบริเวณสะพานที่สร้างยังไม่เสร็จ ทางเข้าหมู่บ้าน หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 12 รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ บ้านได้รับผลกระทบ ม.3 พืชผลทางเกษตรเสียหาย ม.4 จำนวน 6 หลังคาเรือน พืชผลทางการเกษตร และถนนเข้าหมู่บ้านเชื่อมต่อหมู่ 4 และหมู่ 5 ม.5 จำนวน 8 ครัวเรือน พืชผลทางเกษตร และถนนเข้าหมู่บ้านเชื่อมต่อหมู่ 4 และหมู่ 5 ม.8 จำนวน 21 ครัวเรือน (น้ำลดแล้วแต่มีโคลนอยู่ภายในบ้าน) และถนนทางเข้าหมู่บ้าน ถนนทางเข้าอ่าง เก็บน้ำนฤบดินทรจินดา (น้ำลดแล้วถนนเสียหาย) ม.9 จำนวน 4 ครัวเรือน และถนนภายในหมู่บ้าน รวม 44ครัวเรือน พืชผลทางเกษตรเสียหายอยู่ระหว่างตรวจสอบต่อไป นายชนาธิปกล่าวในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า กรณีน้ำหลากเข้าท่วมหลายหมู่บ้าน ต.แก่งดินสอ อ.นาดี พบว่าเริ่มลดระดับเนื่องจากเป็นพื้นที่สูงน้ำมาเร็วไปเร็วกว่าปกติแต่ในพื้นที่ยังคงมีฝนตกประปราย ส่วนที่เขื่อนนฤบดินทรจินดา ยังคงพร่องน้ำและสามารถรองรับประมาณน้ำได้ตามปกติ 576 ล้าน ลบ.ม.ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด
พบหมู่ที่ 4 หมู่ที่ 8 ที่มวลน้ำจากน้ำจากแควโสมงล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านบางส่วน ท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านนั้น ในพื้นที่หมู่ที่ 8 พบว่ามีน้ำไหลหลากจากแควฯเข้าท่วมบ้านของนายมาโนช พินทองรัม อายุ 43 ปี เลขที่ 71 ทำให้น้ำท่วมตัวบ้านอย่างรวดเร็วทำให้ตัวบ้านพังเสียหายบางส่วนเสื้อผ้าของใช้เปียก ได้ช่วยกันทำความสะอาดโดยมีผู้ใหญ่บ้าน ส.อบต. อบต.แก่งดินสอเข้าช่วยเหลือ
ด้านนายมาโนช พินทองรัมอายุ 43 ปี 71ม.8 บ้านหินเทิน ต.แก่งดินสอ กล่าวว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักจนน้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเก็บของหนีไม่ทัน
เจ้าของเล้าไก่ที่ถูกน้ำท่วมนายวิเชียร กลิ่นหอม อายุ 64 ปี เจ้าของเล้าไก่ที่ถูกน้ำท่วมกล่าวว่า เลี้ยงไก่ชน100 ตัว เป็ดเทศ 50 ถูกน้ำท่วมตาย 20 กว่าตัว พื้นที่การเกษตรถั่วเสียหาย 2 ไร่แตงกวา 1 ไร่ข้าวโพด 4 ไร่
ขณะที่นายกองตรีปพนศักดิ์ ขันติชัยมงคล นายอำเภอประจันตคาม กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ปลัดอาวุโส ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ปลัดอำเภอประจำตำบล ร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคำโตนด และสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(ส.อบต.) ออกตรวจสอบบ้านเรือนและตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง โดยมีผลการสำรวจดังนี้
ตำบลคำโตนด ม.3 ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 19 ครัวเรือน แต่ยังคงอาศัยอยู่ได้ปกติ ทั้งนี้ นายวิธรัช รามัญ ปลัดจังหวัดปราจีนบุรี นายสุชาติ เดชสุภานายกองค์การบริหารส่วนตำบลคำโตนด(อบต.)ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบใน ม.3 ต.คำโตนดเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือในระยะยาวด้วย ม.5 ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 3 ครัวเรือน แต่ยังคงอาศัยได้ตามปกติ , ส่วนอีก 2 หลังคาเรือนมีความเสียหายด้านอื่น ได้แก่ ลมพัดหลังคาบ้าน จำนวน 1 หลังคาเรือน, ต้นไม้ล้มทับบ้าน จำนวน 1 หลังคาเรือน ม.6 ได้รับผลกระทบเป็นน้ำท่วมรอการระบายจำนวน 4 หลังคาเรือน แต่ยังคงอาศัยอยู่ได้ปกติ
ม.9 มีบ้านเรือนที่น้ำท่วมขังแต่ยังพักอาศัยได้จำนวน 7 หลังคาเรือน, มีบ้านเรือนที่น้ำท่วมขัง “จนไม่สามารถพักอาศัยได้” จำนวน 4 หลังคาเรือน รวมทั้งสิ้น ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง 37 หลังคาเรือน ( อาศัยอยู่ได้ปกติ 33, ไม่สามารถพักอาศัย 4 )
สำหรับพื้นที่ตำบลดงบัง ม.3 ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง 3 หลังคาเรือน แต่ยังอาศัยอยู่ได้ปกติ รวมทั้งสิ้น ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง 3 หลังคาเรือน ( อาศัยอยู่ได้ปกติ 3, ไม่สามารถพักอาศัย 0 )
พื้นที่ตำบลประจันตคาม ม.6 มีน้ำท่วมขังได้รับผลกระทบ 43 หลังคาเรือน แต่ยังอาศัยอยู่ได้ปกติ ม.7 ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง 35 หลังคาเรือน แต่ยังอาศัยอยู่ได้ปกติ ม.8 ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง 20 หลังคาเรือน แต่ยังอาศัยอยู่ได้ปกติ รวมทั้งสิ้น ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง 98 หลังคาเรือน ( อาศัยอยู่ได้ปกติ 98, ไม่สามารถพักอาศัย 0 )
สรุปในพื้นที่อำเภอประจันตคาม มีบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังทั้งสิ้น 138 หลังคาเรือน แยกเป็น อาศัยอยู่ได้ปกติ 134 หลัง ไม่สามารถพักอาศัยได้ 4 หลัง (ผู้พักอาศัยในบ้านทั้ง 4 หลังยืนยันจะพักอยู่ต่อ อำเภอจึงได้สั่งการให้ อบต.คำโตนด จัดหากระสอบทรายและเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากตัวบ้าน และจัดหาแคร่ไม้สำหรับผู้พักอาศัยในบ้านทั้ง 4 หลัง )
ทั้งนี้อำเภอประจันตคาม ได้กำชับให้กำนันผู้ใหญ่บ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ทุกแห่ง เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมสำหรับการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบให้ทันท่วงทีตลอด24 ชั่วโมงด้วยแล้ว นายกองตรีปพนศักดิ์กล่าวในที่สุด
### มานิตย์ สนับบุญ -ข่าว / ทองสุข สิงห์พิมพ์ –ภาพ /ปราจีนบุรี###