คณะศึกษาศาสตร์ -โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศิลปากร (มัธยมศึกษา) เข้าร่วมแสดงศิลป์วัฒนธรรมและดนตรีพื้นบ้านไทย ในงาน 2025 Yeongdong International Traditional Music & Arts Expo ณ เมือง Yeongdong ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 26 ก.ย – 5 ต.ค. 2568
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ณ เทวรูปพระพิฆเนศวร 50 ปี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จ.นครปฐม ศาสตราจารย์ ดร.คณิต เขียววิชัย คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ เป็นประธานในพิธีบวงสรวง สักการะ ขอพรองค์พระพิฆเนศเพื่อความเป็นสิริมงคล, ดร.จิตรกร ว่องประเสริฐ นายกสมาคมผู้ปกครองและครู โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศิลปากร (มัธยมศึกษา) ร่วมให้โอวาท กล่าวอวยพรให้เดินทางปลอดภัย ก่อนที่จะเดินทางไปเผยแพร่วัฒนธรรมไทย ที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยสภาวัฒนธรรมพื้นบ้านภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (CIOFF Korea) ได้เชิญอาจารย์ นักศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ บุคลากรและนักเรียน โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศิลปากร (มัธยมศึกษา) เข้าร่วมแสดงศิลป์วัฒนธรรมและดนตรีพื้นบ้านไทย ในงาน 2025 Yeongdong International Traditional Music & Arts Expo ณ เมือง Yeongdong ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 26 กันยายน-5 ตุลาคม 2568 ซึ่งมีคณะแสดงจากประเทศสมาชิก World CIOFF ภายใต้ UNESCO ในหลายประเทศ คณะ Samdang Silpa Art & Cultural Ensemble เป็นตัวแทนของประเทศไทย ในการร่วมแสดงครั้งนี้ นำทีมแสดงโดย อาจารย์ ดร.ดวงนภา ศรีนันทวงศ์ อ.ประจำสาขาศิลปศึกษา คณะศึกษาศาสตร์
และที่ปรึกษาสมาคมผู้ปกครองและครู โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศิลปากร (มัธยมศึกษา)
อาจารย์ ดร.ดวงนภา ศรีนันทวงศ์
อ.ประจำสาขาศิลปศึกษา คณะศึกษาศาสตร์
และที่ปรึกษาสมาคมผู้ปกครองและครู โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศิลปากร (มัธยมศึกษา) กล่าวว่า สภาวัฒนธรรมพื้นบ้านภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (CIOFF Korea) ได้เชิญเราไปเผยแพร่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และการแสดงนานาชาติ ซึ่งประกอบไปด้วยหลายๆประเทศที่มาจากทั่วทุกมุมโลก มารวมตัวก้นที่เกาหลีใต้ โดยเฉพาะโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีสำหรับเด็กๆ จะได้เป็นการเปิดโลกเข้าสู่นานาชาติ และได้ไปแสดงร่วมกับหลายประเทศ ปีนี้เป็นโอกาสที่ดี ได้ความร่วมมือจากโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศิลปากร (มัธยมศึกษา) อาจารย์ นักเรียน และได้นักศึกษาจากคณะศึกษาศาสตร์ เข้าไปร่วมการแสดงในครั้งนี้ด้วย และมีอาจารย์ด้านดนตรีไทยจากนครปฐมเข้าร่วม ซึ่งการไปแลกเปลี่ยนวัฒธรรมที่เกาหลีใต้นั้นทำมานานแล้ว เราไปมาหลายครั้ง 6-7 ครั้งได้ ไม่รวมประเทศอื่นๆ ซึ่งครั้งนี้เราได้ครบองค์ประกอบ ได้ทั้งนักเรีบน อาจารย์ โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศิลปากร(มัธยม) และนักศึกษาจากคณะศึกษาศาสตร์ และเครือข่ายศึกษาศาสตร์
ในนามของ อาจารย์ ดร.ดวงนภา ศรีนันทวงศ์ ที่มาอยู่ในคณะศึกษาศาสตร์ สาขาศิลปศึกษา ดีใจมากที่ได้นำนักศึกษาออกสู่โลกภายนอก แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม จะทำให้เด็กๆได้เปิดโลกกว้าง เรียนรู้ และที่สำคัญจะได้โปรไฟล์ ได้เกียรติบัตรที่การันตีว่าไปเผยแพร่วัฒนธรรมให้ชาวต่างชาติได้รู้ซึ้งถีงวัฒนธรรมไทย และรำไทย นอกจากนั้นมีการเปิดบูธรำไทย Workshop สอนให้ชาวต่างชาติรำไทย และ
การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศกว่า 30 ประเทศทั่วโลกและสุดอลังการด้วยการเดินพาเหรดของทุกประเทศ โดยเฉพาะขบวนพาเหรดจากประเทศไทย ซึ่ง อ.ดวงนภา เป็นคนนำทีมแสดงเอง เพราะเราเชื่อว่า ศิลปวัฒนธรรมของไทย โดยเฉพาะรำไทยนั้น บ่งบอกว่าเรามาแสดงในนามตัวแทนประเทศไทย จะทำให้ชาวต่างชาติประทับใจ ชื่นชอบและรักประเทศไทยเป็นอย่างมาก งานนี้จัดได้ยิ่งใหญ่ เปิดทุกมุมโลกให้เข้ามาร่วมแสดงในครั้งนี้
ทางด้าน น.ส.พรไพลิน สิงหราช (แครอท) นักศึกษาปี 3 เอกศิลปศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร
เปิดเผยถึงความรู้สึกว่า ตั้งแต่จำความได้เลยค่ะ คุณพ่อก็จับมือวาดรูป ก่อนเขียน ก.ไก่ ด้วยซ้ำ เราไม่รู้หรอกว่าสิ่งนี้จะพาเราไปได้ไกลแค่ไหน เพียงแต่รู้ว่ามีความสุขและชอบที่จะทำเสมอมา ทุกครั้งที่ได้ express ความรู้สึก ถ่ายทอดผ่านดินสอ หรือพู่กัน มักมอบอะไรบางอย่างให้เรา และการทำอย่างต่อเนื่อง ทำซ้ำๆย้ำๆ ก็ทำให้เราได้เข้ามาสู่ “รั้วเวอริเดียน รั้วศิลปากร” ที่นี่ทำให้เรารู้ว่า ศิลปะไม่ได้มีเพียงการวาดภาพ เเต่ทุกอย่างคือศิลปะ การได้ไปเผยแพร่วัฒนธรรมที่ Yeongdong
World Traditional Music & Arts Expo ณ ประเทศเกาหลี ในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ อ.ดวงนภา ศรีนันวงศ์ เป็นอย่างมากเลยค่ะ เพราะถ้าไม่มี อ.ดวงนภา โครงการนี้ก็ไม่เกิดขึ้น
รำไทยถือว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่เราคุ้นชินตั้งเเต่อนุบาล ไม่คิดเหมือนกันว่าจากเด็กน้อยที่เป็นนางรำงานโรงเรียนเล็กๆตอนอนุบาล จะพาเรามาถึงขนาดนี้ ดีใจและตื่นเต้นมากๆค่ะ เพราะนี้เป็นครั้งแรกในการไปต่างประเทศ แต่ไม่ค่อยตื่นเต้นในส่วนนั้นเท่าไร แต่ตื่นเต้นที่จะเป็นตัวแทนไปแสดงความเป็นไทยมากกว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะตั้งใจให้การแสดงออกมาดีที่สุด ซึ่งในอดีตเราไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นในอายุแค่นั้น เเต่เชื่อเถอะว่า “อยากทำ ทำเลย ไม่ต้องรอพร้อม” เป็นคำที่อธิบายเราได้มากที่สุด
