สืบนครบาลรวบแก๊งบัญชีม้านิติบุคคล ขยายผลพบฟอกเงินสั่งซื้อทองคำผ่านแอปฯ หลังตุ๋นเหยื่อ 2 รายกว่า 4.5 ล้านบาท ถูก ตร. รวบขณะนัดรับทองคาร้านย่านเยาวราช ค้นที่พักเจอยาบ้าพันเม็ด-ตราปั๊ม 10 บริษัท สารภาพได้ค่าจ้างเดือน 1-5 หมื่นบาท เร่งขยายผลทั้งขบวนการ
เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 23 ก.ย. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส 3 บก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล ร่วมกันแถลงผลจับกุม 3 ผู้ต้องหา แก๊งบัญชีม้านิติบุคคล มีนายกฤตพัฒน์ ไพศาลธีระจิต อายุ 30 ปี ชาว.จ.อุตรดิตถ์ พร้อมพวกอีก 2 คน โดยจับกุมได้ที่บริเวณห้องพักเลขที่ 806 ชั้น 8 โรงแรมหรูแห่งหนึ่งย่านรัชโยธิน ถนนรัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 10 มัด กว่า 1,000 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ, ตราปั๊มประทับบริษัทนิติบุคคล 10 บริษัท, เอกสารรับรองบริษัทนิติบุคคล, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม, ถุงใส่ทองคำ 3 ถุง และเอกสารต่าง ๆ
จากการตรวจสอบพบเป็นห้องสูตรขนาดใหญ่ภายในลักษณะเป็นห้องทำงาน และมีห้องนอน นอกจากนี้ยังพบชั้นล่างอีก 5 ห้อง ซึ่งใช้เป็นห้องพักและห้องทำงานย่อย ๆ
โดย พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. กล่าวว่า ขบวนการนี้หลอกลวงผู้เสียหาย 2 คนในพื้นที่ สน.พญาไท และสน.บางโพ โอนเงินยอดรวมประมาณ 4.5 ล้านบาท เข้ามาที่บัญชีธนาคารของบริษัทนิติบุคคล ระหว่างนั้น วอลรูมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบลักษณะการโอนเงินที่ผิดปกติ จึงสั่งเฝ้าติดตามเส้นทางการเงิน พร้อมกับแจ้งให้ตำรวจ แต่ละพื้นที่เตรียมเข้าตรวจสอบ กระทั่งพบว่าเงินจำนวนดังกล่าวถูกโอนผ่านเข้าแอปพลิชั่น ซื้อ-ขายทองคำออนไลน์ ของห้างทองชื่อดังย่านเยาวราช เพื่อซื้อทองคำ รวมน้ำหนัก 80 บาท และเตรียมเดินทางไปรับทองคำจำนวนดังกล่าว จึงให้ชุดสืบนครบาล และชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ไปเฝ้าติดตามกระทั่งควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นหญิงได้ 2 ราย และขยายผลดังกล่าว โดยข้อมูลทั้งหมดได้รับแจ้งช่วง 12.00 น.ที่ผ่านมา และสามารถขยายผลมาที่โรงแรมแห่งนี้ จนสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการ อีก 3 ราย ในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง
จากการสอบปากคำนายกฤตพัฒน์ 1 ในผู้ร่วมขบวนการ ให้การว่า ถูกชักชวนผ่านทางแอปพลิเคชั่น เข้ามาทำงานในบริษัทเงินกู้ที่ถูกเปิดบังหน้าในการรับโอนและกดเงินบัญชีม้า โดยในแต่ละวันจะมีหน้าที่ในการสแกนใบหน้าเพื่อโอนเงิน และออกไปรับทองตามร้านต่าง ๆ โดยได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000 ถึง 50,000 บาท ส่วนยาบ้าที่เจอ รับว่าเสพเองวันละ 10 เม็ด ร่วมกับการดื่มน้ำกระท่อม โดยจะมีผู้จัดหายาเสพติดและอาหารมาให้
ขณะที่ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนและขยายผล เพื่อ ตรวจสอบว่าผู้ต้องหาแต่ละคนมีหน้าที่อะไรบ้าง รวมถึงตรวจสอบข้อมูลทั้งสมุดบัญชีต่าง ๆ เบื้องต้นยังไม่ทราบรายละเอียดว่าพฤติการณ์การหลอกลวงผู้เสียหายของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวเป็นอย่างไร โดยวันพรุ่งนี้ (24 ก.ย.) เตรียมเรียกผู้เสียหายแต่ละคนเข้าให้ปากคำที่ สน.พญาไท และที่ สน.บางโพ ในวันวันศุกร์นี้ เพื่อขยายผลให้ถึงผู้ร่วมขบวนการทุกคน ส่วนความผิดที่พบเบื้องต้นนายกฤตพัฒน์ ถูกจับพร้อมของกลางยาบ้ากว่า 1พันเม็ด แจ้งข้อหาครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้า) และเสพยาบ้า
/////