“ชุมนุมสหกรณ์ตำรวจฯ”ร่วมกับ เจ้าหนี้รายใหญ่ ของสหกรณ์ฯคลองจั่น วอนให้รัฐบาล เร่งแก้ปัญหาแบบจริงใจโดยเร็ว
หลังปล่อยเงียบนานนับปี ทำให้สมากชิกเสียประโยชน์หนัก “อาจาร์ป๋อม”ลั่น หากเมินเฉย เตรียมบุกร้องที่ทำเนียบ
วันที่ 30 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 11.00 น.ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สมเดช ขาวขำ ประธานชุมชนสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งชาติ เป็นประธานฯการประชุมโดยมี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษากิตติมาศักดิ์ พล.ต.อ.อรวิทย์ สุพรรณเภสัช ในฐานะที่ประธานปรึกษาฯ พร้อมด้วยนายปกิต พิลังกาศา ประธานกรรมการ ดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และตัวแทน สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัดเข้าร่วมประชุมและแถลงให้ภาครัฐเร่งช่วยเหลือปัญหาสหกรณ์ฯ
พล.ต.ท.สมเดช กล่าวว่า สืบเนื่องจาก กรณีที่ปัญหาการทุจริต ที่เกิดขึ้นในสหกรณ์เครดิดยูเนี่ยนกลองจั่น คลองจั่น ทำให้มีสมาชิกสหกรณ์คลองจั่นเอง และสมาชิกสหกรณ์ที่ร่วมลงทุนกับคลองจั่นมีความเดือดร้อน เป็นวงกว้าง ที่มีความเดือดร้อน กลุ่มสหกรณ์เจ้าหนี้ได้ร่วมมือกันเข้าชวยเหลือโดยเสนอต่อศาล จะสนับสนุน โดยหาแนวทางที่คลองจั่นมีทรัพย์สินจำนวนมาก
ซึ่งต่อมาเดินหน้าเสนอความช่วยเหลือจากผู้มีอาจตามขั้นตอน เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจส่วนหนึ่ง
ของประเทศที่ขับเขื่อนโดยผ่านขบวนการสหกรณ์ยั่งยืน และเดินไปได้พร้อมกันทุกภาคส่วน ได้ยื่นเสนความช่วยเหลือปัจจุบัน การร่วมมือผ่าน โครงการของสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้อีกราช โดยมีอาคารยูทาวเวอร์ บนเนื้อที่ 28 ไร่ ค้ำประกัน มีสหกรณ์เจ้าหนี้ยินดีร่วมกันนำเงินนำฝาก
และร่วมเป็นเจ้าของทรัพย์ซึ่งสามารถทำให้สหกรณ์เครคิตยูเนี่ยนคลองจั่นคำเนินธุรกิจไปได้ นั่นคือสหกรณ์ได้ดำเนินการแก้ไขสมาชิกสหกรณ์อาจเดือดร้อนได้รับการช่วยเหลือหา
สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นสามารถมีเงินทุนในการคำเนินกิจการและนำไปสร้างรายได้ ในการผลักดันให้สหกรณ์เครดิยูเนี่ยนคลองจั่นได้ดำเนินงานได้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูกลุ่มสหกรณ์เจ้าหนี้และผ่านความเห็นชอบที่ คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นเสนอต่อภาครัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแล หากล่าช้าจะกระทบทั้งระบบและมีความเดือดร้อนเพิ่มมากขึ้น
ด้าน พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าว่ากรณีดังกล่าว มีผู้เสียสิทธิ์ประโยชน์ที่ควรได้รับจำนวนนับหลายแสนราย ขอเรียกร้อง รัฐบาลที่มี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ให้คาวมสำคัญถึงการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยได้โปรดสั่งการให้นายทะเบียนสหกรณ์ ผ่อนผันกฎเกณฑ์ ให้สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น สามารถเข้าซื้ออาคารยูทาวเวอร์ พร้อมที่ดินจำนวน 28 ไร่ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสหกรณ์คลองจั่นได้ ในราคา 3,500 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขจะต้องขายคืนอาคารและที่ดินดังกล่าว ให้กับสหกรณ์คลองจั่น เพื่อให้สหกรณ์คลองจั่น นำเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินไปชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้รายย่อย และสหกรณณ์เจ้าหนี้ต่างๆ รวมทั้งนำเงินที่เหลือจากการชำระหนี้ไปฟื้นฟูดำเนินกิจการ ซึ่งมีเงื่อนตายในวันที่ 16 กันยายนนี้ ศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งให้สหกรณ์คลองจั่น ยื่นคำให้การต่อศาลกรณีเจ้าหนี้ 4 รายรวมตัวฟ้องล้มละลาย หากสหกรณ์คลองจั่น ไม่สามารถขายทรัพย์สินหรือมีเงินที่จะดำเนินกิจการต่อไปได้อาจเป็นเหตุผลให้ถูกฟ้องล้มละลาย ส่งผล กระทบกับสมาชิกของสหกรณ์คลองจั่น และสมาชิกของสหกรณ์เจ้าหนี้ จำนวนนับแสนคน ซึ่งหากหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ที่กำกับดูเรื่องดังกล่าวยังคงเงียบเฉย ก็ต้องจะต้องรวมผู้เสียสิทธ์ประโยชน์ จากกรณีจำนวนหลายแสนคน ไปร้องเรียนต่อ พลเอกประวิตร โดยตรงที่ทำเนียบรัฐบาลต่อไปแน่นอน
ทั้งนี้ ผู้บริหารสหกรณ์คลองจั่น มีความพยายามประสานขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะกำกับดูแลนายทะเบียนสหกรณ์ เพื่อเจรจาขอให้มีการผ่อนผันเงื่อนไขการซื้อขายทรัพย์สินของสหกรณ์คลองจั่น มั่นใจจะได้รับความช่วยเหลือ
สำหรับสหกรณ์คลองจั่น หลังจากประสบภาวะวิกฤตตั้งแต่ปี 2556 มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 17,200 ล้านบาท มีเจ้าหนี้รายย่อยที่เป็นสมาชิกสหกรณ์คลองจั่น กว่า 18,000 ราย และลูกหนี้ในส่วนของสมาชิกสหกรณ์เจ้าหนี้ อีกกว่า 3 แสนราย โดยที่ผ่านมามีการชำระหนี้แล้ว 3,700 ล้านบาท
ในส่วนของชุมชนสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ มีหนี้สินกับสหกรณ์คลองจั่น ประมาณ 100 ล้านบาท โดยที่ผ่านมามีการชำระหนี้แล้วร้อยละ 20 ซึ่งผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ มั่นใจธุรกิจมีความมั่นคง ไม่เสี่ยง เพราะได้มีการตั้งงบทางการบัญชี ชดเชยหนี้ที่ยังเรียกเก็บไม่ได้แล้ว”พล.ต.อ.อชิรวิทย์ “