ไซเบอร์อรรถสั่งตั้งทีมสืบสวนด่วน หลังแม่รายหนึ่งเข้าร้อง วอนช่วยลูกชายวัย 17 คาดถูกหลอกไปทำงานเขมร
.
วันนี้ 12 ก.ย.68 เวลา ประมาณ 10.00 น. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย ธีรภัทรไพศาล รอง ผบก.สอท.4 และ พ.ต.อ.ปกรณ์กิตติ์ ธนวรินทร์กุล ผกก.3 บก.สอท.2 ได้ร่วมกันรับคำร้องทุกข์จากแม่วัย 47 ปี อาชีพคนงานก่อสร้าง หลังลูกชายวัย 17 ปี ได้หายตัวไปนานเกือบ 20 วัน โดยมีเบาะแสสุดท้ายเป็นข้อความในไลน์ที่ส่งถึงแฟนสาวว่า “โดนจับมาเขมร ช่วยด้วย”
.
น.ส.ดา (นามสมมุติ) แม่ของเด็กชายดังกล่าวเล่าว่า ลูกชายของตนหายออกจากบ้านพักในพื้นที่ อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 ส.ค.68 โดยทราบเพียงว่า ลูกชายได้งานทำเป็นแอดมินเงินเดือน 18,000 บาท ก่อนขาดการติดต่อไป ต่อมาภายหลังได้ทราบว่า ลูกชายถูกชักชวนผ่านเพจเฟซบุ๊กหางานออนไลน์ โดยแอดมินได้ใช้ภาพโปรไฟล์สาวสวยพูดคุยตีสนิทจนทำให้เชื่อใจ จากนั้นจึงมีการนัดหมายพบกันที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ก่อนที่จะขาดการติดต่อกับตนไปในที่สุด
.
จากกรณีดังกล่าว พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการเร่งด่วนให้ พ.ต.อ.ปกรณ์กิตติ์ ธนวรินทร์กุล ผกก.3 บก.สอท.2 ตั้งทีมสืบสวนเพื่อเร่งติดตามกรณีดังกล่าวทันที โดยจากการสืบสวนเบื้องต้น ตรวจพบสัญญาณโทรศัพท์ของเด็กชายคนดังกล่าวครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 ใกล้แนวชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
.
พล.ต.ท.ไตรรงค์ฯ เปิดเผยว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบว่าผู้สูญหายถูกล่อลวงข้ามแดนจริงหรือไม่ หากเป็นการสมัครใจไปทำงานผิดกฎหมายก็อาจเข้าข่ายเป็นผู้ร่วมขบวนการ แต่จากพยานหลักฐานเบื้องต้นขณะนี้ มีความน่าเชื่อว่า ผู้สูญหายได้ถูกหลอกลวงไป
.
ตำรวจไซเบอร์จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชน ให้พิจารณาอย่างรอบคอบก่อนสมัครงานออนไลน์ อย่าได้หลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อที่ใช้ตัวเลขค่าตอบแทนสูงในการชักชวนไปทำงานต่างแดน หรือทำงานที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย และที่สำคัญ อย่าเปิดบัญชีธนาคารให้ผู้อื่นใช้ ไม่ว่าจะได้ค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม เพราะอาจตกเป็น “บัญชีม้า” จนถูกดำเนินคดีในฐานะผู้ร่วมขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติได้
.
📞 หากพบเบาะแส สามารถโทรแจ้งได้ที่ สายด่วน AOC 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง