”พี่ก้อย“ผู้ประกาศดัง ร้อง หลังถูกหมอเถื่อน ฉีดสารอันตรายใส่หน้า หวั่น เสียโฉม
อดีตผู้ประกาศข่าว ชื่อดัง ร้องดองปราบฯ ถูกบุคคลแอบอ้างเป็นแพทย์ ฉีดสารเข้าใบหน้า เสี่ยงชีวิต-เสียโฉม เกรงคดีไม่คืบ วอนรัฐเร่งตรวจสอบ
วันนี้ (12 ก.ย. 68) เวลา 13.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความตำรวจสอบสวนกลาง น.ส. จันทร์ปรียา หรือพี่ก้อย อดีตผู้ประกาศข่าวจากสถานีข่าวชื่อดัง ออกมาร้องต่อกองบังคับการ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ตกเป็นเหยื่อของบุคคลที่แอบอ้างเป็น แพทย์ โดยได้เข้ารับการฉีดวิตามินบำรุงผิวหน้าที่คลินิกแห่งหนึ่ง ในจังหวัดบุรีรัมย์ แต่กลับพบว่า ผู้ทำการฉีดไม่ใช่แพทย์ ที่มีใบอนุญาตจริง พร้อมทั้งมีการอ้างชื่อแพทย์ตัวจริงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือแก่ผู้บริโภค
น.ส. จันทร์ปรียา ผู้เสียหาย เล่าว่า หลังจากเข้ารับบริการฉีดสารดังกล่าว ได้เกิดอาการผิดปกติบริเวณใบหน้า จนต้องเข้ารับการ รักษาจากแพทย์ และได้รับความเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งเมื่อทำการตรวจสอบภายหลังพบว่าได้มีการแอบอ้างชื่อแพทย์จริง โดยที่แพทย์ท่านนั้นไม่ได้รู้เห็นเกี่ยวข้อง รวมทั้งตัวสารที่ใช้ฉีด อาจไม่ได้มีการจดทะเบียน อย. อย่างถูกต้อง ไม่ สามารถนำมาใช้ฉีดเข้าร่างกายได้ เข้าข่ายเป็นยาเถื่อน ซึ่งจะมีการขยายผลสอบสวนต่อไป
ปัจจุบันตนได้ดำเนินการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์แล้วนับตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทั่งในวันนี้จึงขออนุญาตเข้าร้องต่อ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการ คุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และร้องเรียนต่อกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) รวมทั้งแพทยสภา ในลำดับต่อไป เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าจะเดินหน้าฟ้องร้องทั้งทางอาญาและทางแพ่ง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และไม่ให้เกิดเหตุซ้ำกับผู้บริโภครายอื่น
ตนไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใครอีก กรณีดังกล่าวถือเป็นภัยสังคมอันตรายร้ายแรง ที่อาจทำให้ ประชาชนทั่วไปรวมทั้งหมอตัวจริง อาจตกเป็นเหยื่อของคนที่แอบอ้าง อันจะเกิดความเสียหายกระทบต่อสังคมในวงกว้าง เป็นอย่างมาก พร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบอย่างโปร่งใส เพื่อให้สังคมมั่นใจว่าประชาชนทุก คนจะได้รับการคุ้มครองจากการกระทำของผู้แอบอ้างเป็นแพทย์ผู้
เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้รับเรื่องร้อง ทุกข์จากผู้เสียหายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะอยู่ระหว่างการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานรวมทั้งการขยายผลเพื่อตรวจสอบ โดยจะดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย หากพบว่ามีการกระทำผิดจริง จะถูก ดำเนินคดีตามกฎหมายทุกขั้นตอน ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย อย่างแน่นอน
