นนทบุรี วงจรปิด สุดทน! ตายายร้องสื่อถูกเพื่อนบ้านเปิดอู่ซ่อมรถ จอดขวางบ้านนานเกือบ 10 ปี ให้ย้ายรถกลับไม่พอใจตะโกนด่า ให้ของลับ
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากคุณตาสุรพล อายุ 73 ปี และคุณยายพิศมัย อายุ 71 ปี สองสามีภรรยา ว่าตนเองนั้นได้รับความเดือดร้อนจาก นายไปร์ท (นามสมมุติ) เพื่อนบ้านคู่กรณี ที่เปิดอู่ซ่อมรถภายในซอยหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 2 ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สร้างความเดือดร้อนโดยการนำรถมาจอดขวางทางเข้า-ออกบ้านเป็นเวลานานเกือบ 10 ปี เคยมีการพูดคุยแล้วหลายครั้งแต่ไม่ดีขึ้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา นายไปร์ท (นามสมมุติ) ได้พูดจาด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และทำท่าทางข่มขู่ในลักษณะที่จะทำร้ายร่างกาย เนื่องจากไม่พอใจที่ตนเองนั้นไปตักเตือนเรื่องที่จอดรถยนต์กีดขวางหน้าบ้าน ตนเองจึงเกิดความหวาดกลัว และเกรงว่าอาจได้รับอันตรายหรือไม่ปลอดภัย จึงเดินทางเข้าแจ้งความที่สภ.ปากเกร็ด
ภาพจากกล้องวงจรปิด เวลา 06.37 น. วันที่ 3 ก.ย. 68 จับภาพบริเวณหน้าบ้านของคุณตาสุรพล และคุณยายพิศมัย มีรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว ของนายไปร์ท (นามสมมุติ) เพื่อนบ้านคู่กรณี จอดขวางอยู่ ขณะที่คุณตาสุรพลได้ขับรถเลยบ้านของตนเองไป และคุณยายพิศมัยได้ยืนบ่นนายไปร์ทเรื่องจอดรถขวางหน้าบ้าน ซึ่งนายไปร์ทได้เดินมาขยับรถและมีการโต้เถียงกัน นายไปร์ทได้พูดว่า “ตนเพิ่งตื่น มันมีใครออกจากบ้านหรือเปล่า วันหลังก็มาอยู่บ้านดิ ถ้าอยู่ก็ไม่จอดไง“ จากนั้นก็ขับรถออกไป คุณตาสุรพลจึงลงจากรถมาไขกุญแจรั้วและถอยรถเข้าบ้านตนเอง โดยระหว่างนั้นคุณตาสุรพลกับคุณยายพิศมัยก็ยังบ่นถึงพฤติกรรมของเพื่อนบ้านที่จอดรถขวางหน้าบ้านข้ามวันข้ามคืนอยู่เป็นประจำ
ภาพจากกล้องวงจรปิด เวลา 06.40 น. วันที่ 3 ก.ย. 68 จับภาพนายไปร์ทเดินผ่านหน้าบ้านและตะโกนให้ของลับกับคุณยายพิศมัย ที่ยืนคุยกับแม่ยายของนายไปร์ท (กล้องจับไม่ถึงขณะยืนคุย) คุณตาสุรพลได้ยินจึงรีบเดินออกไปดู ก่อนที่นายไปร์ทจะเริ่มเสียงดังและด่าทอด้วยคำหยาบคาย
คุณตาสุรพล และคุณยายพิศมัย เล่าว่า เรื่องนี้เกิดเหตุมาหลายครั้งแล้ว ก่อนหน้าเมื่อปี 2562 ตนก็เข้าแจ้งความไว้แล้วที่สภ.ปากเกร็ด แต่เรื่องเงียบไป จนถึงปีนี้วันเกิดเหตุตนตั้งใจจะเข้าบ้านเห็นรถจอดอยู่ จึงให้แฟนไปเรียกคู่กรณี แต่กว่าจะมาขยับรถก็ให้รออยู่นาน จนต้องบีบแตรซ้ำ พอคู่กรณีเดินออกมาก็มองหน้าแล้วเปิดประตูขึ้นรถไป ไม่สนใจอะไร ตนได้ถามว่าทำไมถึงจอดแบบนี้ คู่กรณีตอบกลับเห็นว่าไม่มีคนอยู่ ตนก็งงเพราะที่นี่ไม่ใช่บ้านร้าง เพียงแต่ตนไปๆมาๆเท่านั้นก็ถือเป็นสิทธิ์ของตน แต่มาจอดหน้าประตูบ้าน ตนก็มีสิทธิ์พูด หากตนมาก็ต้องเข้าบ้านได้ ตนหงุดหงิดบางครั้งหาไม่เจอ หลายครั้งมากแล้ว หากมีการขอโทษคงจะไม่อะไร แต่ไม่เคยมีการขอโทษใดๆ ซึ่งปัจจุบันตนทั้ง 2 คน ไปอยู่อีกบ้านเพราะป่วยและไปช่วยลูกดูหลานด้วย
คู่กรณีเห็นว่าตนไปคุยกับแม่ยาย ก็เกิดอารมณ์โมโห ด่าทอตนด้วยคำหยาบคาย หลังจากทะเลาะวิวาทกันจบ คู่กรณีบอกว่าห้ามผ่านหน้าบ้าน ตนตอบไปว่าได้จะไม่ผ่าน ตนก็พูดได้เท่านั้น อยากถามว่ามีสิทธิ์อะไรมาสั่ง ซึ่งตนก็ไม่ได้กล้าด่าอะไรแรงเพราะกลัวจะถูกทำร้ายร่างกาย คู่กรณีเปิดบ้านสำหรับซ่อมรถ มีรถหลายคันมาซ่อมก็จอดเรียงๆในซอย ทำให้เข้า-ออกลำบาก และมาจอดรถหน้าบ้านของตนเป็นประจำ ครอบครัวตนต้องอดทนอยู่แบบนี้มานานเกือบ 10 ปี การที่ตนเข้ามาแจ้งความหวังอยากคุยดีๆ หาทางออกร่วมกัน ตนรู้ว่าตัวแก่แล้วเดี๋ยวก็ตาย