ปอศ.ผนึกกำลังกรมปศุสัตว์–ศุลกากร
ยึดขาไก่แช่แข็งลักลอบนำเข้า เสี่ยงปนเปื้อน-เชื้อโรคอันตราย กว่า 230 ตัน
ความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ.,ว่าที่ พ.ต.อ.นฤพนธ์ กรุณา ผกก.2 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน นำโดย พ.ต.ท.สมจิตร ยศหนองทุ่ม รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ปอศ.,พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ., พ.ต.ท.พีระพัฒน์ สุทธเสนา สว.กก.2 บก.ปอศ. ,ร.ต.อ.กษิดิ์พิชญ์ สุภาสูรย์ รอง สว.กก.2 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.2 บก.ปอศ. ร่วมตรวจสอบ
ร่วมกันตรวจยึด ขาไก่แช่แข็งลักลอบนำเข้า น้ำหนักรวมกว่า 230,000 กิโลกรัม
ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ได้แก่ บริษัทรุ่งเรือง โฟรเซ่น จำกัด พร้อมกรรมการผู้มีอำนาจ
โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “สำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และนำเข้าสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558”
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนพบว่ามีกลุ่มบริษัทต้องสงสัยใช้ตู้คอนเทนเนอร์ลักลอบนำเข้าสินค้า ประเภทขาไก่แช่แข็ง เนื้อหมู และสินค้านำเข้าประเภทอื่น โดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยมีลักษณะการกระทำสอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินงานของเครือข่ายลักลอบนำเข้าตีนไก่และหมูเถื่อน ที่เคยถูกดำเนินคดีมาก่อนหน้านี้ ซึ่งแสดงถึงการจัดการอย่างเป็นขบวนการของกลุ่มผู้ต้องหา
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ได้บูรณาการความร่วมมือกับกรมศุลกากร และกรมปศุสัตว์ ในการสืบสวนดำเนินคดีและตรวจสอบการลักลอบนำเข้าซากสัตว์ ณ พื้นที่ศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ
เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ผลการตรวจสอบพบว่า บริษัทรุ่งเรือง โฟรเซ่น จำกัด มีการสำแดงเอกสารต่อกรมศุลกากรอันเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ และไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ในการนำเข้าสินค้าดังกล่าว โดยสินค้าของกลางที่ตรวจยึดได้จาก บริษัทรุ่งเรือง โฟรเซ่น จำกัด เป็นขาไก่แช่แข็งลักลอบนำเข้า น้ำหนักรวมกว่า 54,000 กิโลกรัม
จากการตรวจสอบเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีกลุ่มบริษัทฯ ที่กระทำความผิดเพิ่มเติมอีก โดยสามารถอายัดขาไก่แช่แข็งลักลอบนำเข้า ณ พื้นที่ศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร น้ำหนักรวมกว่า 230,000 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจยึดและอายัดสินค้าทั้งหมดไว้ โดยจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผล เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเด็ดขาดต่อไป
ขาไก่แช่แข็งเถื่อน ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบในครั้งนี้ มีผลกระทบต่อผู้บริโภคและประชาชนในหลายๆด้านเช่น
1.ความเสี่ยงด้านสุขภาพ เนื่องจากขาไก่เถื่อนที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากกรมปศุสัตว์อาจปนเปื้อนเชื้อโรคที่เป็นอันตราย เช่น ไข้หวัดนก หรือโรคทางเดินอาหารอื่น ๆ รวมถึงอาจมีสารเคมีหรือสารตกค้างที่ใช้ในการผลิตจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคโดยตรง
2.ความไม่ปลอดภัยทางอาหาร เนื่องจากสินค้าเหล่านี้มักจะถูกเก็บในสภาพที่ไม่เหมาะสม ขาดการควบคุมอุณหภูมิที่ได้มาตรฐาน ทำให้คุณภาพและความปลอดภัยของอาหารลดลงอย่างมาก
3. การสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ เนื่องจาก การที่ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เงินทุนไหลออกนอกระบบเศรษฐกิจของประเทศ และทำให้ประชาชนสูญเสียโอกาสในการสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศ
นอกจากนี้การนำเข้าขาไก่เถื่อนในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดอย่างผิดกฎหมาย ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนัก ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ ส่งผลให้ต้องลดกำลังการผลิตหรือเลิกกิจการไปในที่สุด นอกจากนี้รัฐบาลสูญเสียรายได้จากภาษีและค่าธรรมเนียมการนำเข้าที่ควรจะได้รับอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และยังต้องใช้งบประมาณในการปราบปรามและตรวจสอบการลักลอบนำเข้าอีกด้วย
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอศ. ได้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามสินค้าหนีภาษี เลี่ยงภาษี โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร และภาษีสรรพสามิต เป็นเหตุให้รัฐไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ และฝากเตือนถึงประชาชนการลักลอบนำเข้า รวมถึงการสำแดงเท็จต่อศุลกากร เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ จะมีบทลงโทษตามกฏหมาย
หากพบเบาะแสการกระทำความผิดดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแส ได้ที่เว็บไซต์ https://cib.go.th/ Fหรือเฟซบุ๊ก ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด