จับกุมอดีตนักมวยขับรถเข้าด่านตรวจพบมีหมายจับทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุถึงแก่ความตาย
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล.,พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง ผบก.บก.ทล.,พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ช่วยราชการ รอง ผบก.บก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง, พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สวญ.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.ธนะพงศ์ องอาจ, ร.ต.ท.วรพงศ์ จั่นปาน, ร.ต.ท.จรัล ภู่สวัสดิ์,ร.ต.ท.กู้ศักดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา, ร.ต.ท.วิฑูรย์ เปลรินทร์, ร.ต.ต.สุเทพ จ้อยจิตต์ รอง สว.ส.ทล.2กก.2บก.ทล., ด.ต.ไพศาล เจริญเรืองทรัพย์, ด.ต.จิรวัฒน์ แตงจุ้ย, ด.ต.เอกราช ม่วงงาม, ด.ต.สยาม เปรมมล,
จ.ส.ต.ประเสริฐ พูลศิริ, จ.ส.ต.ธัญพิสิษฐ์ วรพุฒิ, จ.ส.ต.สราวุฒิ ประประจวบวัน ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม นายบุญชูฯ อายุ 32 ปี ตามหมายศาลจังหวัดวิเชียรบุรี ที่ จ.12/2568 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ในความผิดฐาน “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย”
สถานที่จับกุม บริเวณถนนพระราม 2 ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตั้งจุดกวดขันวินัยจราจร บริเวณถนนพระราม 2 ขาล่องใต้
ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีดำ มีชายและหญิงขับเข้ามายังจุดตรวจไม่สวมหมวกนิรภัย เมื่อพบเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอาการตกใจน่าสงสัย
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เรียก เพื่อตรวจสอบ พบนายบุญชูฯ ขับรถคันดังกล่าวมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบโดยละเอียด พบว่า นายบุญชูฯ เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดวิเชียรบุรี ที่ จ.12/2568 ในความผิดฐาน “ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย”เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้อ่านและแสดงหมายจับพร้อมตำหนิรูปพรรณให้นายบุญชูฯ ดูและได้ยืนยันว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริงและยังไม่เคยถูกจับกุมตัวตามหมายจับนี้มาก่อน
จากการสอบถามพฤติการณ์ในคดี นายบุญชูฯ ได้แจ้งว่าตนเคยเป็นอดีตนักมวยมาก่อน และเมื่อวันเกิดเหตุ ได้มีปากเสียงทะเลาะกันกับผู้เสียชีวิต เนื่องจากขับขี่รถจักรยานยนต์ตัดหน้ากัน ทำให้ตนเกิดอาการโมโหและได้มีการชกต่อยกันผู้เสียชีวิต จนคู่กรณีสลบและมีเลือดออกในสมองจนต้องมีการผ่าตัด ต่อมาได้ทราบว่าคู่กรณีได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในภายหลัง จึงได้หลบหนีเรื่อยมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบประวัติของนายบุญชูฯ ยังพบอีกว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่า และคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อนอีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายกับให้ทราบ ควบคุมตัวนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บึงสามพัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เตือนภัย ตำรวจสอบสวนกลางเตือนภัยประชาชน ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา มีความผิดฐาน ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี จนถึง 15 ปี และยังถูกเรียกร้องค่าเสียหายทางจากเหตุละเมิดในทางแพ่งอีกด้วย
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด