รวบหมอทหารทุจริตหลอกฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปลอมเข้าร่างกายกำลังพล
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป.,พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์, พ.ต.ท.อภิชน ขันกา,พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์, พ.ต.ท.กฤษฎา พลายละหาร และ พ.ต.ท.รัฐวิรุฬห์
จันทสุบรรณ รอง ผกก.1 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.เอกรัฐ จันทร์มณี สว.กก.1 บก.ป.,ร.ต.ต.บุญเสริม สอนคำ,ร.ต.ต.สายชล คูหาทอง, รอง สว.(ป.) กก.1 บก.ป., ด.ต.สามารถ ลอสุวรรณ, , ด.ต.สิทธิศักดิ์ แสนยะบุตร และ จ.ส.ต.ชาตรี มากมูล ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม ร้อยโท จิณณวัตรฯ หรือ นายบริสุทธิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลทหาร ที่ 263/2568 ลงวันที่ 31 พ.ค.2568 ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และโดยเหตุที่ มีหลักฐานตามสมควรว่าผู้ต้องหาน่าจะได้กระทำผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปีและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี ”
สถานที่จับกุม ภายในสถานีจำหน่ายน้ำมัน หมู่12 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. เพื่อทำการสืบสวนจับกุม ร้อยโท จิณณวัตรฯ หรือ นายบริสุทธิ์
ผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และโดยเหตุที่มีหลักฐานตามสมควรว่าผู้ต้องหาน่าจะได้กระทำผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปีและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี ตามหมายจับของศาลทหาร ที่ 263/2568 ลงวันที่ 31 พ.ค.2568
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 ก.พ.63 ถึง 5 มี.ค.63 ต่อเนื่องกัน ณ โรงพยาบาลสนาม ระดับ 1 กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจไทย/เซาท์ซูดาน ประเทศซูดาน ร้อยโทจิณณวัตรฯ ได้หลอกลวงผู้บังคับบัญชาและกำลังพลกองร้ายทหารช่างเฉพาะกิจ ว่าจะทำการให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับกำลังพลฯ แต่กลับฉีดสารอื่นที่ไม่ได้รับการรับรองและไม่มีเอกสาร หรือฉลากระบุแหล่งที่มาชัดเจน ฉีดเข้าสู่ร่างกายกำลังพลฯแทน พร้อมทั้งยังเบิกเงินค่าวัคซีนจากกองร้อยทหารช่างเป็น จำนวน 5,800 เหรียญสหรัฐฯ เป็นของตนโดยทุจริต
ขณะที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติในการประชุมครั้งที่ 32/2567 วันที่ 20 มี.ค.2567 ได้มีมติชี้มูลว่าเป็นผู้กระทำความผิดและความผิดนั้นมีโทษทางอาญา โดยมี ร้อยโท จิณณวัตรฯ เป็นผู้ถูกกล่าวหา และมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาจะหลบหนี จึงได้ดำเนินการขอให้ศาลที่มีเขตอำนาจออกหมายจับและควบคุมตัว ต่อมาได้มีการขอประกันตัว โดยระหว่างการดำเนินคดีได้มีการเรียกให้ ร้อยโท จิณณวัตรฯ ไปรายงานตัวต่ออัยการศาลทหารกรุงเทพ ในวันที่ 20 ม.ค.63 แต่อ้างเหตุขัดข้องขอเลื่อนวันรายงานตัวออกไป และต่อมาอัยการศาลทหารกรุงเทพได้ออกหมายเรียกให้ร้อยโท จิณฉวัตรฯ ไปรายงานตัวต่ออัยการศาลทหารกรุงเทพอีกครั้ง ในวันที่ 19 ก.พ.68 แต่ร้อยโท จิณณวัตรฯ ไม่ได้ไปรายงานตัวตามวันเวลาดังกล่าว จึงเชื่อได้ว่ามีพฤติการณ์หลบหนีคดี หรือเพื่อประวิงเวลา จึงได้มีการออกหมายจับในครั้งนี้
กระทั่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับเบาะแสว่าผู้ต้องหารายนี้จะเข้ามาใช้บริการในสถานบริการจำหน่ายน้ำมัน ในพื้นที่ ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงได้ร่วมกันวางแผนและวางกำลังเพื่อสังเกตการณ์ กระทั่งชุดจับกุม ได้สังเกตเห็นชายลักษณะคล้ายผู้ต้องหา จึงเข้าไปแสดงตัวพร้อมแสดงความบริสุทธิใจเป็นที่พอใจแล้ว ก่อนจะขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมทั้งแสดงหมายจับให้ ร้อยโท จิณณวัตรฯ หรือ นายบริสุทธิ์ ได้ตรวจสอบ
โดยมีการแจ้งให้ทราบว่าจะต้องถูกจับตามหมายจับนี้ แต่ระหว่างนั้นผู้ต้องหาไม่ยอมให้ควบคุมตัว พยายามใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปเจ้าหน้าที่ ประกอบกับตะโกนอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการแสดงท่าทีจะหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้โทรศัพท์แจ้งศูนย์วิทยุ 191 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้นำกำลังมายังสถานที่จับกุม พร้อมกับที่ผู้เป็นบิดาของร้อยโท จิณณวัตรฯ อาศัยช่วงชุลมุนเข้ามาขัดขวางไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวลูกชาย ซึ่งภายหลังเมื่อชุดจับกุมสามารถระงับเหตุและควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ จึงนำตัวไปที่ สภ.บางแก้วเพื่อทำบันทึกจับกุม พร้อมอ่านหมายจับและแจ้งถึงสิทธิที่ผู้ต้องหาพึงได้รับจนผู้ต้องหาเข้าใจดีแล้ว ก่อนนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยรับเพียงว่าตนเองไปปฏิบัติหน้าที่ที่ซูดานจริง แต่ปฏิเสธไม่รู้เรื่องหรือเกี่ยวข้องกับการฉีดสารใดๆ โดยรายละเอียดอื่นๆ ไม่ขอให้การในชั้นจับกุม
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
