“บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ รอง.ผบช.ก.ไม่หวังเก้าอี้ ขอเพียงยุติธรรมเพื่อเพื่อนตำรวจ เตรียมเดินหน้าลุยสอบเงินวัดพระบาทน้ำพุต่อ
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ดร.สุปรีดิ์ วงศ์ดีพร้อม รองประธานมูลนิธิการแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมคณะ เข้ามอบดอกไม้ให้กำลังใจ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ศิษย์เก่าที่ลุกขึ้นยืนท้วงระบบแต่งตั้งตำรวจที่ไม่เป็นธรรม
ดร.สุปรีดิ์ ระบุว่า การแต่งตั้งควรยึดหลัก “ความรู้ ความสามารถ และความซื่อสัตย์” ไม่ใช่ความใกล้ชิด พร้อมยกย่องความกล้าหาญของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ที่ยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ย้ำว่า สิ่งที่เรียกร้องคือให้การแต่งตั้งเป็นไปตาม พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ พร้อมประกาศชัดว่า “แม้ไม่ได้ตำแหน่งก็ไม่เป็นไร ขอเพียงได้คนเก่งและซื่อสัตย์เข้าสู่ระบบ” พร้อมปฏิเสธข่าวลือเรื่องมี “แบ็กการเมือง” หรือเคลื่อนไหวเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
นอกจากการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมภายในองค์กรแล้ว พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังเป็นหัวหอกคดีใหญ่ วัดพระบาทน้ำพุ ที่ถูกจับตาทั่วประเทศ โดยล่าสุดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจกำลังสอบเส้นทางการเงินและการบริหารจัดการของวัดอย่างละเอียด หลังมีข้อมูลโยงไปถึง พระอลงกต และ หมอบี เกี่ยวกับการใช้เงินบริจาคไม่โปร่งใส
“เราพบโครงสร้างการเงินที่ซับซ้อน มีลักษณะเหมือนองค์กรจัดตั้ง ทั้งฝ่ายเก็บ ฝ่ายบริหาร และช่องทางรับบริจาค หากพบข้อพิรุธหรือเบี่ยงเบนจากวัตถุประสงค์ จะดำเนินคดีไม่เว้นแม้แต่พระ นักการเมือง ดารา หรืออินฟลูเอนเซอร์” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
พร้อมย้ำว่า คดีนี้อาจมีเม็ดเงินหมุนเวียนระดับ พันล้านถึงหมื่นล้านบาท และจะเป็นต้นแบบในการจัดการกับองค์กรศาสนาที่อาศัยช่องโหว่เรี่ยไรโดยไร้การตรวจสอบ
“สิ่งที่เราทำทั้งหมดไม่ใช่เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่เพื่อคืนความเชื่อมั่นให้ประชาชนและปกป้องศรัทธาของสังคมไทย” บิ๊กเต่ากล่าว










