ทิดจอร์จ นั่งสมาธิยันเช้า หลังพนักงานสอบสวนคุมตัวมาห้องขัง ด้านหมอบีนอนหลับพักผ่อน ก่อนที่จะคุมตัวฝากขังวันนี้พร้อมความเห็นคัดค้านการประกันตัว
หลังจากที่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (03:00 น.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม นำตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ และนายเสกสันน์ หรือ หมอบี มาควบคุมตัวยังห้องคุมขัง พี่อาคารศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
โดยทิดจอร์จ ให้การเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เช่นเดียวหมอบีก็ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเช่นกัน โดยอ้างว่ามีหลักฐานมาหักล้างการกระทำความผิด จากบัญชีที่เปิดรับบริจาค
มีรายงานว่า ทิดจอร์ด และหมอบี ถูกคุมขังคนละห้องกัน และตั้งแต่เมื่อกลางดึกที่เข้ามา ทิดจอร์จ ได้นั่งสมาธิตลอดจนกระทั่งถึงเช้า ส่วนหมอบีได้นอนหลับพักผ่อน และทั้งคู่ไม่ได้เรียกร้องอะไรเป็นพิเศษ โดยเมื่อเช้าตำรวจได้สั่งอาหารเป็นกระเพราไก่และน้ำดื่ม มาให้ทั้ง 2 คน รับประทาน
เมื่อเวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามได้ควบคุมตัวอดีตพระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และนายเสกสันน์ หรือหมอบี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบในฐานความผิดตาม ม.147 และ 157 ตามประมวลกฎหมายอาญา ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องขังที่อาคารศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากมีพฤติกรรมหลบหนี และเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ระหว่างที่ควบคุมตัวออกมา สื่อมวลชนได้พยายามสอบถามกับนายอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งสวมใส่เสื้อผ้า และห่มผ้าคล้ายสีกรักที่พระสงฆ์สายธรรมยุติกนิกายครองจีวร ถึงประเด็นสภาพจิตใจ ความเป็นอยู่ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา รวมถึงกระแสข่าวว่ามีภรรยาและลูกเป็นจริงหรือไม่นั้น แต่นายอลงกต ก็ไม่ได้เป็นการตอบคำถามสื่อมวลชนแต่อย่างใด เพียงแค่ยิ้ม แล้วก็พูดแค่ว่า “ไปที่ศาล”
ในขณะที่หมอบี สวมเสื้อสีน้ำตาล กางเกงสีดำก็ไม่มีการตอบคำถามใด ๆ เช่นเดียวกัน ซึ่งทีมข่าวสังเกตเห็นว่า สีหน้าของหมอบีค่อนข้างที่จะอิดโรย หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคุมตัวทั้ง 2 คน ขึ้นรถเก๋งไปคนละคัน ไปฝากขังยังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และพนักงานสอบสวนมีความเห็นค้านการประกันตัวในชั้นศาล เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนี และเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายชัย ลูกศิษย์ของทิดจอร์ด เดินทางมาเยี่ยมทิดจอร์จ เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าว ว่าถูกจับก็รู้สึกเป็นห่วง โดยได้โทรศีพท์ถามลูกศิษย์ของวัดพระบาทน้ำพุ ว่าท่านเป็นอย่างไรบ้างมีเสื้อผ้าใส่หรือไม่ ตนเป็นห่วง เพราะเคยช่วยเหลืองานท่าน ทุกครั้งเมื่อที่ท่านเข้ามาที่กรุงเทพฯก็จะมาช่วยกิจนิมนต์ตลอด เพราะท่านมีกิจกรรม 365 วันไม่เคยหยุด ท่านออกทำงานทุกวัน
พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ยอมรับว่าตกใจ เป็นห่วงคนป่วย เด็กๆ และคนชราที่ท่านดูแลอยู่ รวมถึงสัตว์เลี้ยง และทีมงานที่ทำงานร่วมกันกับท่านไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะทำอย่างไร และเมื่อวานตนทราบข่าวว่าที่โรงเรียนนาถะ มีผู้ปกครองหลายคนเดินทางมารับบุตรหลาน กันตั้งแต่ยังไม่เลิกเรียน สงสารเด็กที่มาซ้อมกีฬา
เมื่อถามว่ารู้สึกเสื่อมศรัทธาเลยหรือไม่ นายชัย บอกว่าเรื่องคดีความผมขอไม่พูด แต่ยังศรัทธาในสิ่งที่ท่านทำและช่วยเหลือสังคม ยืนยันว่ายังคงศรัทธาอยู่ และผมไม่รู้เรื่องเบื้องลึกของท่าน เรารู้เพียงแค่ว่าท่านเป็นคนช่วยสังคมมากมาย บางครั้งตนก็รับทำข้าวกล่องส่งให้ท่านทั้งในกรุงเทพฯและส่งให้ผู้ป่วยที่วัด
เมื่อถามว่าผิดหวังในตัวท่านหรือไม่ที่มีการนำชื่อของเพื่อนสนิทที่เสียชีวิตไปแล้ว มาสวมชื่อ นายชัย บอกว่า ไม่ผิดหวัง และคิดว่าท่านน่าจะมีเหตุผลของท่าน เรามองแค่ที่ท่านช่วยเหลือสังคมมากกว่า จึงศรัทธาในส่วนนั้น และเมื่อวานนี้ตนได้คุยกับกลุ่มลูกศิษย์ทุกคนบอกว่าจะมาเยี่ยมท่าน มีทั้งผู้ป่วยและเด็กที่อยากมา ส่วนวันนี้จะมีการมาให้กำลังใจหรือไม่ น่าจะไม่มากัน
ในปกติเวลาที่เจอท่าน ท่านก็ยังคงเดินได้แต่ส่วนใหญ่ จะนั่งวิลแชร์มากกว่าเพราะท่านปวดขาเนื่องจากขาดามเหล็ก หลังประสบอุบัติเหตุ ปกติท่านจะตื่นตี 3 หรือตี 4 และนั่งรถออกไปกิจนิมนต์ และกลับถึงวัดประมาณ 3-4 ทุ่มทุกวัน ส่วนใหญ่เวลาเข้ากรุงเทพฯในช่วงเช้าท่านจะบิณฑบาตและหลังจากนั้นจะไปกิจนิมนต์ในแต่ละที่พร้อมรับของบริจาค และช่วงเย็นก็จะมีตลาดเย็นจะมีคนไปร้องเพลง ที่ตลาดเพื่อขอรับบริจาค
เมื่อถามว่าจากการตามข่าวเชื่อหรือไม่ว่าหลวงพ่อจะหนี ส่วนตัวตนเองไม่เชื่อ ท่านอาจจะแค่ออกไปนวด ปกติท่านไปทุกคืนอยู่แล้ว ก่อนกลับกุฏิ และวันที่เกิดเรื่องตนได้ข่าวว่าท่านกลับจากกิจนิมนต์ที่โคราชและแวะไปนวดที่ใจฟ้า Academy
