ตำรวจไซเบอร์สกัดจับพ่อค้าบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ ขับรถขนของกลางมูลค่ากว่า 2.5 แสน เตรียมขายต่อวัยรุ่นสระบุรี เผยรายได้ดีฟันนับแสนต่อเดือน

ตำรวจไซเบอร์สกัดจับพ่อค้าบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ ขับรถขนของกลางมูลค่ากว่า 2.5 แสน เตรียมขายต่อวัยรุ่นสระบุรี เผยรายได้ดีฟันนับแสนต่อเดือน
.
วันอาทิตย์ที่ 10 ส.ค.68 เวลา 13.30 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 (เมืองทองธานี) นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3, พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์สกัดจับพ่อค้าบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์ ขับรถขนของกลางมูลค่ากว่า 2.5 แสน เตรียมขายต่อวัยรุ่นสระบุรี เผยรายได้ดีฟันนับแสนต่อเดือน
.
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 ได้สืบสวนการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทางออนไลน์ จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายกำลังวางแผนขนย้ายบุหรี่ไฟฟ้า จากบริเวณถนนริมทางรถไฟสายเก่า แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กทม. มุ่งหน้ายังพื้นที่ จ.สระบุรี โดยใช้รถยนต์ HYUNDAI สีขาว รุ่น H1 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางกำลังเฝ้าติดตามรถเป้าหมายคันดังกล่าว
.
จากนั้น วันที่ 9 ส.ค.68 เวลาประมาณ 13.00 น. พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ศรีกุฎ สว.กก.2 บก.สอท.2 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนพบรถยนต์เป้าหมาย จึงได้ขับติดตามโดยใช้เส้นทางยกระดับอุตราภิมุข ถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าไปพื้นที่จังหวัดสระบุรี กระทั่ง รถคันดังกล่าวขับมาถึงถนนพหลโยธิน (ขาออกวังน้อย) ได้เลี้ยวเข้าไปบริเวณลานจอดร้านข้าวแกงแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยาเพื่อพักรถ โดยมีนายภานุพงศ์ อายุ 30 ปี เดินลงมาจากรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น
.
จากการตรวจค้นภายในรถยนต์พบอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าบรรจุอยู่ในกระเป๋าเดินทางจำนวน 4 ใบ ประกอบด้วย น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า FREEBASE สีม่วง จำนวน 800 ชิ้น, หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบเปลี่ยน SWITCH กล่องสีเขียว จำนวน 210 ชิ้น และกล่องสีแดงจำนวน 30 ชิ้น และ บุหรี่ไฟฟ้าชิ้น 9,000 คำ BAR9K จำนวน 60 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 250,000 บาท
.
จากการสอบถาม ผู้ต้องหารับว่า ตนเองจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่วัยรุ่นในพื้นที่ จ.สระบุรี โดยไปรับบุหรี่ไฟฟ้าจากริมทางรถไฟสายเก่า แขวงบางนาใต้ กทม. จากนั้นจะนำไปจำหน่ายต่อให้ลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเคยทำมาแล้ว 2 ครั้ง มีรายได้จากการจำหน่ายประมาณ 80,000 – 100,000 บาท ต่อเดือน
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่มิได้ผ่านพิธีการศุลกากรฯ” นำตัวพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งสืบสวนขยายผลไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามฎหมายต่อไป