ตม.ปราจีนฯลงตรวจสอบไม่มีบริษัทและ2สาวต่างด้าวชูนิ้วกลางจิ้มธงชาติไทย-เท้าเหยียบซ้ำอยู่ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี-ในไทย พบใช้โทรศัพท์มือถือเครือข่าย Smart เป็นเครือข่ายใช้ในประเทศกัมพูชาและจับภาพใบหน้าที่ปรากฏบนสื่อโซเชียลตรวจสอบในระบบไบโอเมทริกซ์ไม่ปรากฏว่ามีการเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด
เวลา 13.35 น. วันพุธที่ 30 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีมีการโพสต์และแชร์ภาพจาก TikTok 2 สาวชาวกัมพูชานำนิ้วกลางจิ้มใส่ธงชาติไทย พร้อมเต้นโชว์ จากนั้นนำธงชาติวางลงพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบ กระทืบซ้ำ พร้อมระบุข้อความว่าอยู่ที่ไซต์งานแห่งหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี
พล.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้นภาพที่มีลักษณะไม่เหมาะสม หญิงต่างด้าวเต้น กระโดดเหยียบธงชาติไทย ตามสื่อสังคมออนไลน์ TikTok ของผู้ใช้รายหนึ่ง โพสต์ข้อความ “พิกัดครับ ไซด์งานปราจีนบุรีครับ” และมีภาพประกอบเป็นผู้หญิงต่างด้าว 2 คนแต่งกายคล้ายคนงานก่อสร้าง มีเสื้อสะท้อนแสงสีเขียวคาดขาว มีภาษาจีนบนหน้าอก และภาษาอังกฤษเขียนชื่อ “NT2C GROUP โดยทั้งสองคนแสดงกระดาษลายคล้ายธงชาติไทย วางบนพื้น และเต้นเหยียบไปบนกระดาษดังกล่าว
ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรีดำเนินการตรวจสอบทุกนิคมอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ปรากฏว่า ไม่พบ บริษัทจีนที่รับงานก่อสร้างที่ใช้ชื่อ “NT2C GROUP” หรือตึกก่อสร้างที่มีลักษณะตามภาพ ในชั้นนี้ได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจในสังกัดตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเกี่ยวกับบริษัทดังกล่าวว่าอยู่ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรีหรือไม่
หรือมีบางบริษัทรับเหมาก่อสร้างใช้เสื้อกั๊กสีเขียวมีลักษณะคล้าย แต่ตัวอักษรจีนและชื่อบริษัทรับเหมาเป็นคนละบริษัท พบภาพหญิงต่างด้าวคนเดียวกันสวมเสื้อกั๊กสีเขียวและหมวกก่อสร้าง โดยมีข้อความในภาพสื่อความหมาย ปี 2016-2022 : ปี 2023-2025 : กัมพูชา อาจเป็นการสื่อความหมายถึงช่วงปีที่ทำงานในประเทศไทย และประเทศกัมพูชา
การกระทำในลักษณะดังกล่าวเป็นการเหยียดหยามธงชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่แทนความเป็นไทย เอกราช และเกียรติภูมิของประเทศ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 118 บัญญัติถึงการกระทำใดๆ ต่อธงหรือเครื่องหมายอื่นอันอันมีความหมายถึงรัฐ เพื่อเหยียดหยามประเทศชาติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสีหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ได้มอบหมายพนักงานสอบสวนพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย และอำนาจหน้าที่การเคารพธงชาติเป็นหน้าที่ของพลเมืองในชาติ และถือปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งจะไม่มีคนไทยคนใดกระทำการเหยียดหยามธงชาติของประเทศอื่น โดยในวันที่ 30 ก.ค.68 ได้สั่งการให้ตรวจสอบทุกจุดว่ามีอยู่ในปราจีนบุรีหรือไม่ ตามรายละเอียดที่นำเสนอแล้วก่อนหน้านี้ นั้น
คืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.มงคล โท้เป๋า ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ เปิดเผยว่า ในช่วงสายของวันนี้ ( 30 ก.ค.) ได้รับมอบหมายจากพล.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมกำลังตรวจสอบ บริษัท ไท่ หัว อิเล็กทรอนิกค์ (Sinoma) บ้านบุยายใบ ม.4 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ไม่พบบริษัท หรือ พนักงาน ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ทางด้าน ตม.จว.ปราจีนบุรี ได้รายงานการตรวจสอบ ประเด็นทางสื่อสังคมออนไลน์ กรณีหญิงคล้ายต่างด้าว กระทําการไม่เหมาะสมจากคลิปวิดีโอปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีหญิงสาวคาดว่าเป็นชาวกัมพูชา แต่งกายคล้ายคนงานก่อสร้างมีเสื้อสะท้อนแสงสีเขียว มีภาษาจีนบนหน้าอกและภาษา อังกฤษเขียนว่า “NT2C group” โดยได้นำกระดาษคล้ายธงชาติไทยวางบนพื้นเต้นและ เหยียบดังกล่าว
ตม.จว.ปราจีนบุรี ได้ตรวจสอบพบบัญชี Tiktok ต้นทางของคลิปดังกล่าว ชื่อ“Kā Kä” และได้ตรวจสอบภาพในคลิปวิดีโออื่นที่อยู่ในบัญชีดังกล่าว พบว่ามีการใช้ โทรศัพท์มือถือเครือข่าย Smart ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ใช้ในประเทศกัมพูชา
ประกอบกับวันนี้ (30 ก.ค.68) ได้ร่วมตรวจสอบกับตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ในพื้นที่ ต.บ่อทอง อำเภอ และ อ.ศรีมหาโพธิ ซึ่งมีข้อคิดเห็นในโซเชียลว่า คนต่างด้าวดังกล่าว อยู่ในพื้นที่นี้ ผลการตรวจสอบพบว่าไม่มีบริษัทดังกล่าวเข้ามาทำงานในพื้นที่ และ คน ต่างด้าวดังกล่าวไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี
ทั้งนี้ ตม.จว.ปราจีนบุรี ได้จับภาพใบหน้าที่ปรากฏบนสื่อโซเชียลดังกล่าว มาตรวจสอบ ในระบบไบโอเมทริกซ์ ไม่ปรากฏว่ามีการเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี มีคำสั่งการแจ้งหัวหน้าส่วนราชการ นายจ้าง สถานประกอบการ เรื่อง เฝ้าระวังแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา โดยคำสั่งระบุถึงสถานการณ์การสู้รบไทย-กัมพูชา ส่งผลให้มีบุคคลบางกลุ่มไปยั่วยุให้เกิดการเกลียดชัง และเกิดการทำร้ายร่างกายแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทย
เพื่อป้องกันในให้เกิดปัญหาดังกล่าวใน จ.ปราจีนบุรี จึงขอให้ท่านชี้แจงให้แรงงานชาวกัมพูชาทราบว่า กระทรวงแรงงานไม่มีนโยบายให้เลิกจ้างแรงงานกัมพูชา สามารถทำงานได้ตามปกติ แต่ให้ทำงาน สถานประกอบการ งดเว้นการรวมกลุ่มและออกไปนอกที่พักในเวลากลางคืนในช่วงเวลา ดังกล่าวนี้ และดูแลช่วยเหลือลูกจ้างกัมพูชาตามความเหมาะสม หากมีเหตุการณ์รวมกลุ่มของลูกจ้าง ท่านสามารถแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่รับผิดชอบ หรือแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดปราจีนบุรี
ด้านสำนักงานจัดหางานจังหวัดปราจีนบุรีรายงานจำนวนแรงงานต่างด้าว สัญชาติกัมพูชาที่ได้รับอนุญาตทำงาน จำนวน 20,719 คน นายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 673 แห่ง
มานิตย์ สนับบุญ -ข่าว/ จุฑารัตน์ – ภาพ/ ปราจีนบุรี
