นนทบุรี สองสามีภรรยานักธุรกิจถูกนักการเมืองนามสกุลดังทางใต้ แอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญฯ อดีต รมว.มหาดไทย ตุ๋นเงินแลกโครงการพันล้าน สูญกว่า 7 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 ก.ค. 68 ที่กระทรวงสาธารณะสุข จ.นนทบุรี ดร.พิมไหมทอง ศักดิพัตโภคิน หัวหน้าพรรคพร้อม พาน.ส.ผักกาด (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี และ นายบอม (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี สองสามีภรรยานักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ในจ.ลำปาง เดินทางเข้าพบ นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ช่วยเหลือหลังถูกหนุ่มใหญ่นามสกุลดัง แอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตุ๋นเงินเพื่อแลกสิทธิรับงานโครงการพันล้าน แถมซื้อรถหรู BMW เพื่อรับส่งรัฐมนตรีฯ สุดท้ายสูญเงินราว 7 ล้านบาท ผู้เสียหายแจ้งความแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า และกังวลว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เนื่องจากคู่กรณีมีนามสกุลดังอยู่ในจังหวัดทางภาคใต้
ดร.พิมไหมทอง ศักดิพัตโภคิน หัวหน้าพรรคพร้อม กล่าวว่า เนื่องจากตนได้รับการร้องเรียนจากสองสามีภรรยาที่ได้รับผลกระทบถูกหลอกจากนักการเมืองพรรคหนึ่ง ในหลายๆเรื่อง ตนในฐานะหัวหน้าพรรคพร้อม และเป็นที่พึ่งของประชาชน เมื่อมีประชาชนเข้ามาร้องเรียน ตนเห็นว่าเราควรที่จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย จึงได้พาผู้เสียหายไปแจ้งความที่สภ.เขลางค์นคร จ.ลำปาง และผู้เสียหายมีความกังวลในเรื่องของความปลอดภัย เกรงว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้า จึงได้พาผู้เสียหายมาพบนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากตนได้ติดตามและทราบว่าเมื่อมีคนมาร้องเรียนท่าน จะมีความคืบหน้าในด้านคดี และให้ความเป็นธรรมเสมอ ตนในฐานะนักการเมืองได้ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาภายใต้โครงการยุติธรรมจับต้องได้ของพรรคพร้อม
ด้าน น.ส.ผักกาด ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนได้รู้จักกับคู่กรณีผ่านเพื่อน ได้มีการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นทั้งนามสกุล และชื่อหน่วยงานของกระทรวงต่างๆ ทราบว่ามีจริง ตนเป็นนักธุรกิจพร้อมยอมรับความเสี่ยงในประมาณหนึ่ง การมีคอนเน็คชั่นเพิ่มถือเป็นเรื่องที่ดี ตนไม่ได้หวังอะไรที่ยิ่งใหญ่ มองแต่การขยายธุรกิจเพื่องานในอนาคต จึงได้รู้จักกัน คู่กรณีเห็นว่าตนมีความพร้อมจึงได้นำโครงการต่างๆมาเสนอ ภายหลังตนได้มีการไปสืบทราบว่าโครงการต่างๆไม่มีจริง คู่กรณีจึงเริ่มไหวตัวและหลบหน้า
ภายหลังตนได้ติดต่อไปยังผู้ใหญ่ท่านหนึ่งคนสุดท้ายที่คู่กรณีแอบอ้าง ได้พบเจอและพูดคุยกัน จึงรู้ว่าตนนั้นถูกหลอกจริง และได้รวบรวมหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความที่สภ.เขลางค์นคร จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา แต่คดีไม่มีความคืบ จึงได้มาขอคำปรึกษากับดร.พิมไหมทอง ศักดิพัตโภคิน หัวหน้าพรรคพร้อม เพราะกังวลในเรื่องของอิทธิพล เพราะภายนอกของสองสามีภรรยาเป็นคนธรรมดา แต่อ้างถึงผู้ใหญ่หลายท่าน ซึ่งตนมองว่าหากไม่ได้มีการรู้จักส่วนตัวคงไม่ไม่กล้าแอบอ้าง เพราะผิดกฎหมาย
คู่กรณีชอบนัดตนให้ไปเจอที่รัฐสภา อีกทั้งยังแนะนำคนในรัฐสภาหลายคนให้ตนรู้จัก ตนเคยขอเข้าไปพบผู้ใหญ่ที่จะต้องร่วมงานกัน แต่คู่กรณีมักจะเสนอตัวเป็นคนติดต่อเอง ไม่สะดวกให้ตนไปด้วย แต่จะแอบอ้างชื่อตลอดเวลามาเอาเงินหรือสิ่งของจากตน และเคยแอบอ้างชื่อนายพลท่านหนึ่งว่าดูแลโครงการที่ตนจะต้องร่วมงาน ซึ่งตนได้เคยพบเจอและนั่งรับประทานอาหารด้วย จึงได้หลงเชื่อ ผ่านไปซักระยะหนึ่งตนมองว่าโครงการที่อ้างว่าจะให้ตนร่วมงานไม่มีอะไรคืบหน้าจึงไปสืบหาแต่กลับไม่เจอ ไปเจออีกโครงการหนึ่งที่ใกล้เคียงและลักษณะคล้ายกัน จึงได้ไปพบกับนายพลท่านหนึ่งแบบส่วนตัวและถามหาความจริง โดยท่านบอกกับตนว่าไม่ทราบเลย
ทุกครั้งที่คู่กรณีจะมารับสิ่งของจากตนจะให้ตนส่งไปที่โกดังแห่งหนึ่งใน จ.ลำปาง หรือมารับสิ่งของที่บริษัทของตนใน จ.ลำปาง ด้วยตัวเอง ส่วนกรณีของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ คู่กรณีอ้างว่าตนมีตำแหน่งในรัฐสภาแล้ว จะมีหนังสือประเมินให้ตนกรอกเพื่อขอรับผ่านกรรมาธิการหนึ่ง แต่สุดท้ายตนก็ไม่ได้รับ
วันนี้ที่ตนเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากคู่กรณีเป็นผู้กว้างขวาง มีนามสกุลดังในจังหวัดทางภาคใต้ และเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ไม่ได้หวังจะได้เงินคืนเพียงแต่ไม่อยากให้คู่กรณีไปทำแบบนี้กับใครแล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเรามีหุ้นส่วนในบริษัทที่มีความรู้ความสามารถหลายคนช่วยกันตัดสินใจ แต่กลับยังถูกหลอกขนาดนี้ ซึ่งตนไม่อยากให้ทุกคนมาเจอแบบตน
นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผู้เสียหายได้เดินทางมาร้องเรียนกับตนว่าถูกหนุ่มใหญ่นามสกุลดัง แอบอ้างว่าเป็นเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลอกประมูลงาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการของกระทรวงมหาดไทย แอบอ้างขายวุฒิการศึกษา และแอบอ้างว่ามีคำสั่งแต่งตั้งผู้เสียหายให้ได้รับตำแหน่งเป็นเลขานุการฯ/ที่ปรึกษาฯ/ผู้เชี่ยวชาญฯ
มีการให้ผู้เสียหายโอนเงินเก็บค่าโครงการใหม่ที่มีเพิ่มขึ้น ค่าแรกเข้าเป็นกรรมาธิการฯของรัฐสภา และซื้อรถหรู BMW มือสอง มูลค่า 1,668,000 บาท เพื่อรับ-ส่งรัฐมนตรี ซึ่งเคสนี้มีบุคคลต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้อง จะต้องให้หน่วยงานของกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) และกองบังคับการป้องกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ในการขยายผล เพราะบุคคลที่เกี่ยวข้องน่าจะมีตำแหน่งทางการเมือง ทางผู้เสียหายเกรงว่าจะต้องสู้กับผู้มีอิทธิพล และกังวลในเรื่องความปลอดภัย จึงเดินทางมาร้องทุกข์กับตนที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กระทรวงสาธารณสุข
เบื้องต้น ตนได้มีการประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.ลำปาง และประสานงานไปยังกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอให้จัดชุดคุ้มครองพยาน เพราะบุคคลดังกล่าวอยู่ในแวดวงการเมือง
*** หมายเหตุ : คู่กรณีคือนายณภัทรสพล เอ่งฉ้วน (นามสกุลดังที่จ.กระบี่) แอบอ้างเป็นหัวหน้าพรรคไทยยั่งยืน (ไม่มีชื่อพรรคในสารระบบ คาดว่ากกต.ไม่รับรอง)











