กลุ่มกำนันกับผู้ใหญ่พนัสนิคม ทำเพื่อปู่จัดขบวนเคลื่อนย้ายร่างผู้วายชนม์ด้วยการเอาควายเทียมเกวียนจากบ้านไปวัด ระยะทางเกือบ 5 กม. ได้รับความสนใจจากชาวบ้านตลอดเส้นทางที่ผ่าน
นี่เป็นภาพบรรยากาศขบวนเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิต ที่ประกอบไปด้วย ควายเทียมเกวียน 5 เล่ม วัวเทียมเกวียน 2 เล่ม ควายเทียมคราด 3 เล่ม ม้า 1 คู่ ควายเผือกอีก 5 คู่ พร้อมกับรถบรรทุกสิบล้อขนย้ายพวงรีด 3 คัน ตั้งขบวนออกเดินทางจากบ้านเลขที่ 70/1 ม .11 ต.หมอนนาง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรีขบวนมีความยาวเกือบ 500 เมตร
ออกเดินทางจากบ้านพักเพื่อไปยังวัดหนองชันจันทาวาส ม.12 ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ระยะทางเกือบ 5 กิโลเมตรผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายอนุชาอินทมาพลอย อายุ 53 ปี กำนันตำบลนาเริก และนายวัชระ อินทมาพลอย อายุ 31 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 ต.หมอนนาง ซึ่งทั้งสองมีศักดิ์เป็นหลานของนายใจ อินทมาพลอย ผู้ล่วงลับ อายุ 80 ปี ทั้งสองได้เปิดเผยว่า คุณปู่ชื่นชอบวิถีชนบท เครื่องใช้ไม้สอยทางการเกษตร ทั้งคราด เกวียน
ชอบเลี้ยงควาย เลี้ยงวัว เครื่องใช้ทุ่นแรง ส่วนใหญ่คุณปู่ก็จะเป็นคนทำเอง ทั้งเกวียนทั้งคราด ลูกๆหลานๆเกิดมาก็เห็นสิ่งต่างๆเหล่านี้อยู่แล้ว นอกจากนี้คุณปู่ก็มักจะบอกลูกๆหลานๆให้ช่วยกันอนุรักษณ์ประเพณีวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา โดยเฉพาะสังคมไทยตั้งแต่เก่าแก่เป็นสังคมเกษตรกรรม สัตว์เลี้ยงเครื่องทุ่นแรงที่ใช้ในการประกอบสัมมาอาชีพขอให้รู้จักหวงแหนรักษา อย่าให้สูญหาย พวกตนซึ่งเป็นลูกหลานก็ซึมซับ รับเอาคำสั่งสอนของปู่มาปฏิบัติตามมาโดยตลอดสำหรับสิ่งที่ทำในครั้งนี้ก็เป็นการยืนยันสานต่อเจตนาของปู่ จึงนำเอาเกวียนเทียมควาย
เผือก 3 เล่ม ควายเผือกเทียมคราด 3 เล่ม วัวเทียมเกวียน 2 เล่ม เคลื่อนย้ายร่างปู่จากบ้านในเขต พื้นที่พนัสนิคมไปยังวัดในพื้นที่อำเภอบ้านบึง ข้ามอำเภอ ใช้วิธีแบบโบราณตามที่ปู่คุ้นเคยทำมา โดยมีเพื่อนฝูง ผู้ที่ชื่นชอบประเพณีแบบโบราณหาเกวียน คราด ที่ปัจจุบันที่หาได้ยากและใช้งานได้จริงมีน้อยมาร่วมขบวนแห่ด้วย
ทางด้านกำนันอนุชา และผู้ใหญ่วัชระ ผู้เป็นหลานยังเปิดเผยต่อไปอีกว่า คุณปู่ชื่นชอบการเลี้ยงกระบือเอาไว้ใช้งาน และยังเลี้ยงเอาไว้แข่งคราด แข่งวิ่งเร็วอีก ชอบพาพวกตนไปแข่งในที่ต่างๆเช่น ควายแข่งกับวัวที่เพชรบุรี ควายแข่งว่ายน้ำกับหมูที่แม่น้ำเจ้าพระยา ควายแข่งกับม้าที่ราชบุรีสานสัมพันธ์เกิดเป็นพรรคพวก จนวันนี้ ทุกคนที่ปู่เคยไปสร้างมิตรไมตรี พอทราบข่าวการเสียชีวิต ต่างก็รู้สึกเสียใจกับการจากไปของปู่ และต่างก็นำเอาวัวควาย ม้ามาร่วมขบวน
ส่วนทางด้านผู้ใหญ่วัชระ ซึ่งเป็นหลานก็ชื่นชอบการเลี้ยงกระบือ ซึ่งเลี้ยงเอาไว้เป็นการอนุรักษ์ และใช้แข่งตามเทศกาลเช่นประเพณีวิ่งควาย ทั้งควายเร็ว ควายสวยงาม ควายคราดย้อนหลังไปครั้งที่ปู่ยังมีชีวิต ตนยังพาปู่ขี่ควายเทียมเกวียน ยกขบวนขันหมากไปสู่ขอเจ้าสาวแต่งงานมาแล้ว เป็นการยืนยันได้เป็นอย่างดีว่ามีความรักผูกพันธ์กับควาย และข้าวของเครื่องใช้แบบสังคมเกษตรกรรมมาก
วิศาล แสงเจริญ
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดชลบุรี
