โขลงช้างป่าทับลานแม่ลูกอ่อนยกพลแม่แปรก5ตัวบุกพังบ้านพักคนงานกลางดึกเละปล้นเสบียงรื้อหาอาหารในตู้เย็น ตู้กับข้าว ถังพลาสติกขนาด 200 ลิตรจำนวน2ใบและ1,000 ลิตร จำนวน 1ใบ โอ่งมังกรขนาดกลาง จำนวน1ใบหม้อหุงข้าว ทุบกระปุกปลาร้าเสียหายพบช้างลงหลายจุด ทำให้เกิดความเสียหาย ทั้งพืชสวนทางการเกษตร ครัวเรือน และ โรงเรียนชงโคสันติสุขวิทยาคาร โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ ในพื้นที่ห้วยโสมง แจงนับเป็นวันที่ 6ติดต่อกันที่โขลงช้างป่าจากอุทยานแห้งชาติทับลานออกนอกผืนป่าเข้ามาหากินนอกพื้นที่
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ 10 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี พบในกลุ่มไลน์เครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่า โดยผู้ใช้ชื่อนายสุริยะ อุทระภาศ หรือผู้ใหญ่แพ็ท ได้โพสต์ภาพ และ คลิปการปฎิบัติงาน ผลความเสียหายจากการถูกโขลงช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลานบุกรุกเข้ามาทำลายบ้านเรือนชาวบ้าน บุกเข้าโรงเรียน และ ยังบุกเข้าโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้
โดยระบุข้อความ ว่า … เรื่อง เฝ้าระวังช้างป่า หมู่ที่ 3 บ้านวังอ้ายป่อง ตำบลแก่งดินสอ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 19:00 น. โดยนายสุริยะ อุทระภาศ หรือผู้ใหญ่แพ็ท ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 บ้านวังอ้ายป่อง ตำบลแก่งดินสอ พร้อมด้วย ผช.ผรส.ชรบ. ชุดป่าไม้ห้วยคำภู และชุดจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่า ได้ร่วมกันผลักดันเฝ้าระวังช้างป่า
พบช้างลงหลายจุด ทำให้เกิดความเสียหาย ทั้งพืชสวนทางการเกษตร ครัวเรือน และ โรงเรียนชงโคสันติสุขวิทยาคาร โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ ในพื้นที่ห้วยโสมง จ.ปราจีนบุรี ด้วยช้างที่ลงปริมาณมากจึงทำให้ได้รับความเสียหายในวงกว้าง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายสุริยะ อุทระภาศ หรือ ผู้ใหญ่แพ็ท กล่าวว่า เมื่อคืนนี้หลังจากเฝ้าระวังช้างป่า หมู่ที่ 3 บ้านวังอ้ายป่องร่วมกับเหน้าที่ป่าไม้อุทยานทับลานเฝ้ารังผลักดันโขลงช้างป่า แต่พบมีอุปสรรคคือฝนตกไม่สามารถปฏิบัติงานได้ จนกลางดึกปลอดผู้คนรวมถึงชุดเฝ้าระวังช้างป่า ราวเวลา 01.30 น. วันนี้ ( 10 ก.ค.)โขลงช้างได้บุกเข้าทำลายที่พักคนงานได้ตรวจสอบและแจ้งรายงานต่อไป นายสุริยะ กล่าว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์ชาวบ้าน หมู่บ้านวังอ้ายป่อง หมู่ 3 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มีโขลงช้างแม่แปรก (โขลงช้างแม่ลูกอ่อน) ช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลานออกนอกผืนป่ามรดกโลก ยกโขลงบุกเข้าพังบ้านพักคนงานช่วงกลางดึกประมาณเวลา 01.30 น.วันนี้ ( 10 ก.ค.)พังเสียหายก่อนเข้าป่าส่งเสียงร้องขู่คำรามลั่นป่า ขณะเกิดเหตุโชคดีที่ไม่มีคนงานอาศัยนอนพักอยู่ในบ้านพักหลังดังกล่าว
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักของคนงาน ซึ่งทำไว้ให้คนงานพักอาศัยอยู่ในกลางสวนยูคาลิปตัส พบร่องรอยช้างป่าพังบ้านพักคนงานซึ่งเป็นบ้านพักไม้ปลูกติดพื้นฝาบ้านทำด้วยไม้และสังกะสี ถูกช้างป่าพังออกได้รับความเสียหาย 2 ด้าน และช้างยังรื้อค้นหาอาหารในตู้เย็น ในตู้กับข้าว ถังพลาสติกขนาด 200 ลิตรจำนวน2ใบและ1,000 ลิตร จำนวน 1ใบ โอ่งมังกรขนาดกลาง จำนวน1ใบหม้อหุงข้าว ทุบกระปุกปลาร้ากินจนแตกเสียหาย
นายสมัย ใจดี คนเฝ้าสวนยางที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ช่วงตี 1 กว่าที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองกำลังจะกรีดยางพาราอยู่นั้นได้ยินเสียงโครมครามๆอยู่ข้างที่พักอาศัย และ ได้ยินเสียงช้างร้องดังลั่นป่า จึงส่องไฟดูในความมืดถึงกับตะลึง พบช้างให้แม่ลูกอ่อนตัวใหญ่กำลังพังและรื้อค้นในบ้านพักคนงานอย่างดุดัน
ตนเองส่งเสียงร้องบอกให้หยุดพังบ้านพักคนงานให้กลับเข้าป่าไป แต่ช้างแม่ลูกอ่อนยังคงพังบ้านพักต่อ อึดใจต่อมามีช้างอีก 3 ตัวรวมเป็น 5 ตัว เดินออกจากป่ามาสมทบช่วยกันรื้อบ้านพักหลังดังกล่าวด้วยความโมโห ตนเองได้ส่งเสียงร้องห้ามพอแล้วๆ และขอให้พากันเข้าป่าไปแต่ช้างก็ยังดื้อพากันรื้อบ้านพักหลังดังกล่าวค้นหาอาหารและทำลายข้าวของอย่างดุดัน ตนเองจึงตะโกนร้องขอบอกไปอีกครั้งหนึ่ง ช้างป่าแม่ลูกอ่อนหยุดและร้องเสียงดังลั่นป่าหลายครั้งพร้อมกับเดินพาช้างหนีเข้าป่าไป
ด้านนายธงชัย เสนน้อย เจ้าของสวนป่ายูคากล่าวว่า หลังจากทราบว่าช้างป่าเข้ามาพังบ้านพักของคนงานเมื่อช่วงเช้า จึงออกมาดูพบว่าโขลงช้างป่าพังบ้านพักของคนงานซึ่งยังไม่มีคนงานเข้ามาอาศัยอยู่ พูดไม่ออก เพราะเป็นครั้งที่ 2แล้วที่ถูกช้างป่าบุกทำลายที่พักคนงาน อยากจะฝากถึงทางเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาติดตาฝูงช้างป่าเกรงว่าจะหวนกลับมาในหมู่บ้านอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมวันนี้(10 ก.ค.) นับเป็นวันที่ 6ที่โขลงช้างป่าจากอุทยานแห้งชาติทับลานออกนอกผืนป่าเข้ามาหากินนอกพื้นที่พื้นที่นี้ต่อเนื่องกัน โดยก่อนหน้านั้นทางอุทยานแห่งชาติทับลาน ร่วมกับ ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) และเครือข่ายราษฎรเฝ้าระวังฯ ยังคงดำเนินการผลักดันช้างป่าที่ออกนอกป่าธรรมชาติ ในท้องที่ ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี โดยเฉพาะบริเวณหมู่ 2 บ้านท่าสะตือ และหมู่ที่ 3 บ้านวังอ้ายป่อง อย่างต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่ได้ใช้โดรนตรวจจับความร้อน ประกอบลำโพงบินตรวจการณ์ พบช้างโขลงจำนวนรวมประมาณ 50 ตัว (ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดน้อยจากเดิม คือ 70 ตัว) ช้างได้แบ่งเป็นโขลงใหญ่และโขลงย่อยรวม 4 โขลง แยกย้ายกันลงหากิน ซึ่งจากการตรวจสอบพบช้างโขลงประมาณ 7 ตัว มุ่งหน้าไปบริเวณบ่อลูกรัง พิกัด 47 P 823620N 1562295E ห่างจากหมู่บ้านวังอ้ายป่องประมาณ 1 กิโลเมตร
มานิตย์ สนับบุญ – ข่าว / ทองสุข สิงห์พิมพ์ – ภาพ / ปราจีนบุรี
