ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบ 6 ผู้ต้องหา เมายาขับรถหมดสภาพ
พบลูกซองไทยประดิษฐ์บรรจุกระสุนพร้อมใช้งานภายในรถ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้
การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล.,
พ.ต.อ.โอฬาร เอี่ยมประภาส รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ปฏิบัติราชการ บก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง และพ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง รอง ผกก.2 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.ชรัณ ปาณะศรี รอง สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.วิมล แก้วชู รอง สว.(ป.) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ด.ต.ธนพนธ์ เกิดเขาทะลุ, จ.ส.ต.สราวุธ กรรณสุรางค์ และ จ.ส.ต.อมรเทพ อินนิมิตร ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม
1.) นายชรินทร์ฯ อายุ 49 ปี (เคสที่หนึ่ง)
2.) นายบัญญวัตฯ อายุ 23 ปี (เคสที่สอง)
3.) นายอนุพงศ์ฯ อายุ 23 ปี (เคสที่สอง)
4.) นายธีรศักดิ์ฯ อายุ 21 ปี (เคสที่สอง)
5.) นายณรงค์ศักดิ์ฯ อายุ 21 ปี (เคสที่สอง)
6.) นายอภิสิทธิ์ฯ อายุ 21 ปี (เคสที่สอง)
ข้อกล่าวหา เป็นผู้ขับขี่รถที่เสพยาเสพติดฯและครอบครองยาเสพติดฯ
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) เม็ดสีแดง ชนิดกลมแบน จำนวน 510 เม็ด (รวม 2 เคส)
2. ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) ลักษณะเกล็ดสีขาวขุ่น น้ำหนักชั่งรวมถุง จำนวน 4.64 กรัม
3. อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ พร้อมเครื่องกระสุนขนาดเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด
สถานที่จับกุม อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร
พฤติการณ์ เคสที่หนึ่ง ขณะที่ตำรวจทางหลวงชุมพร (ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.) ออกตรวจไปตามถนน
เส้นเลี่ยงเมืองชุมพรตามปกติ พบรถยนต์กระบะสีส้มขับแซงมาด้วยความเร็วในช่องทางขวาลักษณะ
ไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้ถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงเร่งเครื่องตามไปเพื่อขอตรวจสอบ เมื่อเรียกรถต้องสงสัยคันดังกล่าวจอด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดคุยกับ นายชรินทร์ฯ ผู้ขับขี่พบมีท่าทีพิรุธ พูดจากวกไปวนมาคล้ายคนเสพยาเสพติดและไม่ยอมให้ความร่วมมือในการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสงสัยว่า น่าจะมีสิ่งของ
ผิดกฎหมายอยู่ภายในรถ จึงทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาบ้า รวม 240 เม็ด และยาไอซ์อีกประมาณ 5 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผีที่อยู่ภายในรถ โดยนายชรินทร์ฯ ผู้ขับขี่ยอมรับว่า ยาทั้งหมดเป็นของตนเอง
ซื้อมาไว้เสพ และเพิ่งเสพมาไม่นานก่อนที่จะถูกเรียกโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จากนั้นจึงได้นำตัว
นายชรินทร์ฯ ไปตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดในร่างกายจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นผู้ขับขี่รถที่เสพยาเสพติดฯ และครอบครองยาเสพติดฯ ก่อนที่จะส่งตัวพร้อมของกลางดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน
สภ.วิสัยเหนือ ต่อไป
เคสที่สอง ต่อเนื่องในคืนเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร (ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.) ขณะออกตรวจไปบนถนนเอเชีย 41 (ขาเข้า กทม.) ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร ตรวจพบรถยนต์เก๋ง ต้องสงสัยบรรทุกผู้โดยสารเต็มคัน ขับแซงรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงเรียกรถคันดังกล่าวให้หยุด พบชายวัยรุ่น 5 คน
อยู่บนรถ เมื่อสอบถามก็พูดจาวกไปวนมา ไม่รู้เรื่อง ท่าทางอาการคล้ายคนเสพยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จึงออกคำสั่งให้วัยรุ่นทั้ง 5 คนลงจากรถ และเข้าค้นรถยนต์คันดังกล่าว พบยาบ้า รวม 277 เม็ด และอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ พร้อมเครื่องกระสุนขนาดเบอร์ 12 จำนวน 5 นัดจากการสอบสวน นายบัญญวัตฯ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ ยอมรับว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยสั่งซื้อมาจากเฟซบุ๊กในราคา 3,000 บาท เพื่อนำมาเสพกับกลุ่มเพื่อน ในขณะเดียวกัน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นอย่างละเอียดก็พบ ผู้โดยสารด้านหน้า พบกระเป๋าผ้าภายในบรรจุยาบ้า จำนวน 10 เม็ด และอาวุธปืนซุกอยู่ใต้เบาะเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะชายทั้ง 5 ราย พบสารเสพติดในร่างกายทั้งหมด โดยทั้งหมดได้ยอมรับว่า นัดรวมตัวกันและรวบรวมเงินเพื่อเปิดห้องที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองชุมพรเพื่อเสพยา หลังจากนั้นก็ได้ขับรถออกมาจากโรงแรมและกำลังจะแยกย้ายแต่กลับมาถูกตำรวจทางหลวงชุมพรจับได้ จึงแจ้งข้อหา เป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดฯ ครอบครองยาเสพติดฯ และครอบครองอาวธปืนฯ ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. โทร.062 597 8885
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”