นนทบุรี วงจรปิด แม่ลูก 4 ขับขี่รถจยย.ล้ม รถบรรทุกขนส่งเอกชนทับซ้ำเจ็บสาหัส คนขับอ้างไม่รู้ทับคน 2 เดือน คดีไม่คืบ
เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 68 ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี, ประธานกิตติมศักดิ์ กต.ตร.จังหวัดนนทบุรี และผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” ได้รับเรื่องร้องเรียนจากน.ส.อรวรีย์ จันทรพิบูลย์ อายุ 37 ปี แม่ค้าขายของตลาดนัด และครอบครัว เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม หลังประสบอุบัติเหตุขับขี่รถจยย.ชนท้ายรถกระบะขณะกำลังชะลอตัว ก่อนจะเสียหลักล้มลง ทำให้ถูกรถบรรทุก 6 ล้อ ของบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งเหยียบทับซ้ำ ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกเชิงกรานหัก กระดูกก้นกบหัก กระดูกข้อเท้าทั้ง 2 ข้างหัก แบบมีแผลเปิด พักรักษาตัวในรพ.นานกว่า 1 เดือน ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถกลับมาเดินได้เป็นปกติ ทำให้ต้องหยุดงาน ขาดรายได้ นอกจากนี้ตำรวจยังให้ไปหากล้องวงจรปิดเอง ซ้ำเมื่อพบคู่กรณีกลับอ้างว่าไม่รู้ว่าเหยียบทับคน ตอนนี้ผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว คดีไม่คืบหน้า เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 68 บริเวณ ถ.กาญจนาภิเษก (ขาเข้า) ปากซอยเทศบาล 11 โรงเรียนพระแม่สกลสงเคราะห์ ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ภาพจากกล้องวงจรปิด วันที่ 5 พ.ค. 68 เวลา 12.16 น. จับภาพรถยนต์เก๋งสีแดง ขับอยู่เลนขวา ซึ่งกำลังชะลอตัวเพื่อเปลี่ยนเลน ขณะนั้นมีรถกระบะ 4 ประตูสีดำ และรถกระบะ 4 ประตูสีขาว ขับชะลอตามหลังกันมา ก่อนที่รถจยย.ของผู้บาดเจ็บที่ขับตามหลังสุด หักหลบไม่พ้นชนท้ายรถกระบะ 4 ประตูสีขาว และล้มลง โดยมีรถบรรทุก 6 ล้อ ของขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งที่ขับอยู่เลนกลางทับซ้ำจนรถทั้งคันโยก และขับออกไปจากจุดเกิดเหตุโดยไม่ได้ลงมาดูผู้บาดเจ็บ
น.ส.อรวรีย์ ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 68 ช่วงเที่ยง ตนพาลูกคือน้องโฟร์ อายุ 18 ปี (เสื้อสีเหลือง) และเพื่อนของลูกไปสมัครงาน ก่อนจะแวะกินข้าว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนเงยหน้าอีกทีเห็นรถกระบะคันสีขาวจอดอยู่ข้างหน้า เพื่อนลูกซึ่งเป็นคนขับขี่รถจยย.พยายามหักหลบแต่ไม่พ้นจึงชนท้ายทำให้รถจยย.ล้มลง แรงกระแทกทำให้กระเด็นตกรถ ขณะนั้นตนนอนคว่ำอยู่ รู้สึกตัวอีกทีมีรถบรรทุก 6 ล้อ ของขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งเหยียบท่อนล่างของตนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งน้องโฟร์เป็นคนซ้อนท้ายสุดก็ถูกรถเหยียบได้รับบาดเจ็บเช่นกัน จากนั้นมีวินจยย. และพลเมืองดีโทรเรียกกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ
ตนได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกเชิงกรานหัก, กระดูกก้นกบหัก, กระดูกข้อเท้าทั้ง 2 ข้างหัก แบบมีแผลเปิด นอนรักษาตัวที่รพ.พระนั่งเกล้า ตั้งแต่ 5 พ.ค.-13 มิ.ย. 68 ผ่าตัด 5 ครั้ง ช่วงสะโพกใส่เหล็กยิงน็อตทั้งหมด ปัจจุบันผ่านมา 2 เดือน ยังไม่สามารถเดินหรือช่วยเหลือตัวเองได้
หลังเกิดเหตุทางญาติได้ไปติดตามความคืบหน้าของคดี ตำรวจบอกว่ากล้องวงจรปิดไม่เห็นป้ายทะเบียนให้ไปหาเอง แม่กับลูกสาวคนโตของตนไปช่วยกันหากล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุจึงได้จากร้านขายต้นไม้มา พบว่าเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ ของขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง จากนั้นทางตำรวจได้ออกหมายเรียกไปที่บริษัทขนส่งเอกชน ทำให้ได้เจอตัวคนขับรถคันดังกล่าว ซึ่งอ้างว่าไม่รู้ว่าเหยียบทับคน ตนจึงขอร้องอยากให้ช่วยรับผิดชอบ แต่คนขับบอกว่าต้องรอให้ประกันเคลียร์ ตนไม่แน่ใจว่าวันเกิดเหตุคนขับรู้หรือไม่ว่าเหยียบคน แต่จากที่ดูกล้องวงจรปิดรถทั้งคันโยก โดยก่อนหน้านั้นมีรถยนต์เก๋งสีแดง-ส้ม ชะลอเพื่อเปลี่ยนเลน ทำให้รถที่ตามมาเบรคไม่ทัน และรถบรรทุกก็เหยียบทับซ้ำตนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ตนไม่ได้ทำงาน ไม่มีเงิน มีค่าใช้จ่ายส่วนตัว เพราะหาเงินใช้เองมาตลอด พอเกิดเรื่องจึงไม่ได้ทำงาน ไม่รู้จะเดินได้เมื่อไหร่ หรือจะได้กลับไปทำงานตอนไหน สถานการณ์ตอนนี้ตนไม่มีค่าห้อง หากไม่จ่ายจะต้องย้ายออก ภายในวันที่ 7 ก.ค. 68 ตนเองก็พยายามจะคุยแล้ว แต่เข้าใจเจ้าของหอเพราะตนค้างค่าห้องไว้ 2 เดือนแล้ว งานก็ไม่ได้ทำ มีลูกทั้งหมด 4 คน และมีแค่ลูกสาวตนโตเงินเดือนไม่ถึงหมื่นที่ช่วยเหลืออยู่ อยากให้คู่กรณีเห็นใจและสงสารตน ที่ผ่านมาใช้สิทธิ์ 30 บาท และพ.ร.บ.รถ รักษาตัว อยากให้ช่วยเยียวยาหรือรับผิดชอบตน ไม่ได้ขออะไรมากมาย แค่ขอให้ช่วยดูแลในระหว่างที่ไม่ได้ทำงานก็เท่านั้น ตนรู้สึกกังวลและกลัวมากว่าจะกลับมาเดินไม่ได้ จนกระทั่งมีการผ่าตัดเกิดขึ้น จึงทำให้ตนรู้สึกใจชื้นขึ้นมา แต่เครียดเรื่องคดีความ ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เพราะคู่กรณีไม่มีการติดต่อกลับมา มีแต่ตนที่ต้องพยายามติดต่อไป
น.ส.กนกพร หรือใบเฟิร์น ลูกสาวคนโต (เสื้อสีดำ) กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนขอขอบคุณดร.แก้ว ที่ช่วยเหลือตนและครอบครัวของตนทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย การติดตามคดี พร้อมมอบเงินบางส่วนให้ครอบครัวของตนได้หายใจต่อ ตอนนี้ครอบครัวของตนลำบากมากหันไปทางไหนก็ไม่มีใครช่วยเหลือ และอยากขอบคุณที่ช่วยหางานให้ตนกับน้องมีงาน มีอาชีพหาเลี้ยงครอบครัวด้วย
ด้าน ดร.แก้ว กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับการร้องเรียนกรณีคุณแม่เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน และถูกรถบรรทุกเหยียบซ้ำ แต่คดีไม่คืบหน้า คู่กรณีไม่แสดงความรับผิดชอบ ทำให้ผู้เสียหายเดือดร้อนในด้านการเป็นอยู่ต่างๆ หลังจากนี้จะต้องเข้าไปเยียวยาในส่วนของที่พักอาศัย โดยเบื้องต้นตนได้มอบเงินจำนวน 3,000 บาท และประสานกับคุณชัชวาลย์ รักษาวงศ์ ที่ปรึกษากรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด, เจ้าของร้าน Miki Miki ได้รับลูกทั้ง 2 คน ของผู้เสียหายเข้าทำงานด้วย
ส่วนเรื่องคดีความคงจะต้องนำเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าคดีควรจะมีความคืบหน้าไปมากกว่านี้ และยังต้องประสานงานไปที่คู่กรณีว่าจะรับผิดชอบอย่างไร รอแต่ประกันไม่ได้ ไม่ว่าจะถูกหรือผิด แต่ผู้เสียหายกำลังเดือดร้อน เขากำลังเรียกร้องสิทธิ์ของเขา ควรเร่งดำเนินการให้ไวที่สุด กรณีดังกล่าวไม่สามารถจะอ้างว่าเฉี่ยวชนไม่ได้ เพราะเหยียบคนทั้งคน อาจจะใช้เป็นข้ออ้างได้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่เชื่อ หากไม่ยอมรับ การชนแล้วหนีมีโทษถึงจำคุกแน่นอน