สืบขุนเทียนรวบหนุ่มช่างตัดเสื้อผันตัวเป็นโจรตระเวนลักทรัพย์ ฉกกระเป๋าตามรถยนต์ฉวยจังหวะจอดไม่ได้ล็อก เหยื่อ 3 ราย สูญเงินกว่า 1.3 แสนบาท อ้างหาเงินใช้หนี้-ลูกค้าไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้างตัดเสื้อ เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 3 ก.ค.ที่สน.บางขุนเทียน พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤติเดช จันทร์เพชร ผกก.สน.บางขุนเทียน, พ.ต.ท.จารุกิตติ์พัฒน์ สุขยิ่ง รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน, พ.ต.ท.ขจร ธูปประกายศรี สว.สส. สน.บางขุนเทียน และ ร.ต.ต.สายันต์ สามเกลียว รอง สว.สส.สน.บางขุนเทียน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ร่วมกันแถลงจับกุม นายวีระชัย หรือ หนุ่ม วรรณศรี อายุ 48 ปี อาชีพรับตัดชุดข้าราชการ และเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ พร้อมด้วยของกลาง อาทิ ล็อกเก็ต พระครูบาอาริยะชาติ จำนวน 1 องค์, กรอบทอง 1 กรอบ, รถจยย. ยี่ห้อ keeway รุ่น versilia 150 สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน, เสื้อเชิตแขนยาวลายสก็อตพื้นสีดํา จํานวน 1 ตัว, กางเกงขาวยาวสีดํา จํานวน 1 ตัว, หมวกนิรภัย สีดํา จํานวน 1 ใบ โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 180 ซอยเอกชัย 76 แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร สืบเนื่องจากคดีนี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ จากผู้เสียหายทั้งหมด 3 ราย รายแรกเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน รายที่สอง วันที่ 22 มิถุนายนและรายล่าสุดวันที่ 3 กรกฎาคม โดยผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ถูกคนร้ายก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน คือ ขณะจอดรถยนต์ไว้ริมถนนย่านเอกชัย ถูกคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์มา ฉวยโอกาสเปิดประตูรถ หยิบกระเป๋าผู้เสียหายภายในรถ ก่อนขับรถหลบหนีไป โดยหลังก่อเหตุได้ทรัพย์สินแล้วจะนำกระเป๋าไปโยนทิ้งไว้ โดยทรัพย์สินสูญหาย อาทิ พระเครื่อง, เครื่องประดับ และเงินสด รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 1.3 แสนบาท ซึ่งจากการสืบสวนและตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่า ก่อนก่อเหตุคนร้ายได้มีการจอดรถจักรยานยนต์ และส่องเข้าไป ภายในรถของผู้เสียหาย แล้วเมื่อผู้เสียหายลงจากรถ จะขับรถจักรยานยนต์วนมาก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าว ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ลงพื้นที่ตรวจสอบจนทราบว่า รถจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุมาจอดอยู่บริเวณบ้านเลขที่ 180 ซอยเอกชัย 76 จึงติดตามไปจับกุมตัวไว้ได้ โดย นางสาวทิพปภา โตชมบุญ อายุ 32 ปี อาชีพส่งผัก หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ขณะตนเอารถไปจอดรถส่งของอยู่ริมถนนซอยเอกชัย 33 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. และลงไปยืนคุยกับลูกค้า ขณะกำลังขึ้นรถหันมาอีกทีก็พบว่ากระเป๋าสตางค์ตนหาย โดยคนร้ายนำกระเป๋าตนไปโยนทิ้งไว้ที่วัดสิงห์ แต่จังหวะที่ตนโทรเข้าไปที่เบอร์ลูก ซึ่งคนร้ายไม่ได้ลักโทรศัพท์ไปด้วย จากนั้นมีตำรวจรับสายแล้วแจ้งว่า ให้มารับกระเป๋าเนื่องจากมีพลเมืองเก็บได้ ตนจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางขุนเทียน แล้วตนได้ไปขอกล้องวงจรปิดกับบ้านตรงจุดเกิดเหตุ ส่วนทรัพย์สินที่หายไปเงินสด 400 และ แหวนเครื่องประดับ ทั้งนี้ตนรู้สึกดีใจที่ตำรวจทำงานจนตามจับคนร้ายมาให้ และอยากเตือนภัยไม่ให้คนร้ายไปก่อเหตุลักษณะนี้กับเหยื่อรายอื่น ๆ อีก จากาการสอบสวน นายวีระชัย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยอ้างว่า ขับรถวนดู แต่ไม่คิดว่ามีใครอยู่ในรถเพราะมองไม่เห็น ด้วยความบังเอิญก็เปิดประตูรถเข้าไปเฉยๆ ส่วนเงินที่ได้เอาไปจ่ายให้ลูกจ้าง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ประมาณ 7 เดือนได้รับงานตัดเสื้อ และส่งงานให้ลูกค้าไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าสินค้าทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่าแรง ประกอบเป็นหนี้ค่าเช่าบ้าน และหนี้สินอื่นๆ เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ด้าน พล.ต.ต.คมสิทธิ์ ฝากเตือนภัยประชาชนว่า การจอดรถทุกครั้งควรตรวจสอบว่าเราได้ล็อคประตูเรียบร้อยหรือไม่ แม้เป็นรีโมตก็ควรเช็คมือดูว่าล็อคแล้วหรือยัง ต้องมีสติไม่ประมาท หากไม่เปิดโอกาสให้เหยื่อ เหตุจะไม่เกิด และหากโอกาส เหยื่อ และคนร้าย 3 สิ่งนี้มาประจวบเหมาะกันอาชญากรรมจะเกิดขึ้น //////
