รวบคนขับรถบรรทุกตู้ทึบลอบขนบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่จากชายแดนมาเลเซีย เตรียมส่งลูกค้า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้ การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ธนาคาร จันทร์กระจ่าง รอง ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.สวรรยา เอียดตรง สวญ.ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล. และ พ.ต.ท.ธรรศพงศ์ ศรียะพันธ์ สว.สทล.5 กก.7 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.ประดิษฐ์ สิตหิรัญ รอง สว.(ป.) ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล., ร.ต.ต.อรุณสุข ทับเจริญพงศ์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล., ร.ต.ต.ศฤงคาร หิรัญวดี รอง สว.(ป.) ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล., ด.ต.ประทีป ไชยมี ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล., ด.ต.ธวัชชัย รอดแก้ว ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล., ด.ต.ราเชนด์ สีทอง ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล. ร่วมกันจับกุม นายคอดอรีฯ อายุ 56 ปี ข้อกล่าวหา ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษี หรือของต้องจำกัด หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องก็ดี หรือเป็นของที่นำเข้า มาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวแก่ของนั้นก็ดี ตาม พรบ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ทวิ พร้อมตรวจยึดของกลาง 1. บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 823 ชิ้น 2.รถยนต์บรรทุกตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว รุ่น NLR 130 สถานที่จับกุม ทล.42 ต.ลำภู อ.เมือง จว.นราธิวาส พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนราธิวาส จับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนบุหรี่ไฟฟ้า หลังสังเกตเห็นพฤติกรรมน่าสงสัยขณะขับรถเข้ามาในพื้นที่เพื่อขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบของกลางบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์จำนวนมาก ซึ่งเป็นสินค้านำเข้าผิดกฎหมาย ไม่มีเอกสารรับรองแหล่งที่มา ผู้ต้องหารับสารภาพว่า รับของมาจากชายแดนมาเลเซีย และกำลังจะนำของไปส่งลูกค้าตามออเดอร์ ก่อนถูกแจ้งข้อหา “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย หรือรับไว้ซึ่งของที่ยังมิได้เสียภาษี หรือของต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ศุลกากร” พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพในชั้นจับกุม/และปฏิเสธในชั้นสอบสวน “การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
